ตอนที่ 7 นางหงส์ผู้ฆ่าอสรพิษให้ตายทั้งเป็น

ยามที่สายลมพัดโบกพลิ้ว เสมิอนดั่งพาลมหายใจแห่งคิมหันต์ผ่านม่านมู่ลี่ของศาลากลางน้ำ ซึ่งเป็นที่สำราญและรับรองแขกเหรื่อของตระกูลหวัง ภายในศาลานั้น ร่างอรชรของช่อลดาในคราบของ หวังอ้ายหลิง นั่งนิ่งสงบ ดุจกระถางคิมหันตบุปผาที่ไร้กาลโยกคลอน มือเรียวขาวซีดกำชายกระโปรงผ้าไหมเนื้อดีแน่น จนปลายเล็บกดลึกลงไปในเนื้อผ้า สัมผัสถึงความตึงเครียดที่ยากเกินจะข่มกลั้น

ดวงตากลมโตคู่สวยกวาดมองบุคคลทั้งสามที่นั่งอยู่เบื้องหน้าทีละคน ด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้นจนมิอาจพรรณนาได้ คล้ายมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านทั่วสรรพางค์กาย เมื่อนางตระหนักว่าเบื้องหน้าของนางในยามนี้ คือเหล่าตัวละครสำคัญจากในนิยายที่ตนได้ทะลุมิติเข้ามา! ลมหายใจของนางสะดุด คล้ายกับว่าทุกสิ่งรอบกายกำลังหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงหัวใจของนางเท่านั้นที่ยังคงเต้นระรัวดุจกลองศึก

“เชิญแม่นางมู่” หวังอ้ายหลิงประคองเสียงไม่ให้สั่นไว้ในลำคอ

“คารวะคุณหนูหวัง” มู่อวี้จูน้อมคำนับอย่างนอบน้อม

ในขณะนั้นเอง หวังอ้ายหลิงสังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยประกายวาววับของหม่าจ้าวหยางทันทีที่เขาเห็นหญิงงามเพียบพร้อมดังดอกบัวขาวผู้ใสซื่ออย่างคุณหนูสกุลมู่ จึงได้นึกขบขันความอ่อนไหวของบุรุษผู้สง่างามราวเทพสงครามในชุดอาภรณ์ดำเข้มลวดลายพยัคฆ์ แต่ดูเหมือนในยามนี้เขาจะถอดเขี้ยวเล็บเป็นเพียงลูกแมวนอนหวดเชื่อง ๆ ที่พร้อมจะคลอเคลียและหยอกล้อกับรากกัญชาของมันเสียมากกว่า

“คุณหนูหวัง อาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ...” มู่อวี้จูเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ มาให้อย่างจริงใจ ดึงให้หวังอ้ายหลิงกลับมาอยู่ในความเป็นจริงกับสิ่งตรงหน้า

“ข้าสบายดี คุณหนูมู่ มิได้ป่วยหรือมีอาการหนัก เมื่อวานนี้ข้าได้พักผ่อนไปเล็กน้อยเพียงเท่านั้น มีแต่ข่าวลือเท่านั้นที่ไม่สบาย ได้รู้เช่นนี้แล้วคุณหนูก็ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกนะ” หวังอ้ายหลิงกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกผิดที่คำโกหกออกไปคำโต

“เช่นนั้นก็ดีแล้วเจ้าค่ะ” มู่อวี้จูพรายยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจไร้พิษสงจนคนหนีปัญหาแอบละอายใจ

ช่อลดาเหลือบมองไปที่หม่าจ้าวหยางที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ สีหน้าของเขาเรียบเฉยผิดกับองค์ชายสามเจิ้งหยงเฉียงที่กำลังดูสนุกกับสถานการณ์นี้

“ดูเหมือนว่าคุณหนูหวังจะหลงลืมบางสิ่งที่ได้กระทำลงไป...” หม่าจ้าวหยางโพล่งขึ้น

ช่อลดาในคราบของหวังอ้ายหลิงกลอกตาไปมา เพราะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านั้นนางร้ายตัวจริงอย่างหวังอ้ายหลิงทำอะไรแย่ ๆ ลงไปบ้าง

“ข้า...” หวังอ้ายหลิงอ้ำอึ้ง จะบอกบุรุษตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมา ได้ยังไงกันว่าตนเองเพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่กี่ชั่วยาม แต่ถ้าไม่จบเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าบุรุษคลั่งรักจะไม่ยอมยุติเรื่องนี้ลงง่าย ๆ

“ความจำข้าเลอะเลือน ขออภัยรองแม่ทัพคงต้องรบกวนท่านแล้ว” กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ

“เมื่อคืนนี้ท่านได้ใช้วาจาดูถูกแม่นางมู่ต่อหน้าขุนนางผู้ใหญ่ สร้างความอับอายให้แก่แม่นางมู่อย่างยิ่ง...” บุรุษแข็งแกร่งขยายความอย่างตรงไปตรงมา

พาให้ช่อลดาในคราบของหวังอ้ายหลิงชักสีหน้าไม่ถูก จะยิ้มรับก็อับอายเกินว่าจะทำได้ จะสลดก็ไม่อาจจะแสดงไปอย่างนั้นเพราะไม่อาจจดจำได้ถึงถ้อยคำที่กล่าวออกไป

“ข้าขอโทษทันไหมล่ะท่านรองแม่ทัพ เพราะจะพูดกันจริง ๆ ข้าจำไม่ได้หรอกว่าพูดอะไรออกไปบ้างอารมณ์นั้นน่ะ รวม ๆ เลยก็คือ ขอโทษละกันนะ...” หวังอ้ายหลิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“ข้าขอโทษละกันนะแม่นางมู่ ยกโทษให้ข้านะ” หวังอ้ายหลิงส่งเสียงกล่าววาจาตรงไปตรงมา

สาวรับใช้ที่ยืนเรียงรายอยู่ตรงจุดต่าง ๆ ในบริเวณศาลาต่างก็ลอบกลอกตามองกันไปมา เพราะไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากปากผู้เป็นนายของตนเอง ตั้งแต่เข้ามาเป็นเด็กรับใช้ในจวนสกุลหวัง คุณหนูหวังขึ้นชื่อว่าเป็นนางผู้ไม่ผิด การที่นางกล่าวขอโทษผู้คนง่าย ๆ มันช่างเป็นการกระทำอันชวนประหลาดใจ จนทำให้คนที่อยู่ในบริเวณเสียมารยาทหัวเราะร่าดังขึ้นมา

“นางไม่สบายจริง ๆ ด้วย”

หวังอ้ายหลิงกัดกรามแน่นอย่างอดทน สำหรับช่อลดาแล้วการขอโทษไม่ใช่สิ่งที่น่าละอาย แต่การที่ตกเป็นตัวตลกกลางวงสนทนาช่างน่าอดสูอย่างยิ่ง ในเวลานั้นเองช่อลดาจึงเข้าใจหวังอ้ายหลิงดีว่าเหตุใดจึงทำตัวร้ายกาจ เพราะการตกเป็นตัวตลกนั้นจิตตกยิ่งกว่าเป็นคนที่ถูกหัวเราะเยาะ

“พระองค์ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริงนะเพคะ ต้องมีสักวันที่พระองค์จะได้ยิ้มแห้งแน่เพคะ หม่อมฉันสัญญา” หวังอ้ายหลิงปรามคนหัวเราะจนตัวโยกไปมาน้ำเสียงแข็ง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลอะไรกับบุรุษสูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย

“ใต้เท้าหม่า ท่านช่างกล่าวหาคุณหนูหวังด้วยคำร้ายแรงนัก ข้าไม่ได้ถือโกรธนางเลยแม้แต่น้อย” หญิงสาวอ่อนหวานเผยรอยยิ้มละไม

ช่อลดาได้ฟังมุมปากในความรู้สึกพลันก็บิลงในทันที เธอเข้าใจอะไรบางอย่างที่นักเขียนหลงลืมเอาไว้ในงานของตนเอง คือ ได้สร้างให้มู่อวี้จูเป็นเหยื่อ แท้ที่จริงแล้วนางดอกบัวขาวประจำเรื่องคือนักล่าโดยแท้ นางพร้อมจะตะปบเหยื่อก่อนที่จะเลือกกินส่วนที่อ่อนนุ่มและย่อยง่ายอย่างละมุนละม่อม สีหน้าและแววตาที่หวิวไหวราวกับลูกกวางน้อยนั้นซ่อนพิษสงร้ายลึกเอาไว้ตบตาทั้งตัวพระเอกและพระรอง ช่อลดาในคราบของคุณหนูหวังลอบถอนหายใจเบา ๆ ได้แต่นึกสมเพชตัวเองที่เป็นลูกสิงอ่อนหัดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ว่าจะยากลำบากเช่นไร เธอก็ต้องผ่านบทบาทอันยากเข็ญนี้ไปให้ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ