ตอนที่ 8: ราคาแพงไปไหม

ลู่เจียวกับป้าหวังจัดแผงผักเสร็จเรียบร้อย เผือกทรงเครื่องที่ทำอย่างพิถีพิถันเมื่อตอนเช้าก็ถูกนำมาวางบนแผง เธอจัดเรียงอย่างสวยงามพร้อมกับวางไม้จิ้มเล็ก ๆ ไว้เผื่อให้ลูกค้าได้ลองชิม  

ขณะที่แสงแดดยามเช้าเริ่มสาดส่องลงมา ลู่เจียวรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ในเมืองใหญ่ครั้งแรกในฐานะแม่ค้าขายของ ชีวิตก่อนเธอเป็นนักการตลาดแต่ไม่ใช่ต้องลงมาหน้างานและลงมือทำเองแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่การตลาดของเธอคือทำให้ทั่วโลกได้เห็นสินค้า ซึ่งมันง่ายมากเพราะมีอินเตอร์เนตเข้าถึงทุกคนบนโลกใบนี้

เด็ก ๆ ทั้งสองคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองดี พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะช่วยแม่ขายของอีกครั้ง เด็กน้อยทั้งสองออกไปยืนหน้าร้านด้วยความกระตือรือร้น พวกเขารู้ว่าถ้าขายได้ดีเหมือนเมื่อวาน แม่จะมีเงิน และพวกเขาก็อาจจะได้เสื้อผ้าชุดใหม่ตามที่แม่สัญญาไว้ 

ชิงอีเป็นคนแรกที่ร้องตะโกนเรียกลูกค้าด้วยน้ำสียงสดใส "เผือกทรงเครื่องอร่อย ๆ จ้า! กินแล้วอิ่มท้อง เด็กกินได้ ผู้ใหญ่ก็อิ่มพุง ราคาไม่แพง!"  

ซีซวนเองก็ไม่น้อยหน้า เขาร้องเรียกลูกค้าด้วยเสียงดังชัดเจน "พ่อค้าตัวน้อยขายเผือกทรงเครื่องอร่อย ๆ กินแล้วอิ่มจนพุงกางครับ!" 

เสียงใสแจ๋วของเด็กทั้งสองคนที่ร้องเรียกลูกค้าดังก้องตลาด ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างต้องหยุดชะงัก มองด้วยความประหลาดใจ ภาพของเด็กชายและเด็กหญิงที่ยืนขายของอยู่ในตลาดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กลายเป็นจุดสนใจที่ทำให้ผู้คนอดแวะเวียนมาดูด้วยความสนใจไม่ได้ 

ไม่นานลูกค้าก็เริ่มทยอยเดินมาที่แผงของพวกเธอ บางคนมาซื้อผักจากป้าหวัง บางคนก็เข้ามาดูเผือกทรงเครื่องที่ลู่เจียวตั้งใจทำมาตั้งแต่เช้าตรู่ 

"เผือกทรงเครื่องอร่อยจริง ๆ เหรอหนู?" แม่บ้านคนหนึ่งถามชิงอีด้วยน้ำเสียงอบอุ่น  

ชิงอีรีบพยักหน้า "อร่อยมากเลยค่ะ หนูกินแล้วอิ่มจนเดินไม่ได้เลย!" หล่อนพูดพร้อมกับทำหน้าอาย ทำให้แม่บ้านหัวเราะชอบใจ ก่อนที่แม่บ้านจะหยิบเผือกทรงเครื่องขึ้นมาชิมด้วยความสนใจ 

"อืม อร่อยจริง ๆ" แม่บ้านพูดพร้อมกับหยิบเงินจ่าย และมีลูกค้าคนอื่นเดินเข้ามามุงดูที่แผงของเราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

เธอสังเกตเห็นว่าแผงของเราดูคึกคักกว่าหลายแผงในตลาด จนรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นลูกค้าหลายคนเดินเข้ามาดูแผงขายของอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ตลาดเริ่มคึกคักมากขึ้น มีชายวัยกลางคนแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนพ่อบ้านของตระกูลใหญ่ เขาเดินผ่านแผงของเธอด้วยสีหน้าแปลกใจ ยิ่งได้ยินเสียงเรียกลูกค้าของเด็ก ๆ เกี่ยวกับเผือกทรงเครื่อง เขาดูสนใจอย่างเห็นได้ชัด  

"เผือกทรงเครื่องเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน มันคืออะไรเหรอ?" เขาเอ่ยถามด้วยความสนใจ 

ชิงอีที่ยืนอยู่ข้างหน้าแผงรีบเชื้อเชิญด้วยความตื่นเต้น "คุณปู่ใจดีลองชิมก่อนสิคะ อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ!" เด็กหญิงบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ แล้วหันมามองแม่ของเธออย่างขอกำลังใจ

ลู่เจียวยิ้มและยื่นมือไปหยิบจานเผือกทรงเครื่องที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ วางไว้ให้ลูกค้าลองชิม "นี่ค่ะ ลองชิมดูได้เลยค่ะ ฉันทำเองกับมือ" 

พ่อบ้านหยิบเผือกชิ้นเล็กขึ้นมาลองชิม เขาได้ลิ้มรสเผือกทรงเครื่อง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นแววตาประหลาดใจ "อืม อร่อยมาก ไม่เคยเห็นอาหารแบบนี้มาก่อนจริง ๆ" เขาพูดด้วยความพอใจ หลังจากที่ได้ลองชิม ถึงได้ตัดสินใจถามราคาของเผือก "แล้วขายยังไงล่ะ?" 

"หนึ่งชิ้นราคาสามเหมาค่ะ" ลู่เจียวตอบด้วยความเร็ว 

เขาพยักหน้าช้า ๆ ก่อนหันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ "แพงไปหรือเปล่า? สามเหมาเนี่ย..." 

ก่อนที่ลู่เจียวจะเป็นคนตอบ ซีซวนรีบตอบขึ้นมาอย่างฉะฉาน "คุณปู่ครับ เผือกนี้เป็นเผือกบนเขาที่แม่ของผมต้องไปขุดด้วยตัวเอง ต้องแบกลงมาจากเขา และยังมีเนื้อสัตว์ใส่ด้วย ราคานี้ไม่แพงเลยครับ คุณปู่ซื้อไปแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน" 

พ่อบ้านได้ฟังคำอธิบายของซีซวนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง "เด็กน้อยตัวเล็กแค่นี้ ยังช่วยแม่ทำงานได้ เป็นเด็กดีจริง ๆ" เขาพูดพร้อมกับบิดแก้มของซีซวนอย่างเอ็นดู 

"คุณลุงคะ เผือกทรงเครื่องนี้ถ้าเอาไปอุ่นอีกทีก่อนกิน จะยิ่งอร่อยมากกว่านี้ค่ะ ลองดูนะคะ เพราะมันเป็นรายการใหม่ที่คนในเมืองยังไม่เคยได้ลองชิมมาก่อน รับรองว่าคุณลุงจะชอบแน่ ๆ" ลู่เจียวเอ่ยสนับสนุนคำพูดของลูกชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ตกลง ฉันเอาห้าชิ้นเลยแล้วกัน" พ่อบ้านคนนั้นพยักหน้ารับก่อนจะตัดสินใจลองซื้อไปชิมดู

ลู่เจียวยิ้มรีบตักเผือกทรงเครื่องใส่ห่อให้เรียบร้อยพร้อมกับกล่าวขอบคุณเขา หลังเขาจ่ายเงินเธอเห็นว่าเขาดูพอใจกับสิ่งที่ได้ไป 

ผู้คนในตลาดได้ยินเสียงเรียกลูกค้าของเด็ก ๆ และคำแนะนำจากลูกค้าที่ลองชิม เริ่มทยอยเข้ามาซื้อเผือกทรงเครื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ ลู่เจียวดีใจที่เห็นว่าผู้คนเริ่มสนใจและชื่นชอบเผือกทรงเครื่อง และในที่สุดเผือกทรงเครื่องทั้งหมดก็ขายหมดเกลี้ยง 

นอกจากเผือกทรงเครื่องของเธอจะขายหมดแล้ว ยังทำให้ผักของป้าหวังขายหมดเช่นกัน ป้าหวังดูพอใจกับวันนี้มากถึงขั้นหันมายิ้มให้ลู่เจียวกับลูกพร้อมเอ่ยชม 

"ซีซวน ชิงอี หนูสองคนเก่งมาก ๆ ขายเก่งจนทำให้ผักของป้าขายหมดไปด้วย" ป้าหวังหัวเราะ ขณะที่ซีซวนกับชิงอีก็ยิ้มรับคำชมแก้มแทบปริ 

ลู่เจียวนั่งลงหลังจากขายเผือกทรงเครื่องหมดเกลี้ยง เธอหยิบถุงเงินเล็ก ๆ ออกมาแล้วเริ่มนับเงินที่ได้จากการขายในวันนี้ ขณะที่นับเงิน ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภูมิใจ กว่าจะนับเสร็จปรากฏว่าเธอขายได้ถึงสิบห้าหยวนเต็ม ๆ 

"ไม่น่าเชื่อเลย..." ลู่เจียวพึมพำกับตนเอง เธอนึกถึงราคาขายที่หมู่บ้านมันขายได้แค่ชิ้นละหนึ่งเหมา แต่พอมาขายในเมืองกลับได้ราคาสูงถึงสามเหมา ซึ่งมากกว่าเดิมสองเท่า ความต่างนี้ทำให้เธอเห็นถึงโอกาสที่จะสร้างรายได้มากขึ้นในอนาคต 

"ยินดีด้วยนะลู่เจียว ขายได้ดีขนาดนี้ ป้าว่าพวกเรามาขายในเมืองทุกวันเลยดีไหม?" ป้าหวังยืนมองลู่เจียวนับเงินอยู่ใกล้ ๆ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มยินดี

"ฉันเห็นด้วยค่ะป้า ถ้ามันขายได้ดีแบบนี้ พวกเราควรมาขายทุกวัน" ลู่เจียวหันไปยิ้มให้ป้าหวังและพยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากเก็บแผงเสร็จเรียบร้อยลู่เจียวรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น วันแรกของการขายในเมืองผ่านไปด้วยดี ป้าหวังเสนอพาพวกเราไปเดินเที่ยวในตลาดต่อ  

ป้าหวังเดินนำทางสามแม่ลูก พวกเธอเดินผ่านตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย ในขณะเดียวกันลู่เจียวกับทุกคนก็กินเผือกทรงเครื่องที่เหลือเป็นอาหารเช้าไปด้วย มันอร่อยเหมือนที่เคยบอกลูกค้า และอิ่มท้องไปพร้อม ๆ กับเดินดูของในตลาด 

จู่ ๆ ป้าหวังก็หันมาถาม "ลู่เจียว คิดว่าจะซื้ออะไรกลับบ้านบ้างล่ะ?" 

เธอมองลูกทั้งสองคนที่เดินข้างกัน พวกเขาดูตื่นเต้นและดีใจมาก ลู่เจียวยิ้มแล้วตอบป้าหวัง "ฉันอยากดูเสื้อผ้าให้ลูกนะคะ รวมถึงรองเท้าด้วย พวกเขาไม่มีชุดใหม่ใส่เลย" 

ป้าหวังพยักหน้าอย่างเข้าใจ "ดีเลยลู่เจียว ไปกันเถอะ ป้าจะพาไปดูร้านเสื้อผ้าเอง" 

เด็ก ๆ ได้ยินว่าจะได้เสื้อผ้าใหม่ก็ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด "จริงเหรอครับแม่! พวกเราจะได้เสื้อผ้าใหม่แล้วใช่ไหม?" ซีซวนถามด้วยความดีใจ ขณะที่ชิงอีก็จับมือพี่ชายแน่น 

"ใช่จ้ะ ตอบแทนที่วันนี้หนูสองคนช่วยแม่ขายเผือกทรงเครื่องจนหมด แม่จะซื้อให้แน่นอน" ลู่เจียวกล่าวยิ้ม ๆ  

สามแม่ลูกเดินตามหลังป้าหวังไปยังร้านขายเสื้อผ้าด้วยความหวังและความสุขที่อัดแน่นในใจ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ