ตอนที่ 18: ไปโรงพยาบาล

เช้าของวันใหม่อากาศสดใสท่ามกลางสายหมอกบาง ๆ ที่ลอยคลุมยอดหญ้าเบื้องล่าง ความเงียบสงบในยามเช้ากำลังจะถูกแทนที่ด้วยการเดินทางที่รอคอยมาตลอดหลายวัน ลู่เจียวยืนอยู่หน้าประตูบ้านพร้อมกับสามีซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้เล็ก ๆ ร่างกายของเขาดูอ่อนแรงลงไปมากในช่วงนี้

ใกล้ถึงเวลาเดินทาง เสียงรถยนต์ที่คุ้นเคยดังมาจากถนนสายเล็กที่ลัดเลาะผ่านหมู่บ้าน สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังต้นเสียง รถเช่าสีเข้มขับเข้ามาใกล้ เป็นรถที่ลุงเฉินเช่ามาจากในเมืองเพื่อเดินทางกลับบ้าน และวันนี้จะมารับทั้งลุงเฉินและป้าโจวกลับเข้าเมืองด้วย

ซีซวนกับชิงอีไม่ได้เข้าไปในเมืองวันนี้ด้วย มีแม่เฒ่าฟูดูแลอยู่ที่บ้าน

ลุงเฉินกับป้าโจวยืนรออยู่กับหลานชายและหลานสะใภ้ ทั้งสองจึงขยับเข้าไปใกล้รถเมื่อมันจอดสนิท คนขับเปิดประตูออกมาตรวจเล็กน้อยก่อนจะโบกมือให้ขึ้นรถ ลุงเฉินหันมาหาหลาน ๆ ด้วยรอยยิ้ม “ขึ้นรถกันเถอะ กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลก็อีกนาน”

“ขอบคุณมากค่ะลุงเฉิน ขอบคุณป้าโจวด้วยนะคะที่ช่วยดูแลพวกเรามาตลอด” ลู่เจียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไร ๆ ขึ้นรถกันเถอะ” ป้าโจวพูดพลางยิ้มอย่างเอ็นดู ลุงเฉินเพียงยิ้มแล้วเดินเข้าไปช่วยพยุงกัวหยางให้ลุกขึ้น

ลู่เจียวเข้าไปช่วยอีกแรง ค่อย ๆ พยุงร่างที่เคยแข็งแรงให้ขึ้นนั่งบนเบาะหลังของรถ ลุงเฉินนั่งข้างหน้าใกล้กับคนขับ ขณะที่เธอนั่งข้างสามี ส่วนป้าโจวนั่งติดประตูอีกฝั่ง

รถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองเซินโจว สองข้างทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม แสงแดดส่องลงมากระทบกับทุ่งหญ้าและท้องนาที่กว้างใหญ่ ทำให้บรรยากาศดูสงบ

เมื่อใกล้ถึงตัวเมืองเซินโจวที่อยู่ตรงหน้าคือเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ถนนสายหลักเริ่มคลาคล่ำไปด้วยรถราและเสียงเรียกของผู้ค้าขายที่พยายามเรียกลูกค้า บรรยากาศที่คึกคักนี้ค่อย ๆ กลืนกินความสงบ

ใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก่อนจะถึงโรงพยาบาลประชาชนเซินโจว ตัวอาคารเป็นอาคารสามชั้นทาสีขาวที่เริ่มจางและสีลอกตามกาลเวลา ด้านหน้ามีบันไดที่ทอดขึ้นสู่ประตูทางเข้า หลายคนเดินเข้าออกอาคาร บางคนเดินกระเผลก บางคนมีใบหน้าซีดเซียว พยาบาลบางคนช่วยพยุงผู้ป่วยที่อ่อนแรง แม้จะมีผู้คนแออัด แต่ก็ยังคงมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

เมื่อรถเช่าจอดสนิทที่หน้าโรงพยาบาลประชาชนเซินโจว ลุงเฉินก็ลงจากรถทันทีและมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหันไปเห็นบุรุษพยาบาลที่ยืนอยู่ใกล้ประตูทางเข้า ลุงเฉินเดินตรงไปหาเขาและพูดคุยสักครู่ ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ไม่นานนักเขาก็เข็นรถเข็นออกมา

เธอมองสามีที่พยายามประคองตัวอยู่ในรถ ใบหน้าของเขาแม้จะดูอ่อนล้า แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความอดทน ลู่เจียวคอยจับมือเขาไว้แน่นและบีบมือเพื่อให้กำลังใจ บุรุษพยาบาลเลื่อนรถเข็นมาหยุดอยู่ข้าง ๆ ประตูรถ จากนั้นเขาก็ย่อกายลงและช่วยพยุงกัวหยางขึ้นนั่งบนรถเข็นอย่างระมัดระวัง

“พร้อมไหมครับคนไข้?” บุรุษพยาบาลถามด้วยน้ำเสียงใจดี ขณะปรับตำแหน่งพนักพิงให้

“พร้อมครับ ขอบคุณมาก” กัวหยางตอบเสียงเบา

กัวหยางนั่งได้แล้ว ลุงเฉินและป้าโจวเดินตามหลัง ส่วนลู่เจียวเดินประกบข้าง ๆ รถเข็นอย่างไม่ห่าง สายตาของเธอจับจ้องไปที่โรงพยาบาลที่อยู่ตรงหน้า ภายในโรงพยาบาลถูกจัดไว้อย่างเรียบง่าย พื้นกระเบื้องสีขาวอมเทาถูกปูเรียงกันทั่วห้อง โถงกว้างมีที่นั่งไม้เรียงรายสำหรับผู้ป่วยและญาติที่มารอคอยการรักษา ที่นั่งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนจากชนบทและชานเมือง ซึ่งทำให้บรรยากาศภายในอาคารคึกคักแต่ก็เคร่งเครียดไปในเวลาเดียวกัน

ลู่เจียวเดินไปลงทะเบียนที่โต๊ะทำงาน เจ้าหน้าที่พยาบาลดูยุ่งกับการกรอกเอกสารและต้อนรับผู้ป่วยแต่ละรายด้วยความกระตือรือร้น เธอต้องแจ้งชื่อของสามีและอาการที่เขามี จากนั้นพยาบาลก็มอบบัตรให้ พร้อมทั้งบอกขั้นตอนคร่าว ๆ ในการตรวจรักษา

ทุกคนได้เข้าไปนั่งรอที่แผนกกระดูกและข้อ ความเงียบสงบในห้องนั่งรอผสานกับเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบของผู้ป่วย และผู้ดูแล ทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย บางคนจับมือลูกหลาน บางคนมีท่าทีวิตกกังวล

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กัวหยางถูกเรียกชื่อให้เข้าไปในห้องตรวจ หมอในชุดเสื้อคลุมสีขาวยาวยืนรออยู่ข้างในห้องตรวจ เขาดูท่าทางใจดีและเป็นมืออาชีพ ข้าง ๆ มีพยาบาลรอช่วยเหลือหมออย่างเงียบ ๆ

“คนไข้กัวหยางใช่ไหมครับ เชิญขึ้นนั่งบนเตียงเลยครับ” หมอบอก ก่อนจะมีพยาบาลและลุงเฉินช่วยพยุงกัวหยางขึ้นไปนั่ง

หมอเริ่มตรวจบริเวณขาที่เจ็บและสอบถามอาการเพิ่มเติมอย่างละเอียด กัวหยางตอบกลับตามที่เขามีอาการ

ในห้องตรวจสีขาวสะอาด คุณหมอที่ดูใจดีและจริงจังในคราวเดียวกันนั่งอยู่ตรงข้ามลู่เจียวกับสามี หลังจากตรวจอาการอย่างละเอียดแล้ว เขาก็หันมาอธิบายให้ฟังถึงผลการตรวจและแผนการรักษาที่ต้องทำ

“สรุปนะครับ อาการของคนไข้หลังการผ่าตัดมีความคืบหน้าที่ดีมาก” คุณหมอกล่าวพลางยิ้มให้ “โชคดีที่การผ่าตัดครั้งที่แล้วประสบความสำเร็จ ตอนนี้ที่เราต้องทำคือฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อขาด้วยการทำกายภาพบำบัด”

ลู่เจียวโล่งใจเมื่อได้ยินว่าไม่ต้องผ่าตัดซ้ำ เธอหันไปมองกัวหยางซึ่งเขาพยักหน้าเบา ๆ แสดงถึงความเข้าใจ

คุณหมอเริ่มอธิบายต่อ “กายภาพบำบัดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากครับ เพื่อให้กล้ามเนื้อของคนไข้แข็งแรงขึ้น สามารถกลับมาเดินและใช้ชีวิตตามปกติได้”

เธอถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติม “แล้วขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดล่ะคะคุณหมอ?”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ