ตอนที่ 20: เยี่ยมบ้านลุงเฉิน

หลังจากพาหยางกัวเข้าห้องพักสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อย ลุงเฉินกับป้าโจวก็พาลู่เจียวออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้ามายังที่พักของพวกเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ถนนหนทางค่อย ๆ แคบลงเมื่อนั่งรถเข้ามาถึงเขตชุมชนคนงาน

บรรยากาศในละแวกนี้เงียบสงบเรียบง่าย อาคารเป็นหอพักสำหรับคนงานในโรงงานใกล้เคียงที่มาพักอาศัย อาคารดูเก่าไปหน่อย ชั้นล่างเป็นร้านค้าของชำเล็ก ๆ สองสามร้าน แต่ละร้านมีผักสดและของใช้จำเป็นวางขาย ผู้คนเดินสวนกันไปมา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มและรอยเหนื่อยล้าแฝงอยู่ในแววตาของพวกเขา

พอไปถึงอาคารหอพัก ลุงเฉินเปิดประตูเชิญเธอเข้าไปข้างใน ภายในห้องค่อนข้างแคบและมีเพียงพื้นที่จำเป็นเท่านั้น ข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย เตียงนอน โต๊ะเล็ก ๆ กับตู้เก็บของอยู่รวมกันอย่างพอเหมาะ ดูแล้วเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นแม้จะเรียบง่ายและประหยัด

ป้าโจวยิ้มให้พลางชี้ไปที่เก้าอี้ไม้เก่า ๆ ตัวหนึ่งข้างโต๊ะ “นั่งก่อนสิ อาเจียว ทำตัวตามสบายนะ”

“ขอบคุณค่ะ” ลู่เจียวพูดพลางนั่งลง ดวงตากวาดมองไปรอบห้องเล็ก ๆ ที่ใช้เป็นทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ลุงเฉินกับป้าโจวอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดหลายปีเพื่อทำงานในโรงงานใกล้ ๆ และเก็บเงินเลี้ยงชีพ ชีวิตเรียบง่ายที่พวกเขามีดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนงานอย่างพวกเขา

ลุงเฉินเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ พลางเปิดบทสนทนา “อาเจียว ตอนนี้อาหยางก็ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว พยาบาลก็ดูแลดี หมอเองก็บอกว่าจะพยายามช่วยเต็มที่ ไม่ต้องห่วงมากไปนะ”

เธอยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเล็กน้อย “ค่ะ ขอบคุณทั้งลุงเฉินและป้าโจวมากเลย ถ้าไม่มีพวกท่าน ฉันก็คงลำบาก”

ป้าโจวยิ้มพร้อมตบบ่าเบา ๆ “ไม่ต้องเกรงใจหรอก เราก็เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว”

บรรยากาศการพูดคุยดูเป็นกันเอง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาของกัวหยาง การที่ต้องจ่ายล่วงหน้าไปแล้วสองสัปดาห์ ทำให้ต้องรีบหาทางหาเงินที่เหลือให้ครบ

การย้ายเข้ามาอยู่ใกล้โรงพยาบาลอาจเป็นวิธีที่ช่วยให้ประหยัดค่ารถไปกลับและสะดวกในการมาดูแลกัวหยางได้มากขึ้น แต่ที่พักที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลอย่างนี้ดูท่าจะมีค่าใช้จ่ายสูง ลู่เจียวตัดสินใจถามออกไปอย่างไม่ปิดบัง

“ลุงเฉินคะ แล้วถ้าฉันจะหาห้องเช่าแถวนี้ ค่าเช่าจะประมาณเท่าไหร่คะ?”

ลุงเฉินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนตอบ “ห้องแบบของลุงกับป้า เป็นห้องเดียว มีห้องน้ำในตัวก็ประมาณสามสิบหยวนต่อเดือน แต่ดูจากความจำเป็นของอาเจียวกับเด็ก ๆ แล้ว น่าจะต้องหาห้องที่มีสองห้องนอนใช่ไหม?”

เธอพยักหน้า “ค่ะ อย่างน้อยก็ต้องมีอีกห้องให้เด็ก ๆ นอนด้วยกัน ถ้าห้องเช่าสองห้องนอนจะแพงมากไหมคะ?”

ลุงเฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย “ถ้าเป็นสองห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้นไปถึงสี่สิบห้าถึงหกสิบหยวนต่อเดือน อาจแพงหน่อย แต่ก็น่าจะสะดวกมากขึ้น”

สี่สิบห้าถึงหกสิบหยวนต่อเดือนถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักมากสำหรับพวกเธอในตอนนี้ หากต้องจ่ายค่ารักษากัวหยางอีก ก็จะทำให้ไม่มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเลยเธอมองมือที่กำเข้าหากันแน่น พลางคิดหาทางออก

“อาเจียว อย่าเพิ่งเครียดมากไป ค่อย ๆ คิดนะ ยังมีเวลา อีกไม่นานอาหยางก็น่าจะดีขึ้น ถึงตอนนั้นอะไรๆ ก็คงไม่แย่เท่าไหร่”

ลู่เจียวพยักหน้า พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะไม่เครียดกับสถานการณ์นี้ ขณะที่ยังคุยกันถึงเรื่องค่าใช้จ่าย ป้าโจวที่นั่งฟังเงียบ ๆ ก็ลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอน

ลู่เจียวเงยหน้าขึ้นมองลุงเฉินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และพูดออกไป “ฉันกลัวว่าเงินที่หามาได้จะไม่พอค่ะลุงเฉิน มันเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับฉันจริง ๆ”

“พวกเราจะช่วยกันหาทางออกนะ อย่าเพิ่งท้อใจไปเลย”

ป้าโจวเดินกลับออกมาพร้อมกับซองบางอย่างในมือ หล่อนเปิดซองหยิบเงินที่เรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบออกมา แล้วส่งเงินนั้นให้ลุงเฉิน

ลุงเฉินรับเงินจากป้าโจวก่อนยื่นมาให้ลู่เจียว “อาเจียว เอาไว้ใช้เป็นค่ารักษาอาหยางนะ พวกเราคุยกันแล้ว ว่าจะช่วยเหลือหลานชายของเราสักครั้ง”

ลู่เจียวตกใจและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งคู่ เงินที่ลุงเฉินยื่นให้มานั้นมีมูลค่าถึงหนึ่งร้อยหยวน ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วนับว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ยกมือขึ้นปฏิเสธพร้อมกล่าวขอบคุณ “ลุงเฉิน ป้าโจว เงินจำนวนนี้มากเกินไปแล้ว ฉันรับไว้ไม่ได้ พวกท่านเองก็มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน”

ลุงเฉินยิ้มและส่ายหน้า “อาหยางเป็นหลานเพียงคนเดียวของลุงกับป้า พวกเราไม่มีลูก การช่วยเขาครั้งนี้ก็เหมือนกับเราได้ทำหน้าที่พ่อแม่ให้เขาอีกครั้ง รับไว้เถอะนะ”

“รับไว้เถอะอาเจียว พวกเรามีกันแค่นี้ ช่วยกันไปให้ดีที่สุดเถอะนะ”

เธอพยักหน้าพร้อมกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา “ขอบคุณมากค่ะลุงเฉิน ป้าโจว ฉันซาบซึ้งใจมากจริง ๆ ฉันสัญญาว่าถ้ามีเงินเมื่อไรจะรีบนำมาคืนให้พวกท่านแน่นอนค่ะ”

ลุงเฉินกับป้าโจวเพียงยิ้มและพยักหน้า “ไม่เป็นไร เรื่องเงินทองเป็นเรื่องเล็กน้อย เราอยากให้อาหยางฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงให้เร็วที่สุดต่างหาก”

ลู่เจียวรู้สึกอบอุ่นในใจเหมือนได้รับพลังใหม่จากความเมตตาของคนทั้งสอง แม้สถานการณ์จะยากลำบาก

แต่การที่มีคนรอบข้างที่รักและสนับสนุนเช่นนี้ทำให้ลู่เจียวรู้สึกมีแรงฮึดสู้ขึ้นมา สัญญากับตัวเองว่าจะหาทางทำงานและหาเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อคืนเงินให้กับพวกเขา และเพื่อให้กัวหยางได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ