ตอนที่ 12. เข้าเมืองสำรวจตลาด 2

ยิ่งเดินสำรวจ หลิวชวนก็ยิ่งเจ็บใจ ปลาชนิดเดียวกับที่ชาวบ้านในหมู่บ้านของเขาจับมา กลับถูกขายในราคาที่แพงลิบลิ่ว โดยเฉพาะในโซนขายส่ง ซึ่งมีร้านอาหารจากโรงแรมหรูมาเลือกซื้อกันเป็นประจำ

เขาใช้เวลากว่าเกือบสองชั่วโมงเดินสำรวจและจดบันทึกราคาจนได้ข้อมูลครบถ้วน จากนั้นจึงเลือกมุมเงียบๆ ใกล้แผงขายน้ำชา นั่งลงบนม้านั่งไม้เก่าๆ ก่อนหยิบห่อข้าวที่หลี่หรงเตรียมมาให้ออกมา กลิ่นหอมของปลาเค็มลอยฟุ้งขึ้นแตะจมูก ความหอมนี้ทำให้เขานึกถึงรอยยิ้มอ่อนโยนของภรรยาในตอนเช้า ขณะที่เธอตั้งใจห่อข้าวให้เขาอย่างประณีต

"พ่อค้าคนกลางอย่างนายใหญ่หวัง..." หลิวชวนพึมพำเบาๆ ขณะกินข้าวที่ภรรยาเตรียมมาให้ "มันไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย นอกจากการผูกขาดการขนส่งกับกดขี่ชาวบ้านเท่านั้น"

เขากินข้าวไปพลาง สายตาก็สอดส่องความเคลื่อนไหวรอบๆ อย่างไม่วางตา เขาสังเกตเห็นรถบรรทุกขนาดเล็กหลายคันจอดเรียงรายเพื่อขนถ่ายสินค้า บางคันมีสติกเกอร์ชื่อร้านอาหารแปะอยู่ที่ประตูรถ หลิวชวนรีบหยิบสมุดขึ้นมาจดชื่อร้านเหล่านั้นไว้ พลางคิดในใจอย่างมุ่งมั่น "ถ้าหากเราตัดพ่อค้าคนกลางออกไปได้ ชาวบ้านก็จะได้ราคาดีขึ้น ลูกค้าก็จะได้ของที่สดกว่าเดิมด้วย"

หลิวชวนเหลือบมองนาฬิกาที่ศาลาประชาคม เข็มยาวชี้เลยบ่ายโมงไปเล็กน้อย เขาหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความคิดล่องลอยกลับไปยังความทรงจำในชาติที่แล้ว ภาพร้านอาหารหรูหราผุดขึ้นในห้วงความคิด ทว่ามันกลับเลือนรางราวกับความฝันที่อยู่แสนไกลเกินจะเอื้อมถึง

"เวลาเปลี่ยนทุกอย่างจริงๆ..." เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนลืมตาขึ้นมองเมืองเหมินหยางในปี 1985 ตรงหน้า ไม่มีตึกสูงระฟ้า ไม่มีห้างสรรพสินค้าหรูหรา มีเพียงอาคารพาณิชย์เก่าๆ สองชั้น และถนนลาดยางที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ

"ถนนเจิ้งหยาง..." เขานึกขึ้นมาได้ ถนนสายนี้ถือเป็นเส้นเศรษฐกิจสายสำคัญของเมืองเหมินหยาง เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสโมสรต่างๆ แม้จะยังดูไม่หรูหราเทียบเท่ากับภาพในอนาคต แต่ก็เป็นแหล่งรวมตัวของคนมีเงินในยุคนี้อยู่ดี

หลิวชวนเก็บห่อข้าวใส่ตะกร้าหน้าจักรยาน ก่อนจับแฮนด์รถแน่น เตรียมมุ่งหน้าสู่ถนนเจิ้งหยางที่ทอดยาวไปทางทิศตะวันออกของเมือง สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารขนาดกลางถึงขนาดใหญ่เรียงราย บางร้านประดับป้ายไม้แกะสลักอย่างสวยงาม บ้างก็ตกแต่งด้วยโคมแดงที่ห้อยเรียงเป็นแถว สะท้อนให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา

"ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้หรอกว่า อีกไม่กี่ปี ที่นี่จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญ" หลิวชวนยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจ "แต่เราต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้ก่อน"

สายลมอุ่นพัดผ่าน ละอองฝุ่นบนถนนปลิวขึ้นตามแรงลม คล้ายจะพัดพากลิ่นอายของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังคืบคลานเข้ามา หลิวชวนจับแฮนด์จักรยานแน่นขึ้น พลางปล่อยความทรงจำในชาติก่อนให้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ภาพตัวเขาในวัยหนุ่มที่เคยกล้าเสี่ยง กล้าลงทุน และคว้าจังหวะเวลาเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ จนกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

แต่ความสำเร็จในครั้งนั้น...มันแลกมาด้วยอะไร? หลิวชวนนึกถึงแววตาเศร้าของหลี่หรงในชาติก่อน นึกถึงเสี่ยวเป่าที่เติบโตขึ้นโดยแทบไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อ ความรุ่งเรืองทางธุรกิจกลับทิ้งบ้านที่เคยอบอุ่นให้กลายเป็นสถานที่อันเย็นชาและว่างเปล่า

"คราวนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว" เขากระซิบกับตัวเองเบาๆ พลางนึกถึงรอยยิ้มอ่อนโยนของหลี่หรงเมื่อเช้า และเสียงหัวเราะสดใสของเสี่ยวเป่า "ฉันมีทั้งความรู้ มีทั้งประสบการณ์ และรู้แล้วว่าควรทำอะไรเมื่อไหร่ แต่คราวนี้..." เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า "คราวนี้ฉันจะพาพวกเขาก้าวไปด้วยกัน"

หลิวชวนเหยียบคันถีบจักรยาน มุ่งหน้าสู่ถนนเจิ้งหยางด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ความสำเร็จที่แท้จริงสำหรับเขา ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องเงินทองหรือความร่ำรวย แต่คือการได้เห็นคนที่เขารักมีความสุข และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน

บนถนนเจิ้งหยาง ความคึกคักของย่านการค้ายังไม่จางหาย เสียงพูดคุยและเสียงช้อนส้อมกระทบจานดังแว่วมาจากร้านอาหารหลายแห่ง ช่วงเวลาพักกลางวันยังไม่สิ้นสุด ผู้คนในชุดทำงานยังนั่งจับกลุ่มสนทนากันอย่างสบายอารมณ์

หลิวชวนค่อยๆ ลงจากจักรยาน ขาที่เมื่อยล้าจากการปั่นตลอดเช้าส่งความรู้สึกหนักๆ มาเป็นระยะ เขาจูงจักรยานเดินช้าๆ สายตากวาดมองป้ายร้านอาหารที่เรียงรายสองฝั่งถนน บางร้านติดป้ายไม้แกะสลักสวยงาม บางร้านประดับโคมแดงอย่างมีรสนิยม กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมาเป็นระยะ

"ร้านอาหารกวางตุ้งตงฟาง..." เขาพึมพำชื่อร้านที่เพิ่งเดินผ่าน พยายามขุดคุ้ยความทรงจำในชาติก่อน "ชื่อคุ้นๆ แต่จำไม่ได้ว่าเคยติดต่อกันหรือเปล่า"

เขาหยุดยืนหน้าร้านหนึ่งที่มีกระดานดำเขียนเมนูพิเศษประจำวัน สังเกตเห็นว่าหลายเมนูเป็นอาหารทะเล ทั้งกุ้งผัดซอสสมุนไพร ปลานึ่งซีอิ๊ว และหอยเธอรมสดๆ ราคาค่อนข้างสูงสำหรับคนทั่วไป แต่ก็สมเหตุสมผลสำหรับร้านในย่านนี้

"ถ้าเราส่งของสดๆ จากหมู่บ้านมาให้ได้..." ความคิดผุดขึ้นในหัว "ราคาก็จะถูกกว่าที่เขาซื้อจากตลาด แถมของก็สดกว่าด้วย"

หลิวชวนเดินต่อไปเรื่อยๆ สมองครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ในอดีตชาติ พยายามนึกว่าร้านไหนเคยมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ หรือร้านไหนที่อาจต้องการความช่วยเหลือ แต่ทุกอย่างดูเลือนรางไปหมด สี่สิบปีเป็นเวลาที่ยาวนานเกินกว่าจะจดจำทุกรายละเอียดได้

เมื่อเดินมาถึงปลายถนน ร้านอาหารเริ่มบางตา กลายเป็นร้านค้าทั่วไปและบ้านเรือนแทน หลิวชวนจอดจักรยานใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน หยิบขวดน้ำที่หลี่หรงเตรียมให้ขึ้นมาดื่ม ความเย็นของน้ำช่วยคลายความร้อนและความเหนื่อยล้าได้บ้าง

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ