"พี่ชวน อย่าลืมกินข้าวกลางวันด้วยนะคะ" หลี่หรงยื่นห่อผ้าสีครามให้สามี ในห่อมีข้าวกับปลาเค็มที่เธอตั้งใจทำเองกับมือ
รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าของหลิวชวน เขารับห่อข้าวมาถือไว้ ก่อนมองภรรยาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ แสงแดดยามเช้าที่ลานบ้านลุงเหลาส่องลงมา ทำให้ภาพตรงหน้านุ่มนวลและดูมีชีวิตชีวาขึ้น
"พ่อครับ พ่อจะไปไหนครับ?" เสียงใสๆ ของเสี่ยวเป่าดังขึ้น เด็กชายตัวน้อยในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีซีดจับชายเสื้อพ่อไว้แน่น ดวงตากลมโตราวกับลูกแก้วฉายแววสงสัย
หลิวชวนย่อตัวลงจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับลูกชาย เขายีผมนุ่มของเด็กน้อยเบาๆ พลางยิ้มอบอุ่น "พ่อจะเข้าเมืองไปทำธุระ เย็นนี้ก็กลับมาแล้ว" เขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงสดใส "แล้วพ่อจะซื้อขนมมาฝากเสี่ยวเป่าด้วย ดีไหม?"
"จริงหรือครับ? มันหวานๆ เหมือนที่แม่ค้าขายที่ตลาดเหรอครับ?" ดวงตาของเสี่ยวเป่าเป็นประกายวาววับ เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
หลิวชวนพยักหน้า หัวใจพองโตเมื่อเห็นความสุขของลูกชาย
"เอานี่ไป" ลุงเหลาลากจักรยานคันเก่าสีดำสนิมจับมาให้ "ดีกว่าเดินตากแดด อย่างน้อยก็มีที่ใส่ของกลับ"
หลิวชวนรับแฮนด์จักรยานไว้ ล้อหน้าสั่นเล็กน้อยเมื่อมือสัมผัส โซ่จักรยานเก่าคราบน้ำมันเกรอะกรัง แต่ยังดูใช้งานได้ดี
"ระวังตัวให้ดีนะ" ลุงเหลาลดเสียงต่ำ ดวงตาฉายแววเคร่งเครียด "โดยเฉพาะพวกนายใหญ่หวัง พวกมันมีหูตามากมาย ถ้ารู้ว่าเราจะไปดูตลาด มันต้องหาทางขัดขวางแน่"
หลิวชวนพยักหน้า รอยยิ้มมั่นใจปรากฏบนใบหน้า "ลุงไม่ต้องห่วงครับ ผมรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่"
"รีบไปเถอะ นี่ก็สายมากแล้ว" ลุงเหลาเหลือบมองท้องฟ้า "ออกจากบ้านช้า เดี๋ยวแดดจะร้อนเอาได้"
หลิวชวนพยักหน้า ก่อนหยิบหมวกสานใบเก่ามาสวม สะพายถุงผ้าที่ใส่สมุดจดกับดินสอ เขาโอบกอดเสี่ยวเป่าแน่น แล้วจูบที่หน้าผากลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้หลี่หรง
"กลับมาเร็วๆ นะคะ" หลี่หรงเอ่ยเสียงอ่อนหวาน มือเรียวค่อยๆ จัดผ้าที่คอเสื้อสามีให้เรียบร้อย
วันนี้จะเป็นวันแรกที่เขาจะได้สำรวจตลาดหลงหยางในเมือง เพื่อมองหาลูกค้าที่มีศักยภาพมากพอสำหรับอนาคต
เสียงหัวเราะใสๆ ของเสี่ยวเป่าดังตามหลังมา "พ่อครับ อย่าลืมขนมของผมนะครับ!"
หลิวชวนยกมือโบกลา รอยยิ้มอบอุ่นไม่จางหายจากใบหน้า ความทรงจำจากชาติที่แล้วผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขาเคยพลาดโอกาสที่จะสร้างช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัว แต่ครั้งนี้จะไม่มีวันเป็นเช่นนั้นอีก
เขาจะต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงเพื่อความร่ำรวย แต่เพื่อรอยยิ้มของเสี่ยวเป่า เพื่อความภาคภูมิใจที่เขาอยากเห็นในแววตาของหลี่หรง และเพื่อให้ทุกคนในหมู่บ้านได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
หลิวชวนปั่นจักรยานมุ่งหน้าสู่เมืองเหมินหยาง เมืองการค้าสำคัญแห่งมณฑลกวางตุ้ง ระยะทางสามสิบกิโลเมตรไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะบนถนนดินลูกรังขรุขระที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และน้ำขังจากฝนเมื่อคืนที่ทำให้ดินเหนียวเละจนปั่นยากยิ่งขึ้น
แดดร้อนแผดเผาตั้งแต่เช้า เหงื่อไหลซึมออกมาตามแผ่นหลัง แต่หลิวชวนยังคงมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ เขารู้ดีว่าที่เหมินหยางแห่งนี้มีตลาดค้าส่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ ในความทรงจำจากชาติที่แล้ว เขาเคยได้ยินว่าปี 1985 นี้เอง ที่เมืองนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
จักรยานคันเก่าแล่นผ่านทุ่งนาสีเขียวขจี กลิ่นหอมของดินชุ่มน้ำและหญ้าสดลอยตามสายลมมาปะทะจมูก หลิวชวนมองเห็นรถบรรทุกสินค้าหลายคันวิ่งสวนผ่านไป บางคันบรรทุกผักสด บางคันขนปลา ต่างมุ่งหน้าสู่เมืองเหมินหยางเช่นเดียวกับเขา
ในใจเขานึกถึงแผนที่วางไว้อย่างรอบคอบ วันนี้เขาตั้งใจจะสำรวจร้านอาหารขนาดใหญ่ในเมือง โดยเฉพาะย่านถนนเจิ้งหยาง ที่มีร้านอาหารหรูหราตั้งเรียงราย จากความทรงจำชาติที่แล้ว เขารู้ว่าร้านเหล่านี้ต้องการวัตถุดิบที่สดใหม่และคุณภาพดี พร้อมยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าตลาดทั่วไป
"คราวนี้ล่ะ" หลิวชวนพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ฉันจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอีก"
แสงแดดยามสายทอดเงาสั้นลงทุกขณะ หลิวชวนใช้เวลากว่าสามชั่วโมงปั่นจักรยานจนมาถึงชานเมืองเหมินหยาง เวลานี้เข็มนาฬิกาเดินเลยเก้าโมงไปนิดหน่อย เสื้อผ้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ความตั้งใจยังคงมั่นคงไม่เสื่อมคลาย
วันนี้หลิวชวนตั้งใจจะสำรวจตลาดหลงหยางด้วยตัวเอง ตลาดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในเขตตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง เขาต้องการหาลูกค้าด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลางอย่างนายใหญ่หวังอีกต่อไป
"เรื่องขนส่งเอาไว้ค่อยว่ากันทีหลัง" เขาพึมพำเบาๆ ขณะจอดจักรยานไว้ที่ริมถนน ซึ่งเป็นจุดสำหรับจอดจักรยานโดยเฉพาะ "ตอนนี้สำรวจตลาดให้ทั่วก่อนก็แล้วกัน"
ตลาดหลงหยางคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เสียงต่อรองราคาดังระงมผสมกับกลิ่นคาวปลาและน้ำแข็งที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ แผงขายอาหารทะเลตั้งเรียงรายเป็นแถวยาวสุดลูกหูลูกตา มีทั้งปลาสด กุ้ง ปู และหอยหลากหลายชนิด วางเรียงอยู่บนน้ำแข็งเย็นจัด
หลิวชวนเดินสำรวจแผงขายทีละร้าน พลางจดบันทึกราคาลงในสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวมา เขาพบว่าราคาขายปลีกที่นี่สูงกว่าที่นายใหญ่หวังรับซื้อจากชาวประมงในหมู่บ้านถึงสามเท่า
"ไอ้เวรเอ้ย..." เขาสบถเบาๆ ผ่านไรฟัน เมื่อเห็นราคาปลาทูสดขนาดกลาง "มิน่าล่ะ ไอ้นายใหญ่หวังถึงได้รวยเอาๆ ขนาดนี้"
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?