ตอนที่ 25. ฟางเหมย

ช่วงนี้ว่านอันอันเริ่มกลับมาวางแผนธุรกิจเสื้อผ้าที่ตั้งใจมาตั้งแต่แรกอย่างจริงจัง ด้วยเพราะพ่อของเธอว่านหวนเย่เองทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอเช่นกัน เธอจึงได้คลุกคลีกับเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เด็ก และมีความฝันเล็ก ๆ ว่าอยากจะมีห้องเสื้อเป็นของตัวเอง นอกจากนี้เธอมีผู้ช่วยเป็นความรู้ของแนวเสื้อผ้าสุดฮิตในอนาคตอีกด้วย

ว่านอันอันจึงอยากเริ่มกิจการเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นของตัวเองและมั่นใจว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ใช้เวลาระหว่างที่กำลังสร้างซานเหอมู่เย่ขึ้นมาสำรวจตลาดและวัสดุ อุปกรณ์ทั้งหมดแล้ว ช่วงนี้ทางโรงงานไม้ก็มีพนักงานเพิ่มขึ้นมามาก ล้วนแต่เป็นคนในหมู่บ้านที่ไม่อยากไปทำงานไกลมาสมัครทำงานด้วย

ชื่อเสียงสวัสดิการดีเยี่ยมและการทำงานเป็นระบบของโรงงานไม้แห่งนี้โด่งดังจนคนหมู่บ้านใกล้เคียงยอมเดินทางมาขอสมัครเข้าทำงานด้วยเลยทีเดียว เหล่าช่างไม้จากโรงไม้หมู่ซานเดิมหลายคนที่ยังไม่มีครอบครัวก็หอบข้าวของ ย้ายบ้านมาลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านทูวาแล้ว เพื่อความสะดวกในการเดินทาง หัวหน้าหมู่บ้านหลินเองยังเอ่ยปากขอบคุณว่านอันอันกับซ่งหมิงยกใหญ่ว่าหลายเดือนมานี้จำนวนสมาชิกหมู่บ้านเพิ่มขึ้นเพราะความดีความชอบของซานเหอมู่เย่นี่เอง

“อ่าว แม่หนูอันอันวันนี้ไม่ไปโรงไม้กับอาหมิงเหรอ” ป้าโจวทักทายหลังเห็นหญิงสาวกำลังจะขี่จักรยานผ่านหน้าบ้าน

“ไม่ได้ไปค่ะ เพิ่งกลับมาจากในเมือง”

“อ้อ จริงสิ เสื้อที่ขาดวันนั้นป้าซ่อมให้แล้วนะ เอาไปด้วยสิ”

วันก่อนซ่งหมิงกลับมาพร้อมรอยขาดเป็นทางยาวที่เสื้อ เพราะไม่ระวังไปโดนตะปูเกี่ยวเข้า ว่านอันอันคิดว่าจะเอาทิ้งแล้ว แต่ป้าโจวเห็นเข้าก่อนจึงอาสาซ่อมให้ เสื้อที่รับคืนมาถูกเย็บกลับคืนอย่างยอดเยี่ยม แทบไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเคยขาด ว่านอันอันถึงกับตาลุกวาว

“ฝีมือป้าโจวดีมากเลยค่ะ ! อย่างกับเสื้อใหม่”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก ใครก็ทำเป็น พวกเราแม่บ้านอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ ก็มีแต่งานเย็บ ๆ ซ่อม ๆ พวกนี้แหละ ทำไปทำมาก็พอคล่องมืออยู่บ้าง”

ว่านอันอันนิ่งไปคิดอะไรบางอย่างได้เลือนราง

“แสดงว่าท่านป้าทุกคนในหมู่บ้านเย็บผ้าเป็นหมดเลยเหรอคะ”

“เป็นสิ แต่เป็นมากเป็นน้อยคงต่างกัน สมัยก่อนนั้นมีครูสอบเย็บผ้ามาจากโรงงาน เขามาเผยแพร่วิธีการเย็บซ่อมผ้าที่หมู่บ้าน พวกผู้หญิงไม่มีอะไรทำก็ไปเรียนกันหมด เลยพอมีความรู้กันอยู่บ้าง”

คำบอกเล่านั้นทำให้ความคิดของว่านอันอันสว่างวาบ

“อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณป้าโจวมากนะคะ”

“จ้า ๆ คนกันเองทั้งนั้น”

.

.

ฟางเหมย เคยเป็นช่างฝีมือของโรงงานเย็บผ้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองปักกิ่งมาก่อน แต่ภายหลังสามีต้องย้ายที่ทำงานมายังเมืองเทียนจิน เธอและลูก ๆ อีกสองคนจึงตามมาด้วย ฟางเหมยพยายามสมัครเข้าทำงานในโรงเย็บผ้าในเมืองเทียนจิน แต่ไม่มีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานเพราะจำนวนคนของพวกเขาเต็มแล้ว

ช่วงแรกยังไม่มีปัญหาอะไรเพราะยังมีสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ต่อมาเขาป่วยจนถูกให้ออกจากงาน ฟางเหมยจึงได้ลิ้มรสความขมขื่นของชีวิต ความหนักที่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้บนบ่าตัวเอง ทั้งค่ารักษาของสามี ค่าเลี้ยงดูลูกฝาแฝดวัยสิบขวบอีกสองคน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีก เพราะตั้งแต่โตมาเธอเรียนรู้มาแค่การเย็บเสื้อผ้า หนทางเดียวของเธอก็คือการออกเร่เย็บเสื้อผ้าไปตามทาง เคาะรับจ้างซ่อมเสื้อผ้าตามบ้านต่าง ๆ แต่ละวันกว่าจะได้กลับเข้าบ้านก็มืดค่ำแล้ว

จากที่เคยแต่งตัวสวยงามก็ขายทุกอย่างจนเหลือเพียงเสื้อผ้าเก่ากรอบ ผิวพรรณเริ่มแห้งกร้าน ร่างกายทรุดโทรม เป็นเวลาปีกว่าแล้วที่เธอตระเวนหาเงินได้พอผ่านไปวัน ๆ สามีที่ล้มป่วยเป็นอัมพาตไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย ลูก ๆ ก็โตขึ้นทุกวัน

“ฟางเหมย ! ทางนี้ ๆ ผ้ากันเปื้อนขาดน่ะ ซ่อมให้หน่อยได้รึเปล่า ?”

“ได้ค่ะ !” หญิงวัยสามสิบปีวิ่งไปยังร้านบะหมี่ด้วยสีหน้าดีใจ ทรุดตัวนั่งลงกับโต๊ะแล้วรับผ้ากันเปื้อนมาเย็บซ่อมให้ จุดที่ขาดเป็นรูก็ปักดอกไม้ใส่ให้อย่างงดงาม

“โอโห้ แป๊บเดียวได้ขนาดนี้เลยเหรอ ฝีมือดีจริง ๆ นึกว่าผ้ากันเปื้อนใหม่” เจ้าของร้านชื่นชม

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่เรียกใช้”

“คนกันเองทั้งนั้น จริง ๆ ผ้ากันเปื้อนตัวนี้ก็อยู่มานานแล้ว ไม่ซ่อมก็ได้ แต่เพราะฉันเห็นฝีมือเธอดี แถมยังขยันหอบข้าวของเดินไปเดินมาอีกก็เลยอยากอุดหนุนน่ะ”

เงิน 0.2 หยวนถูกมอบให้เธอเป็นค่าตอบแทน มือบางกำเหรียญนั่นไว้แน่น รู้ซึ้งดีว่าหากพยายามเก็บเหรียญพวกนี้ไว้ ไม่นานกันก็จะพอซื้อข้าว ฟางเหมยสูดลมหายใจแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้น แต่กลับมีเสียงเรียกเอาไว้ก่อน

“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้เห็นคุณซ่อมเสื้อผ้าได้สวยมาก ช่วยดูอันนี้ให้หน่อยได้มั้ยคะ”

ฟางเหมยเงยหน้ามองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยราวนางฟ้า ดวงตาคู่นั้นเป็นประกาย ผิวก็เนียนนุ่ม รอยยิ้มของเธอยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจจนยากจะปฏิเสธ ในมือเรียวคู่นั้นถือผ้าเช็ดหน้าเรียบ ๆ ที่มีรอยขาดอยู่ แต่เหมือนจะเป็นรอยขาดจากกรรไกร...

“พอดีไม่ระวังจนเผลอตัดเข้าเนื้อผ้าน่ะค่ะ ช่วยซ่อมให้หน่อยได้มั้ยคะ”

“ได้เลยค่ะ”

ฟางเหมยยิ้มแล้วรับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมา จับพลิกมองไปมาครู่หนึ่งก็เริ่มลงมือ เย็บส่วนที่ขาดเข้าด้วยกันแล้วค่อยปักลวดลายเถาวัลย์กับดอกไม้ลงไปด้วยความว่องไว ในใจมีความปลื้มปริ่ม ที่วันนี้มีลูกค้าถึงสองคน ไม่นานผ้าเช็ดหน้าผืนสวยเหมือนใหม่ก็กลับมาอยู่ในมือว่านอันอัน

หญิงสาวยกยิ้มพึงพอใจ จ่ายค่าซ่อม 0.2 หยวนตามที่อีกฝ่ายเรียกเก็บแล้วชวนพูดคุยต่อ

“ฝีมือดีมาก ๆ เลยนะคะ แล้วนี่รับซ่อมผ้าอย่างเดียวเหรอคะ”

“จริง ๆ ฉันรับเย็บผ้าด้วยน่ะค่ะ แต่ว่าลูกค้าที่มาซ่อมผ้าตามบ้านมีเยอะกว่า ก็เลยทำทางนี้เป็นหลักค่ะ”

“งั้นถ้าฉันมีแบบให้คร่าว ๆ พอจะเย็บขึ้นมาให้ได้ไหมคะ เรื่องผ้าสำหรับตัดเย็บฉันจะเป็นคนซื้อให้เองค่ะ”

ได้ยินแล้วฟางเหมยก็ตาเป็นประกาย ค่าจ้างตัดชุดหนึ่งชุดขั้นต่ำคือห้าหยวน ที่เท่ากับว่าเธอไม่ต้องออกมาตระเวนรับซ่อมผ้าหลายวันเลย ฟางเหมยรอผู้ว่าจ้างอยู่ที่ร้านบะหมี่ร้านเดิมครู่หนึ่งหญิงสาวก็กลับมาพร้อมผ้าลายดอกไม้พิมพ์ลายสีสันสดใสในมือ

“นี่ค่ะ ช่วยทำตามแบบนี้ให้หน่อยนะคะ”

ฟางเหมยรับกระดาษที่ว่านอันอันแอบเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนสร้างซานเหอมู่เย่ ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างเมื่อเห็นรูปวาด ความรู้สึกตื่นเต้นในสมัยทำงานในโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปกลับมาอีกครั้ง ความรักในอาชีพที่แห้งเหือดไปนานกำลังผุดออกมาทีละนิดเหมือนน้ำพุ

“สวยมากเลยค่ะ... ชุดกระโปรงแบบนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ฉัน... จะทำให้ดีที่สุดค่ะ !”

“ฉันจะรอนะคะ ชุดนี้ฉันให้ 10 หยวนค่ะ” เธอยืนเงินค่าจ้างล่วงหน้าไปให้

“หา ! มันมากเกินไปค่ะ ไม่ได้ ๆ” ฟางเหมยตกใจจนมือไม้สั่น ค่าจ้างสองเท่า !

“ไม่มากหรอกค่ะ ฉันจะรอชมผลงานนะคะ”

ว่านอันอันยิ้มหวานแล้วรีบจากมา คาดหวังกับความสามารถของฟางเหมยเต็มที่ ก่อนหน้านี้ที่เข้ามาสำรวจตลาดในเมืองหลายต่อหลายครั้งเธอก็สังเกตเห็นช่างซ่อมเสื้อผ้าคนนี้แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือตะกร้าใบใหญ่เดินไปตามถนน ชะโงกหน้าถามทีละร้านว่ามีผ้าให้ช่วยซ่อมไหม แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของว่านอันอันได้กลับเป็นฝีเข็มที่ประณีตของหล่อน ผลงานที่เนี้ยบสวยเหล่านั้น

ทุกครั้งที่เข้าเมืองมาเธอก็จะมาแวะถนนเส้นนี้เพื่อตามดูผลงานของฟางเหมย มีครั้งหนึ่งที่เป็นฟางเหมยเอาเศษผ้ามาทำเป็นกระเป๋าให้กับลูกค้า ยิ่งทำให้ว่านอันอันตัดสินใจได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือที่คู่ควรกับธุรกิจใหม่ของเธอ

และวันนี้จึงได้ตัดสินใจมอบแบบร่างเสื้อผ้าชุดหนึ่งไป ที่ตั้งใจว่าจะให้เป็นสินค้าเปิดตัวของห้องเสื้อ ‘เสียนฮวา’ ที่จะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ