ตอนที่ 11 รู้สึกหวง

ภาพตรงหน้าคือริชชี่กำลังเกาะเกี่ยวอยู่บนตัวของอิทธิพล เขายืดคอสุดฤทธิ์หนีการปล้ำจูบของหญิงสาว เพลย์บอยเขี้ยวลากดินผู้หล่อเหลาในตอนนี้กลับตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังจนน่าสงสาร แต่ไหนแต่ไรอิทธิพลก็ไม่ใช่พวกใช้กำลัง พอถูกริชชี่จู่โจมต้องการปลุกความเป็นเสือในตัวให้ตื่น เขาอยากชกก็ไม่ได้ ตีก็ทำไม่ลง ได้แต่แกะมือที่ราวกับตีนตุ๊กแกของเจ้าหล่อนอย่างวุ่นวาย

โยษิตาน้ำเสียงเยียบเย็น เอ่ยกับริชชี่ “บอสไม่ต้องการให้รบกวน คุณริชชี่ปล่อยบอสด้วยค่ะ”

“ไม่ปล่อย เธอจะทำไม เขากับฉันแค่เล่นกันสนุกๆ อย่ามาขัดจังหวะได้ไหม ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เขาไล่เธอออก”

ริชชี่เห็นว่าเข้ามาเตะเท้าอยู่ในธาดากรุ๊ปเกือบครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากอิทธิพลเท่าที่ควร จึงตัดสินใจรุกหนัก ใช้เรือนร่างที่แสนเย้ายวนกับใบหน้าสะสวยยั่วเขา โยษิตามารขวางความสุขอุตส่าห์ออกไปลำบากตรากตรำทำงานข้างนอกหลายวัน เปิดโอกาสให้เธอได้ทำคะแนน ไม่คาดว่าหนึ่งสัปดาห์มานี้จะยังไม่ก้าวหน้า

อิทธิพลใจแข็งทำเป็นพระอิฐพระปูนจนเธอโมโห สุดท้ายก็เลยใช้วิธีดิบเถื่อนจับเขากดแทนซะเลย

“ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณ โยษิตารีบมาช่วยผมที”

“พี่อิท! พี่พูดแบบนี้กับว่าที่คู่หมั้นของพี่ต่อหน้าคนอื่นได้ยังไง” ริชชี่เกาะหนึบ เบ้าตาแสบร้อนมีหยาดน้ำเริ่มก่อตัว

ว่าที่คู่หมั้น คำๆ นี้ฟังแล้วน่าตกใจทีเดียว โยษิตามักเตือนริชชี่เสมอ ว่าหากอยากเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงท่านให้ทำตัวดีๆ คำพูดเตือนสตินี้ไม่ได้กระตุ้นให้อีกฝ่ายฉุกคิดอะไรได้ เวลาผ่านไปกลับกลายเป็นว่าหล่อนเลื่อนสถานะเอาดื้อๆ แม้จะยังวีนเหวี่ยงเหมือนเดิม

ในที่สุดอิทธิพลก็แกะมือของริชชี่สำเร็จ เขาผละออกไปห้าเมตร พร้อมขู่ด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้ใหญ่แค่คุยกัน ไม่ได้จะหมั้นจริงๆ สักหน่อย ถ้ายังบุกเข้ามาทำแบบนี้อีกพี่จะไม่ให้ฝึกงานแล้ว”

“พี่อิท ฮึกๆ พี่ใจร้าย พี่ตะคอกริชชี่เลยเหรอ”

ละครฉากใหญ่จบลงพร้อมกับที่หญิงสาววิ่งร้องไห้ฮือๆออกไป ริชชี่คงบีบน้ำตาจนเป็นนิสัย ไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็ดราม่าเสียจนคนนอกมองแล้วน่าสงสาร โยษิตาขยับหลบแต่อีกฝ่ายกลับจงใจจะเซมาชนไหล่ให้ได้ ผลคือออกแรงโถมเข้าใส่มากไป พอไม่มีคนรับจึงล้มคว่ำ “เธอ! เธอจงใจแกล้งฉัน”

“กิ่งแก้ว มาช่วยเพื่อนเธอหน่อย” ดูก็รู้ว่าแกล้งหรือเปล่า โยษิตาไม่สนใจจะมอง เดินหน้านำเอกสารไปรับลายเซ็นเจ้านาย กิ่งแก้วที่ได้ยินเสียงโผล่หน้าเข้ามา พอจะช่วยคนล้มเข่ากระแทกก็โดนริชชี่ถลึงตาเหลือกใส่

“พี่อิท เจ็บจังเลยค่ะ” ริชชี่เรียกหาเขาอย่างน่าสงสาร

แต่อิทธิพลไม่ได้เดินมาช่วย ชายหนุ่มมองไปที่กิ่งแก้วคล้ายต้องการสั่งให้เธอจัดการ กิ่งแก้วได้รับมอบหมายงานโดยตรงจากท่านประธานสุดหล่อ ก็ไม่สนว่าจะโดนเหลือกตาใส่ ก้มตัวพยุงริชชี่ขึ้นมายืนแล้วฉุดกระชากลากถูจนพ้นประตู

“วุ่นวายจริง คุณไม่อยู่ตั้งหลายวัน เธอเข้ามารบกวนผมทุกวัน เกือบจะปวดหัวตายอยู่แล้ว” คำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนอยากบ่น แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของอิทธิพลคืออธิบายให้เลขาสาวฟัง เขากับโยษิตายังมีความคลุมเครือ เกิดเธอหึงเข้าใจผิด ตนเองจะตกที่นั่งลำบากเอา

“ถ้าคุณริชชี่รบกวนบอส ให้โยไปเรียนคุณหญิงท่านไหมคะว่าเธอทำให้บอสเสียสมาธิ อย่างน้อยคุณหญิงอาจจะตักเตือนบ้าง คุณริชชี่จะได้สงบเสงี่ยมมากขึ้น”

“โยษิตา คุณไม่พอใจเหรอ” คำพูดของเธอเหมือนเตรียมแผนกวาดล้างไว้แล้ว ความเด็ดขาดนี้คุ้นเคยจนน่าขนลุก

โยษิตารับเอกสารกลับมา สีหน้าฉงน “ไม่พอใจอะไรเหรอคะ ความร่วมมือครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี บริษัทดีลจนได้สัมปทานมา มีแต่เรื่องมงคล โยจะไม่พอใจได้ยังไง”

เขามองจนแน่ใจว่าเธอไม่ได้เสแสร้ง พลันพรูลมหายใจโล่งอก ดีที่ไม่คิดเล็กคิดน้อย ถ้าไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ เป็นหนาวแน่ ผู้หญิงที่วางแผนเก่งทำงานมีไหวพริบแบบนี้ เป็นลูกน้องก็คือสุดยอดทหาร แต่ถ้าเป็นเมีย รับรองว่าทำผัวหัวหดจนไม่กล้านอกลู่นอกทาง

หื้ม? ความคิดเปรียบเทียบเมื่อครู่ทำให้อิทธิพลอึ้ง เขาในตอนนี้เรียกว่าหวั่นเกรงเธอจนเข้าข่ายอยู่ในโอวาทไม่นอกลู่นอกทางหรือเปล่า ทำไมรู้สึกว่าตนชักจะเหมือนสามีที่กลัวภรรยาล่ะ

“คุณพอใจก็ดีแล้ว ในเมื่องานชิ้นนี้คุณรับผิดชอบประสานกับหลายฝ่ายจนสำเร็จลุล่วง ผมไม่ใช่เจ้านายใจจืดใจดำอะไร จะตกรางวัลพิเศษให้สักอย่างก็แล้วกัน อยากได้อะไรพูดมาเถอะ”

โยษิตาเหมือนไม่เชื่อหูจึงถามเพื่อความชัดเจนอีกรอบ “บอสว่าไงนะคะ”

“ผมบอกจะให้รางวัลพิเศษ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามา ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมจะจัดการให้” อย่าได้ขอแต่งงานกับเขาเชียว อันที่จริงยื่นข้อเสนอรางวัลพิเศษนี้ให้เธอ ไม่ใช่เพื่อแสดงความเป็นเจ้านายใจกว้าง แต่หลังจากคืนนั้นอิทธิพลก็คิดมาตลอดว่าอยากชดเชยให้เลขาสาว อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องอึดอัดกันเกินไป จึงเอางานมาบังหน้าลองถามดู

โยษิตากลัดกลุ้มกลัวจะโดนไล่ออกมาตลอด พอได้รับความเอ็นดูกะทันหันก็เกือบจะไม่รู้จักเจ้านายหนุ่มคนนี้แล้ว เขาก็มีช่วงเวลาที่ใจดีเมตตาพนักงานด้วย หลังใช้เธอเหมือนหุ่นยนต์มาสามปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่บอสจะให้รางวัลพิเศษ

หญิงสาวยกนิ้วขึ้นมาห้านิ้ว “โยขอลาพักห้าวันค่ะ” เธอจะไปเที่ยวให้หนำใจ ไม่ได้เที่ยวแบบปล่อยวางมานานแล้ว

“ผมให้คุณหนึ่งสัปดาห์ จะไปที่ไหน”

“เอ่อ…โยจะไปเที่ยวทะเลค่ะ น่าจะทางภาคใต้ไม่ก็ภาคตะวันออกสักจังหวัด”

“อืม ถ้าคุณอยากไปผมก็ไม่ขัดข้อง” อิทธิพลล้วงเข้าไปในอกเสื้อ นำเอากระเป๋าเงินหนังดิออร์คาเวียร์สั่งทำพิเศษออกมา หยิบบัตรสีดำรูปทรงหรูหรายื่นไปจ่อจมูกโยษิตา “ผมจ่ายทั้งหมด ตอนจองขอโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป”

“ไม่เป็นไรค่ะบอส เรื่องค่าใช้จ่ายโยจัดการเองได้ค่ะ ไม่รบกวนบอส แค่ให้โยหยุดพักก็พอแล้วค่ะ”

“คุณนี่ไม่รู้จักอ้อนเลยนะ คนอื่นอยากให้ผมเปย์แทบตายแต่คุณกลับปฏิเสธ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่อยากฟัง โปรแกรมเจ็ดวันมีอะไรบ้างไปจัดมาให้ดี เตรียมครีมกันแดดให้ผมเยอะๆ ด้วย”

ก็ว่าทำไมยิ่งคุยกันยิ่งแปลกๆ วงจรความคิดของบอสผู้ยิ่งใหญ่เอาตรงไหนคิดว่าเธออยากจะให้เขาไปด้วย พักผ่อนมีเจ้านายไปเป็นภาระ แถมยังเหมือนต้องดูแลเขาทั้งทริป เธอจะสนุกอะไร จะเรียกว่าลาหยุดได้ยังไง โยษิตาแทบอยากจะร้องไห้ เกรงใจที่จะหักหน้าบอกความจริง แต่ก็ไม่อยากไปเที่ยววันหยุดสองต่อสองเช่นกัน จึงได้แต่ยิ้มแหยๆ

“เอ่อ วันหยุดที่ว่าโยขอยกไปรวมกับวันหยุดสิ้นปีนะคะ ยังไม่ได้อยากจะไปไหนเร็วๆ นี้”

“ไปเลยสิ ไม่ได้มีงานเร่งด่วน ผมอนุญาตให้คุณลาพักได้ จะยกไปรวมกับสิ้นปีทำไม”

“บอสอย่าโกรธโยนะคะ คือว่าโย…เอ่อ…” ให้ตายเถอะ นี่มันยากมากเลย จะพูดยังไงไม่ให้เขาไปด้วยและยังรักษาหน้าเขาในเวลาเดียวกัน ชั่วขณะนั้นโยษิตานึกถึงตะวัน จะเป็นยังไงถ้ามีบุคคลที่สาม

“คือบอสโอเคไหมคะ ถ้าโยจะพาว่าที่แฟนไปด้วย”

“แฟน!? พาแฟนไปด้วยเหรอ คุณมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ สัปดาห์ก่อนพึ่งจะไปหัดเดทกับผู้ชาย สัปดาห์นี้ทำงานยุ่งขนาดนั้น ได้ทำความรู้จักกันลึกซึ้งมากพอแล้ว?” เขาดุเสียยิ่งกว่าพ่อเธออีก ถามไถ่จนนึกว่าเป็นผู้ปกครองเด็กวัยรุ่นใจแตก

แค่ยกมาอ้างไหม ทำไมต้องเสียงดังใส่ด้วย “ว่าที่แฟนค่ะ ตอนนี้กำลังคุยๆ กันอยู่”

พอได้ยินว่าเธอยังติดต่อกับผู้ชายคนนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของอิทธิพลเย็นเยียบลงทันที แววตามองเลขาสาวบีบให้เธอร้อนรน “ว่าที่แฟน ผมเคยบอกไปแล้วว่าความรักจะส่งผลกระทบกับงาน คุณไม่ฟังคำเจ้านายเลย ยังริจะมีแฟนให้ได้”

เขาโกรธแล้ว โยษิตารู้ แต่ไม่คาดว่าจะโกรธขนาดนี้ ถ้าเธอพูดตามตรงเขาจะรับได้ไหม เกรงว่าคงผีเข้ากว่าเดิม

จนโยษิตารับปากว่าจะตั้งใจทำงาน อิทธิพลจึงยอมเลิกราหยุดทำหน้ายักษ์ใส่เธอ ส่วนวันหยุดที่เลขาสาวต้องการ เขาก็ริบคืนไม่ให้แล้ว โทษฐานไม่เชื่อฟัง รางวัลก็ไม่ต้องเอา โยษิตาไม่เข้าใจเจ้านายที่อารมณ์แปรปรวนท่านนี้จึงได้แต่ทำหน้าบึ้ง ไม่ให้มีแฟนเหรอ อย่างกับว่าโสดแล้วจะทำงานเก่งขึ้นกว่าเดิม เธอเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด แค่กับความรักจะจัดการไม่ได้เชียว โยษิตาเป็นมนุษย์ปุถุชนรักสงบ ไม่ใช่คนสำคัญที่มีแต่เรื่องส่วนตัววุ่นวายเหมือนเขา

ในเวลานี้ก็ได้มีข้อความส่งเข้ามา พอเปิดอ่านหญิงสาวพลันอมยิ้ม พรุ่งนี้วันหยุดสุดสัปดาห์พอดี เธอว่างแน่นอน หลังจากคืนนั้นเจ้านายหนุ่มก็ไม่ได้ให้ตนตามไปดูแลรับใช้ที่บ้านอีก วันหยุดไม่ได้เดินทางไปไหน ในที่สุดก็ได้เที่ยวบ้างแล้ว

บ่ายวันเสาร์ที่คาเฟ่แมว ตะวันมารอหญิงสาวก่อนเวลา พอเธอส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้ว เขาก็ชะเง้อคอมองหา แต่กลับไม่เห็นโยษิตา จนเมื่อไหล่ถูกสะกิดตะวันจึงได้หันไป คนที่อยู่ด้านหลังทำเอาเขาชะงักค้าง อึ้งงันเพราะตะลึงกับความสวย

โยษิตาพอถอดแว่นออกแล้วเปลี่ยนไปสวมคอนแทคเลนตามคำแนะนำของกิ่งแก้ว พลันไม่ชินและขาดความมั่นใจ เธอเม้มปากอายๆ ก่อนจะทักทายเขา “มานานแล้วเหรอ”

หญิงสาวสวมชุดเอี๊ยมยีนส์ขากางเกง มัดผมหางม้าสูง แก้มนวลใสแดงระเรื่อน่ารัก โยษิตาเป็นคนสวย แต่กลับไม่รู้ตัว

“มาเมื่อกี้ โย ผมยังไม่เคยเห็นโยถอดแว่นเลย”

“ถอดแล้ว เป็นไงบ้าง พอดูได้ไหม” โยษิตาเอ่ยถามเสียงประหม่า เพราะนี่เป็นครั้งแรกจริงๆ

“สวยมาก ตอนใส่ก็สวย ไม่ใส่ก็สวย เราชอบหมด” ตะวันตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับยิ้มกว้างส่งไปให้ ว่าเขาหมายความที่พูดจริงๆ

โยษิตายิ้มจนแก้มแดงเป็นพวง เข้าไปในคาเฟ่แมวกับตะวัน ใช้วันหยุดที่หาได้ยากกับเจ้าขนดกสี่เท้าอย่างไม่รีบเร่ง ตกเย็นไปเดินที่สวนสาธารณะสักหน่อยก็แวะกินข้าวด้วยกัน ในเวลาช่วงโค้งสุดท้ายก่อนแยกย้าย เจ้ากรรมนายเวรพลันโทรเข้ามา

โยษิตากดรับ “ค่ะบอส มีอะไรให้โยรับใช้คะ”

“คุณจะต้องให้ผมเตือนอีกกี่รอบ” น้ำเสียงหงุดหงิดที่ตอบกลับมาทำให้โยษิตาแอบกังวลเล็กน้อย

“หมายความว่าไงคะ” โยษิตาพึ่งลงจากรถของตะวัน พอเงยหน้ามองก็เห็นรถยนต์สีดำคุ้นเคยคันหนึ่งจอดอยู่ใต้คอนโดฯ เจ้าของรถหรูปรับกระจกรถยนต์ลดลงช้าๆ พอสบตากันหญิงสาวก็ตกใจ

เมื่อกี้ตะวันไม่ได้ลงจากรถ เขาน่าจะไม่เห็นนะ “บอส มาได้ยังไงคะ”

“ผมผ่านมา” มองชุดที่หญิงสาวใส มองใบหน้าที่ไม่มีแว่นแปะอยู่ อิทธิพลรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ