ตอนที่ 20. เปิดหน้าร้าน

“ที่รัก โต๊ะในสวนซื้อจากที่ไหนมาคะ วันนี้เพื่อนฉันมาเยี่ยมที่บ้านเห็นเข้าถูกใจใหญ่เลยค่ะ” ผู้เป็นภรรยาพูดกับสามีด้วยรอยยิ้มหวาน

“อ้อ เพื่อนที่เป็นทหารเขาแนะนำมาให้อีกทีน่ะ เหมือนจะมีใบโฆษณาที่มีเบอร์โทรด้วย ไว้ผมหาให้นะ”

“คุณนายคนอื่น ๆ พอเห็นโต๊ะของเราก็เอ่ยปากชมกันใหญ่ ทั้งลวดลายสวย ทั้งรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร ลายไม้ประณีตแถมยังใช้งานได้หลากหลายอีก ฉันโดนชมจนแทบจะตัวลอย ไว้คุณเชิญเพื่อนทหารคนนั้นมากินข้าวที่บ้านบ้างนะคะ”

ผู้เป็นสามียิ้มอ่อนโยนแล้วตอบรับคำ ปกติแล้วภรรยาเขาไม่ได้ทำงานเป็นเพียงแม่บ้านคอยดูแลลูก ๆ ในบ้านหลังใหญ่ เธอจึงชอบจัดงานเลี้ยงกับเพื่อนคุณนายหลายคนบ่อย ๆ แต่ไม่เคยเห็นครั้งไหนที่เธอดูมีความสุขมากขนาดนี้มาก่อน

“อ้อ จริงสิ ได้ข่าวว่าร้านเฟอร์นิเจอร์นี้กำลังจะเปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมกันสามอย่างเร็ว ๆ นี้ด้วยนะ”

“ตายจริง ! แบบนี้เราต้องรีบสั่งจองไหมคะ ถ้าช้าต้องรอนานหรือเปล่า”

“อืม... เหมือนว่าจะมีผลิตรุ่นต้นแบบออกมาขายชุดแรกในวันเปิดตัวหน้าร้านของห้างสรรพสินค้าเทียนจินเป็นที่แรก เราลองหาเวลาไปเที่ยวเทียนจินกันดูไหม”

“ดีเลยค่ะ ! ลูก ๆ จะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย จุ๊บ ! คุณเป็นสามีที่ดีที่สุดเลย !”

รางวัลจากภรรยาทำให้เขายิ้มแป้น คิดขอบคุณเพื่อนที่คุยโม้โอ้อวดอยู่นานว่าจะพาภรรยาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์จากร้านนั้นเข้าบ้านใหม่ของพวกเขา จึงมีความคิดดี ๆ นี้ขึ้นมาได้

.

.

.

หน้าร้านของซานเหอมู่เย่อยู่ตรงชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้าเทียนจิน กินขนาดไปราว ๆ สามคูหา ถือเป็นพื้นที่ร้านขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับร้านอื่น นอกจากจะมีสินค้าขึ้นชื่ออย่างเฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะแล้ว ยังมีสินค้าที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาเช่นโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ขายอีกด้วย แต่ล้วนแล้วเป็นของที่มีเอกลักษณ์และการออกแบบที่โดดเด่น ทั้งเหลี่ยมมุมที่ถูกขัดกลม สีเนื้อไม้ที่มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อ่อนไปเข้ม ลายไม้บนเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นต่อเนื่องนุ่มนวลราวสายน้ำ ดูแล้วก็รับรู้ได้ถึงความละเอียดใส่ใจในการผลิตขึ้นมาได้อย่างชัดเจน

การจัดเรียงตกแต่งภายในร้านก็ใช้ไฟสว่างส่องลงมา เฟอร์นิเจอร์แต่ละอย่างอยู่เป็นหมวดหมู่เรียงไล่ระดับสี ดูสวยงามน่าเดินเยี่ยมชม พื้นที่โปร่งโล่งทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดคับแคบ กล่าวว่า แค่มองผ่านกระจกนอกร้านก็อยากจะเข้ามาเดินเที่ยวสักครั้ง

พนักงานทุกคนที่ถูกจ้างมายืนเรียงแถวกันเป็นระเบียบในชุดยูนิฟอร์มสีฟ้าดูเรียบร้อยสุภาพ ว่านอันอันและซ่งหมิงตรวจสอบทุกอย่างด้วยตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะออกไปเริ่มพิธีเปิดร้านพร้อมกัน

เสียงประทัดและความครื้นเครงทางด้านนี้เรียกผู้คนมากมายให้มองมาเป็นตาเดียว หนุ่มหล่อผิวสีแทนกับสาวสวยราวนางฟ้ายืนเคียงคู่กันตัดริบบิ้นสีแดง เป็นอันบ่งบอกว่าวันนี้มีการเปิดกิจการใหม่

“เจ้าของร้านดูเด็กจัง แต่ทั้งสวยทั้งหล่อเลยนะ” ผู้คนที่มองมาไกล ๆ จากมุมอื่นพูดคุยกัน

“ซานเหอมู่เย่ ? ร้านอะไรน่ะ”

“เหมือนจะเป็นเฟอร์นิเจอร์นะ”

“หา ? ร้านเฟอร์นิเจอร์จำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว ไม่ใช่ว่าปกติต้องเป็นร้านแคบ ๆ มีตู้โต๊ะกองกันทึบเลยไม่ใช่หรือไง ฉันเคยไปร้านแบบนี้อยู่ฝุ่นงี้เยอะจนแทบหายใจไม่ออก”

“แต่นี่ดูเหมือนจะแตกต่างนะ.. เอ๋ มีเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนแบบนั้นด้วยเหรอ น่ารักจังเลย”

“นั่นสิ แต่ละสีสวยดีนะ แต่ฉันชอบสีเข้มมากกว่า”

“ไอ้หยา มองผ่านกระจกแบบนี้มองไม่ค่อยชัดเลย เราก็ไปร่วมชมร้านหน่อยแล้วกัน”

ผู้คนมากมายเริ่มแห่กันมาทางนี้ขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณหน้าร้านจึงแน่นขนัดไปด้วยจีนมุงที่ส่องสายตาคอยืดคอยาวเข้าไปในร้าน

“ภรรยา อีกเดี๋ยวเราค่อยกลับมาดีไหมครับ ตอนนี้คนเยอะมากเบียดเข้าไปคงไม่สะดวกแน่” สามีคนที่นัดภรรยามาเที่ยวเทียนจินเอ่ยปรามภรรยาที่มีสีหน้าตื่นเต้นยิ่งกว่าอะไร

“ไม่ได้นะคะ ! คุณเห็นนั่นมั้ย นั่นภรรยาเพื่อนบ้านของเรา นั่นก็คุณนายที่ฉันรู้จัก ทุกคนอยู่ที่แถวหน้าแล้ว ไม่ได้ ๆ ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะคะ เอ๊ะ นั่นภรรยาเพื่อนทหารของคุณไม่ใช่เหรอคะ”

สามีมองตามเมื่อเห็นว่าใช่ก็พยักหน้า หันกลับมาอีกครั้งภรรยาเขาก็มุดไปอยู่ด้านหน้าเสียแล้ว

“ซานเหอมู่เย่สวัสดีทุกท่านค่ะ ขอบคุณอย่างสูงที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันเปิดร้านใหม่ของเราในวันนี้ พวกเราสร้างซานเหอมู่เย่มาเพื่อมอบเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครให้กับบ้านของคุณ พวกเราผลิตสินค้าทุกชิ้นด้วยความรักและความใส่ใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะพึงพอใจในสินค้าของเรา ซานเหอมู่เย่ ยินดีให้บริการค่ะ”

ทุกคนปรบมือให้กับว่านอันอันที่ถือไมค์พูดอยู่หน้าร้าน ประตูกระจกปิดสนิทมีพนักงานชายเฝ้าอยู่สองคนจับที่เปิดไว้ รอสัญญาณจากผู้เป็นนาย

“วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันแรก เราจึงมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าหนึ่งร้อยท่านแรก สิ่งนั้นก็คือส่วนลด 30 เปอร์เซ็นต์ ! ซึ่งสามารถใช้ได้ในวันนี้เท่านั้น และสำหรับทุกท่านเรามีคูปองสำหรับแลกจับรางวัลในทุก ๆ ยอดซื้อห้าร้อยหยวนค่ะ รางวัลที่จับฉลากได้คือของด้านหน้านี้เลยค่ะ !”

เธอผายมือไปยังส่วนจับของรางวัลที่มีพนักงานยืนอยู่พร้อมกองข้าวของมากมาย ตั้งแต่ของชิ้นเล็กอย่างเครื่องสำอาง ของใช้จุกจิก เครื่องเขียน ไปจนถึงของใช้ชิ้นใหญ่ในครัวเรือนและเครื่องใช้ไฟฟ้า พลันเสียงพูดคุยก็กระหึ่มขึ้นทันที

“โอ้ ! รางวัลใหญ่นั่นมัน โทรทัศน์ไม่ใช่เหรอ !”

“ซื้อเองยังต้องมีเงินกี่หมื่นหยวน นี่ห้าร้อยหยวนพกดวงมาก็เป็นเจ้าของได้แล้วเหรอ !”

“อย่าว่าแต่รางวัลใหญ่เลยพี่ชาย รางวัลรองลงมาก็ดีสุด ๆ มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ มีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ปกติไปซื้อของจ่ายเงินแล้วมีเรื่องดี ๆ อย่างของแถมนี่ที่ไหน”

“ไป ! วันนี้ฉันต้องได้ของรางวัลไปให้เมีย”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ