ตอนที่ 12 ชุดตัวอย่างพร้อมนำเสนอ

ผ่านไปหลายวันในที่สุดก็วันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของหลี่ชิงหรง แม่เลี้ยงเดี่ยวจึงจัดการทุ่มเวลาให้กับการตัดเย็บชุดทั้งวันอย่างเต็มที่ ในที่สุดความพยายามก็สัมฤทธิ์ผล

“เสร็จเสียที” หลี่ชิงหรงเปรยออกมาพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก

“สวยมากค่ะพี่ชิงหรง ฉันว่าโทนสีน้ำเงินเข้มทำให้ชุดดูเข้ากันได้ดีที่สุด สามารถดึงความสนใจมาจากลายผ้าที่มีสีอ่อนไปได้เยอะเลยค่ะ” ซุยหลันซีหยิบชุดที่ตัดเรียบร้อยแล้วขึ้นมาพิจารณาดู

“ก็แน่อยู่แล้วสิค่ะ ผ้าลายดอกสีน้ำเงินเข้ม พอลงสีเพี้ยนมันเลยกลายเป็นสีน้ำเงินอ่อนออกสีฟ้า พอเราจับคู่กับผ้าพื้นสีน้ำเงินเข้มมันเลยดึงความโดดเด่นมากลบผ้าพื้นได้ แต่พี่ชอบสีแดงเข้มมากกว่า มันดูหรูหรา ไม่มากไม่น้อยดูมีความสง่างาม สาวๆ ที่ทำงานในสำนักงานต้องชอบมากแน่ มองก็สบายตาด้วยเพราะไม่ได้แดงแบบฉูดฉาด” หลี่ชิงหรงหยิบชุดที่ใช้ผ้าสีแดงขึ้นส่งให้กับซุยหลันซีดู

ซุยหลันซีรับชุดที่หลี่ชิงหรงส่งให้มาดูก็พยักหน้าเห็นด้วย “ก็จริงอย่างที่พี่ชิงหรงว่านะคะ” ผ้าลายดอกสีน้ำเงินจางๆ ขลิบด้วยผ้าพื้นสีแดงเข้มให้ความรู้สึกของสาวสำนักงานที่สวยสง่า เอาการเอางาน

เสียงเปิดประตูเข้ามาในบ้านทำให้สองคนหันไปมอง เติ้งเว่ยหมิงเดินเข้ามาพร้อมกับเล่อเล่อ เด็กชายวิ่งเข้ามาหามารดาพร้อมกับยกของในมือขึ้นอวด

“แม่ครับ พี่ชายซื้อขนมให้เล่อเล่อ”

“เด็กคนนี้ ทำไมไปรบกวนพี่เขาอย่างนั้นล่ะ?” ได้ยินแบบนั้นหลี่ชิงหรงก็เอ่ยตำหนิลูกชายตนเองทันที

“พี่ชิงหรงอย่าดุเล่อเล่อเลยครับ แกเป็นเด็กดีผมเลยให้รางวัล ว่าแต่ตัดชุดไปถึงไหนแล้วครับ” เติ้งเว่ยหมิงไม่อยากให้เด็กชายถูกมารดาตำหนิจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“พี่เว่ยหมิงดูนี่สิคะ ชุดตัดเสร็จแล้ว สวยไหม” ซุยหลันซียกชุดสีสีน้ำเงินขึ้นมาทาบบนร่างของตนเองพลางเอ่ยถาม

“แล้วชุดพี่เป็นไงบ้าง?” หลี่ชิงหรงเห็นว่าเจ้าของบ้านอยากเปลี่ยนเรื่องก็เลยไม่ติดใจอะไร หยิบชุดโทนสีแดงมาถามบ้าง

เติ้งเว่ยหมิงตัดสินใจไม่ถูกเพราะทั้งสองชุดให้ความรู้สึกต่างกันไปคนละแบบ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นอีกชุดหนึ่งก็หยิบขึ้นมาดูบ้าง ปรากฏว่าเป็นชุดโทนสีเขียวเหมือนหยก

“ผมว่าสีเขียวก็สวยนะครับ สบายตาดีครับ”

เติ้งเว่ยหมิงยกชุดขึ้นชูให้ดูบ้าง

“อ้าวแบบนี้ก็ไม่รู้น่ะสิว่าชุดไหนสวยที่สุด เล่อเล่อจ๊ะ คิดว่าสามชุดนี้ชุดของใครสวยที่สุด” ซุยหลันซีเห็นว่าคงมีเพียงเล่อเล่อที่สามารถตัดสินได้จึงได้เอ่ยปากถามเด็กชาย

เล่อเล่อหยุดกินขนม เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกของซุยหลันซี ก่อนจะเอามือมาจับคางแล้วนิ่วหน้า คล้ายกับกำลังตัดสินใจเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ท่าทางแบบนี้ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน

“ชุดของแม่สวยที่สุดครับ” ในที่สุดเด็กชายก็ตัดสินใจได้ พอได้ฟังคำตอบทั้งสามคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เด็กชายรักแม่มาก ยกให้แม่เป็นที่หนึ่ง หลี่ซิงหรงถึงกับเอ่ยชมลูกชายเสียงหวาน

“เล่อเล่อ เด็กดี เย็นนี้แม่จะทำอาหารโปรดของลูกให้กิน”

“พี่ชิงหรง พี่อดนอนตั้งหลายวัน วันนี้ก็มากินหม้อไฟที่บ้านเถอะค่ะ” ซุยหลันซีเอ่ยชวนพี่สาวเพื่อนบ้านให้มากินอาหารเย็นด้วยกัน เหนื่อยตัดชุดอยู่หลายวัน งานเสร็จแล้วและผลงานก็เป็นที่น่าพอใจ กินหม้อไฟฉลองหน่อยจะดีกว่า ถือว่าเป็นการขอบคุณเพื่อนบ้านที่แสนดีคนนี้

“เย่! เล่อเล่อชอบกินหม้อไฟ ขอเนื้อหมูเยอะๆ ได้ไหมครับพี่สาวคนสวย”

“ได้อยู่แล้ว” ซุยหลันซีตอบพลางบิดแก้มยุ้ยของเด็กชายด้วยความมันเขี้ยว

เย็นนั้นเติ้งเว่ยหมิงอาสาไปตลาด ปล่อยให้ซุยหลันซีกับหลี่ชิงหรงได้พัก เมื่อกลับมาก็ลงมือทำหม้อไฟกินกันอย่างมีความสุข อย่างน้อยปัญหาก็แก้ไปได้บ้างแล้ว ตอนนี้รอแค่ผลตอบรับ

“ว่าแต่ชุดก็เสร็จแล้วแบบนี้ พรุ่งนี้โรงงานเปิดก็ไปส่งแบบกันเถอะ” หลี่ชิงหรงพูดขึ้นระหว่างกินหม้อไฟ พลางคีบเห็ดจากหม้อไฟส่งให้ลูกชาย ซุยหลันซีก็พยักหน้าเห็นด้วย

“พรุ่งนี้รบกวนพี่ชิงหรงด้วยนะคะ”

“แม่ครับ ไม่อยากกินเห็ด อยากกินเนื้อครับ” เล่อเล่อปฏิเสธเห็ดที่แม่คีบให้พร้อมกับคีบคืนใส่ถ้วยให้หลี่ชิงหรง

“เล่อเล่อจะกินแต่เนื้อไม่ได้ ต้องแบ่งให้พี่สาวกับพี่ชายกินด้วย” หลี่ชิงหรงบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงจนใจ สายตาของเธอมองลูกชายด้วยความอ่อนโยน แต่ก็แฝงไปด้วยความกังวลอยู่เล็กน้อย

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ชิงหรง เล่อเล่อตัวนิดเดียวจะกินได้มากแค่ไหนกันเชียว” ซุยหลันซียิ้มอย่างเข้าใจ เธอมองดูเด็กชายที่กำลังคีบเนื้อใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย แววของเธอเต็มไปด้วยความเอ็นดูและมีความสุขที่เห็นเด็กน้อยได้กินอาหารที่ชอบ

“ไม่ได้หรอกหลันหลัน เห็นตัวเล็กอย่างนี้ กินจุมาก”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ชิงหรง เล่อเล่อกินเต็มที่เลยนะ” เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยย้ำอีกเสียง

เย็นนั้นความสัมพันธ์ของสองบ้านก็แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม

* * *

“หลันหลันเธอรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่ห้องนี้ บอกเขาว่ามาส่งแบบ พี่ต้องไปทำงานแล้ว” หลี่ชิงหรงพาซุยหลันซีเข้ามารอที่จุดประชาสัมพันธ์ เพราะต้องลงทะเบียนก่อนถึงจะเข้าไปด้านในได้ หญิงสาวพยักหน้ารับทราบ หลี่ชิงหรงเดินเข้าไปด้านในตัวโรงงานทันทีหลังพูดจบ ซุยหลันซีนั่งรอไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคน สวมเสื้อผ้าดูภูมิฐาน อายุประมาณห้าสิบปีเดินตรงมาหาซุยหลันซีที่นั่งรออยู่

“มาส่งแบบชุดใช่ไหมคะ?”

“ใช่ค่ะ” ซุยหลันซีลุกขึ้นแล้วตอบอย่างสุภาพ

“เชิญในห้องดีกว่านะคะ” หญิงวัยกลางกล่าวจบก็เดินนำเข้าไปด้านในห้อง ซุยหลันซีก้มลงหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามเข้าไป

“เชิญนั่งก่อนค่ะ ฉันชื่อ หวงเสี่ยวเหมย เป็นเจ้าของโรงงานเฟิงหยุน” เธอบอกซุยหลันซีพร้อมกับแนะนำตัวเอง ซุยหลันซียิ้มกว้าง ไม่คิดว่าจะได้เจอกับเจ้าของโรงงานด้วยตัวเอง

“ฉันชื่อซุยหลันซี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ วันนี้ฉันมีแบบมาเสนอกับคุณค่ะ ตอนแรกว่าจะส่งแค่แบบร่างมา แต่พอดีมีผ้าอยู่แล้ว ฉันเลยลองเย็บตามแบบมาให้ดูเลยค่ะ”

ซุยหลันซีหยิบเอาแบบชุดวาดส่งให้กับหวงเสี่ยวเหมย เธอรับมาแล้วคลี่ออกวางลงบนโต๊ะ ใบหน้ามีความพึงพอใจ

“คุณออกแบบชุดนี้เองใช่ไหมคะ?”

“ใช่ค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ?” ซุยหลันซีตอบพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงลุ้นระทึก มือของเธอกำแน่นอยู่ข้างลำตัว พยายามซ่อนความประหม่าไว้ใต้รอยยิ้ม ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าของหวงเสี่ยวเหมย พยายามอ่านทุกอารมณ์ที่อาจจะปรากฏบนใบหน้าของอีกฝ่าย ในใจของซุยหลันซีเต็มไปด้วยความหวังแต่ก็แฝงไปด้วยความกังวลใจ

“สวย แปลกใหม่ ทันสมัย ฉันชอบนะ”

หวงเสี่ยวเหมยตอบพร้อมกับยิ้มให้

ได้ยินดังนั้นซุยหลันซีก็จัดการก้มลงหยิบชุดที่เธอตัดมาเรียบร้อยแล้ววางลงตรงหน้าของหวงเสี่ยวเหมยอย่างนิ่มนวล

“นอกจากนี้ฉันยังลองตัดมาให้ดูด้วยนะคะ นี่ค่ะ คิดว่าน่าสนใจเพิ่มไหมคะ”

หวงเสี่ยวเหมยเห็นอะไรผ่านหางตาจึงได้เงยใบหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นเป็นชุดที่ตัดเรียบร้อยแล้ว ก็รีบหยิบขึ้นมาดู

“นะ...นี่ ถึงกับตัดมาแล้ว” แล้วก็ใช้มือลูบไปที่เนื้อผ้าอีกครั้ง

หวงเสี่ยวเหมยลุกเดินไปขยับหุ่นที่มุมห้องมาที่โต๊ะ แล้วบอกซุยหลันซีให้ลองสวมชุดลงไปบนหุ่น หวงเสี่ยวเหมยพยักหน้าช้าๆ ยิ้มออกมาเล็กน้อย สายตามองจ้องตามการเคลื่อนไหวของซุยหลันซี

“ลายผ้านี่มันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”

หวงเสี่ยวเหมยสมกับเป็นเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า แค่สีเพี้ยนก็จับได้ในทันที

“ขอบอกเถ้าแก่เนี้ยตามตรง สามีของฉันทำงานที่โรงงานสิ่งทอจินเซิง ผ้าที่นำมาตัดชุดนี้เป็นผ้าที่ผลิตผิดพลาดทำให้ได้สีที่อ่อนกว่าจากต้นแบบ สามีของฉันต้องชดใช้ค่าเสียหาย ฉันจึงนำมาออกแบบแล้วนำมาตัดเย็บเป็นชุด นี่เป็นตัวอย่างที่นำมาให้ทางโรงงานเฟิงหยุนพิจารณา ฉันหวังว่าทางโรงงานจะชอบชุดนี้ และยินดีซื้อแบบแล้วใช้ผ้าที่ของทางเรานะคะ”

ซุยหลันซีไม่คิดปิดบังเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่เธอมาวันนี้ก็ตั้งใจมาคุยธุรกิจกับเฟิงหยุนในเรื่องเกี่ยวกับรับผลิตชุดโดยใช้ผ้าที่มีปัญหาของเติ้งเว่ยหมิง 

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ