ตอนที่ 13 พันธมิตรคนใหม่

“คุณซุย ฉันยอมรับว่าชุดที่คุณออกแบบมามันน่าทึ่งมาก คุณสามารถออกแบบชุดเพื่อมาจัดการกับผ้าที่ผลิตผิดพลาดได้ดี ฉันต้องยอมรับในความสามารถของคุณจริงๆ ตั้งแต่ฉันเปิดรับสมัครมาเป็นเวลาสามเดือน มีแบบของคุณซุยนี่แหละที่เข้าตาฉันมากที่สุด” หวงเสี่ยวเหมยเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ขอบคุณนะคะที่ชอบชุดของฉัน อันที่จริงที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะต้องการความร่วมมือของคุณค่ะ ฉันใช้ผ้าที่เหลือมาตัดชุดที่ฉันออกแบบ นอกจากชุดที่ฉันตัดมาเป็นตัวอย่างในวันนี้แล้ว ฉันว่าจะออกแบบอีกสักสองสามชุด มีชุดให้ลูกค้าเลือกหลายๆ แบบจะขายได้ง่ายกว่า ร้านค้าส่งที่เป็นคู่ค้าของโรงงานเฟิงหยุนสามารถช่วยขายชุดได้ ฉันเชื่อว่าต้องมีใบสั่งซื้อเพิ่มอีกแน่นอน” ซุยหลันซีโน้มน้าวเถ้าแก่เนี้ยอย่างสุดกำลัง เพราะอยากช่วยแก้ปัญหาให้กับเติ้งเว่ยหมิง นอกจากนี้อาจทำกำไรได้อีกนิดหน่อย

“โรงงานเฟิงหยุนยินดีที่จะทำตามที่คุณซุยนำเสนอ แต่ว่าเฟิงหยุนของฉันจะได้อะไรบ้างคะ?” หวงเสี่ยวเหมยแสดงความยินดีที่จะทำตามข้อเสนอของซุยหลันซี แต่ก็ยังคงต่อรองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ สมกับเป็นเถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงงานผู้มากประสบการณ์ ที่ไม่เคยเก็บงำเขี้ยวเล็บของตนเองเอาไว้

“ฉันไม่ต้องการอะไรมาก ชุดที่ฉันออกแบบให้ตัดด้วยผ้าของฉัน ฉันขอค่าผ้าแค่เมตรละสี่หยวน ส่วนชุดที่ตัดขายฉันขอแค่ชุดละหนึ่งหยวน คุณคิดว่าดีไหมคะ? ถือว่าเป็นการลองตลาด

อีกอย่างได้ข่าวว่าเถ้าแก่เนี้ยต้องการหานักออกแบบเสื้อผ้าคนใหม่ ฉันสามารถรับงานออกแบบให้กับเถ้าแก่เนี้ยได้ในอนาคต โดยชุดที่ฉันออกแบบฉันต้องเป็นเจ้าของ ในระหว่างที่เรายังทำงานร่วมกันฉันจะไม่ขายแบบให้กับโรงงานอื่นสัญญามีเวลาสิบปี หลังจากนั้นจะต่อสัญญาหรือไม่ ค่อยไปตกลงกันในตอนนั้น

ส่วนค่าตอบแทนฉันขอเป็นสองแบบ เงินก้อนในครั้งแรกจำนวนหนึ่งพันหยวน และเงินรายได้จากจำนวนชุดที่ตัด เหมือนเดิม ฉันขอแค่ชุดละหนึ่งหยวนเท่านั้นค่ะ คุณว่าการค้านี้ยุติธรรมดีไหมคะ?” ซุยหลันซีจบคำพูดด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ

“ข้อเสนอนี้ไม่เลว รอบแรกนี้ฉันขอแค่ซื้อผ้าจากจินเซิงได้ไหม ค่าส่วนแบ่งก็ไม่ต้องจ่าย เกิดว่าชุดที่ทำออกมาขายไม่ได้ ถือว่าช่วยกันทั้งสองฝ่าย” เถ้าแก่เนี้ยต่อรองหลังจากที่ฟังขอเสนอแล้ว

“เถ้าแก่เนี้ยค่ะ ฉันเชื่อในสายตาของตนเอง และของเถ้าแก่เนี้ยค่ะ คุณเห็นว่ามันสวย มันต้องขายได้แน่ ดังนั้นคุณจึงรับผลิตให้กับฉัน ใช่ไหมคะ? เอาอย่างนี้ดีไหมคะ ถือว่าฉันจะยอมทุ่มสุดตัว

อันที่จริงคุณก็เห็นแล้วว่าชุดที่ฉันออกแบบสวยและทันสมัยมากใช่ไหมคะ? แต่การออกแบบเป็นงานที่ฉันไม่ค่อยถนัดมากเท่าไหร่ สิ่งที่ฉันถนัดที่สุดคือการออกแบบลายผ้าค่ะ คุณคิดดูนะคะว่า ถ้าลายผ้าที่เอามาตัดเย็บมีเฉพาะที่โรงงานของคุณ ประเทศเรากว้างใหญ่คุณจะทำกำไรได้มากขนาดไหน จริงไหมคะ?” ซุยหลันซีบอกยิ้มๆ

คำพูดของซุยหลันซีทำให้เถ้าแก่เนี้ยอึ้งไปแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ บ้านเมืองเพิ่งผ่านการปฏิรูป และเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติ ชุดที่เห็นผู้คนสวมใส่คลาคล่ำบนท้องถนน ส่วนใหญ่ยังคงเป็นชุดจงซาน ส่วนชุดที่ดูทันสมัยก็ไม่ได้มีแบบให้เลือกมากมาย ลวดลายของผ้าก็ไม่หลากหลาย

คนออกแบบชุดว่ามีน้อยแล้ว คนออกแบบลายผ้าน้อยยิ่งกว่า ลายผ้าสวยๆ ส่วนมากนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาแพงหูฉี่ ไม่สามารถนำมาตัดเย็บในปริมาณมากๆ ได้ ส่วนใหญ่คนจะซื้อผ้าแล้วให้ร้านตัดเย็บตัดให้มากกว่า

“แล้วคุณซุยจะทำยังไงกับลายผ้าที่ออกแบบมา ทำยังไงเฟิงหยุนถึงจะได้ครอบครองลายผ้านั้น” หวงเสี่ยวเหมยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานระหว่างความสงสัยและความสนใจ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ซุยหลันซี ประเมินทั้งคำพูดและท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า เธอเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย แสดงถึงความกระตือรือร้นที่จะฟังคำตอบ ขณะที่นิ้วมือเคาะโต๊ะเบาๆ อย่างครุ่นคิด

“เรื่องนี้ไม่ยากค่ะ สามีของฉันทำงานที่โรงงานทอผ้าจินเซิง ฉันจะไปติดต่อกับทางนั้น ฉันจะขอราคาพิเศษให้กับโรงงานเฟิงหยุนที่สั่งผลิตผ้าตามลวดลายที่ฉันออกแบบ แต่จะได้ราคาเท่าไหร่ฉันค่อยมาบอกอีกที นอกจากฉันออกแบบลายผ้าแล้ว ฉันยังจะออกแบบชุดให้เหมาะลายผ้าให้ด้วย แบบนี้คุณก็เป็นเสือติดปีกแล้วและยังเป็นเสือนอนกินอีกด้วย จริงไหมคะ?”

ซุยหลันซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความกระตือรือร้น ขณะที่เธออธิบายแผนการของตน มือของเธอเคลื่อนไหวประกอบคำพูดอย่างมีชีวิตชีวา ทำให้คำอธิบายดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

เมื่อพูดถึงการออกแบบชุด เธอยืดตัวขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงความภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง ก่อนจะจบประโยคด้วยคำถามที่แฝงไปด้วยความมั่นใจและรอยยิ้มที่มุมปาก เธอจ้องมองหวงเสี่ยวเหมยอย่างคาดหวัง รอดูท่าทีของเธอ

“อืม เป็นความคิดที่ดี ตกลง ถ้าคุณซุยสามารถทำได้ตามที่เสนอมา ทางเฟิงหยุนของเราก็ไม่มีอะไรขัดข้อง ส่วนผ้าลายนี้ คุณซุยพร้อมจะส่งมอบได้เมื่อไหร่คะ”

หวงเสี่ยวเหมยพยักหน้าเบาๆ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้า เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลง แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพ สายตาของเธอจับจ้องที่ซุยหลันซี รอฟังคำตอบอย่างสนใจ

“ผ้าพร้อมส่งมอบให้กับทางเฟิงหยุนค่ะ ขอแค่คุณส่งใบสั่งซื้อไปที่โรงงานจินเซิงฉันจะให้สามีนำมาส่งให้กับคุณทันที” ซุยหลันซีตอบอย่างฉับไว ดวงตาเป็นประกายด้วยความมั่นใจ

“ได้! ว่าแต่ต่อไปก็เรียกฉันว่าพี่เสี่ยวเหมยเถอะ เพราะไหนๆ เราก็ต้องร่วมงานกันอีกนาน” หวงเสี่ยวเหมยกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น รอยยิ้มเป็นมิตรปรากฏบนใบหน้า แสดงถึงความพึงพอใจกับข้อตกลงที่เกิดขึ้น

“ได้ค่ะ อย่างนั้นพี่เสี่ยวเหมยก็เรียกฉันว่าหลันหลันดีกว่านะคะ” ซุยหลันซีตอบรับด้วยความยินดีถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับการทำการค้านี้

“ยินดีที่ได้ทำการค้าด้วยกันนะ หลันหลัน”

“ยินดีเช่นกันค่ะ พี่เสี่ยวเหมย”

หลังจากนั้นก็เป็นการตกลงในเรื่องของรายละเอียดในสัญญา โดยทางโรงงานเฟิงหยุนจะเป็นคนร่างสัญญาไว้ เมื่อเรียบร้อยจะฝากไปกับหลี่ชิงหรงไปให้ซุยหลันซีลงนามแล้วเก็บไว้คนละฉบับ

ซุยหลันซีหลังจากที่ตกลงทำการค้าร่วมกันกับโรงงานเฟิงหยุนเสร็จแล้วก็ไปที่โรงงานสิ่งทอจินเซิงต่อทันที 

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ