ตอนที่ 10 วางแผนรับมือปัญหา 1

ผ่านมาสองอาทิตย์ ฝีมือการทำความสะอาด การทำอาหารของซุยหลันซีพัฒนาขึ้นไปมาก จนทำให้เติ้งเว่ยหมิงอดแปลกใจไม่ได้ ทว่าด้วยพฤติกรรม นิสัยของอดีตคุณหนูเปลี่ยนไปในทางที่ดี ชายหนุ่มผู้เป็นสามีจึงไม่ได้ว่าอะไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มดีขึ้น เติ้งเว่ยหมิงที่ปกติก็ไม่ค่อยพูด เขาก็เริ่มพูดคุยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ความสัมพันธ์ที่เป็นเช่นนี้ทั้งสองคนต่างก็พึงพอใจ

เย็นวันนั้น เติ้งเว่ยหมิงก็กลับมาพร้อมกับผ้าที่มีปัญหา สิ่งแรกที่ซุยหลันซีทำเมื่อเห็นสามีกลับมาบ้าน คือถามถึงผ้าที่มีปัญหานั้นทันที ชายหนุ่มหยิบผ้าลายดอกออกมาจากกระเป๋าของเขา

“นี่เป็นผ้าที่มีปัญหาเหรอคะ?”

ซุยหลันซีกางผ้าเจ้าปัญหาออกดู พิจารณาอยู่คู่หนึ่ง

“ใช่ ผมเอามายี่สิบเมตรตามที่คุณบอก” เติ้งเว่ยหมิงตอบพลางเดินไปรินน้ำใส่แก้วมานั่งที่โต๊ะกินข้าวกลางบ้าน

“สีของลายดอกไม้มันอ่อนไปจริงๆ นั่นแหละค่ะ ทำให้เห็นลายพิมพ์บนเนื้อผ้าไม่ชัด แต่ฉันหาทางแก้ไว้แล้ว พี่รอฉันสักครู่” ซุยหลันซีเอาผ้าเจ้าปัญหาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับเดินไปหยิบของบางอย่างที่โต๊ะทำงานของเธอ หญิงสาวเดินกลับมาพร้อมกับแบบชุดอันใหม่ ก่อนจะยื่นให้เติ้งเว่ยหมิงได้ดู

“นี่มัน ไม่ใช่ว่า...” เติ้งเว่ยหมิงยังพูดไม่จบ ซุยหลันซีก็ตอบคำถามเสียก่อน

“ตอนกลางวันฉันแก้ไขแบบของชุดที่จะส่งไปประกวดที่โรงงานเฟิงหยุน พอได้ยินพี่บอกว่าผ้าพิมพ์ลายคล้ายกับที่ฉันวาด แต่สีอ่อนกว่า ทำให้ฉันออกแบบและแก้ไขแบบชุดใหม่ พี่ดูว่ามันดีไหม”

“ผมว่ามันสวยมาก ขนาดเป็นแค่แบบยังสวยขนาดนี้ ถ้าตัดออกมาเป็นชุดพร้อมใส่คงจะสวยกว่าในรูป”

เติ้งเว่ยหมิงตอบ ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นหนทางแก้ปัญหา

“เมื่อกี้พี่ว่ายังไงนะ ตัดออกมาเป็นชุดพร้อมใส่อย่างนั้นเหรอคะ ใช่แล้ว พี่เว่ยหมิง พี่นี่อัจฉริยะจริงๆ” ซุยหลันซีอุทานออกมาหลังจากที่เธอสะดุดคำพูดของสามี

“ยังไงเหรอ” เติ้งเว่ยหมิงเมื่อฟังน้ำเสียงของภรรยาก็ให้แปลกใจ

“ตอนแรกฉันก็กะว่าจะส่งแค่แบบสำหรับประกวดไปให้ทางโรงงานพิจารณา แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันจะตัดออกมาเป็นชุดสำเร็จรูปแล้วค่อยเอาไปเสนอให้เขาดู โดยใช้ผ้าของพี่นี่แหละ ไหนๆ ก็ต้องหาทางขายผ้ารอบนี้อยู่แล้ว ไม่สู้เอามาตัดเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปเสียเลยจะดีกว่า

แค่ต้องหาโรงงานมาตัดเย็บ ตามแบบที่ฉันวาด แบบนี้ก็สามารถขายผ้าได้แถมยังจะได้กำไรจากชุดที่ขายอีกด้วย ฉันตัดชุดไม่เป็น แต่พี่ชิงหรงทำเป็น ฉันนัดพี่ชิงหรงไว้แล้ว เย็นนี้จะลองไปคุยกับพี่เขาอีกทีค่ะ” ซุยหลันซีบอกแผนการของเธอให้กับชายหนุ่มได้ฟัง

พอถึงตอนเย็นหลี่ชิงหรงกลับมาจากที่ทำงาน เมื่อมาเคาะประตูบ้านของซุยหลันซี เป็นเล่อเล่อเป็นคนเดินไปเปิดประตู เพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครนอกจากมารดา

“แม่กลับมาแล้ว เหนื่อยไหมครับ” เด็กชายเงยหน้าขึ้นยิ้มส่งให้มารดาพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงสดใส

“แม่กลับมาแล้ว แม่เหนื่อยมาก ดูสิไม่มีแรงทำอะไรเลย แต่พอเห็นหน้าหมูน้อยของแม่ ความเหนื่อยก็ไม่เหลือแล้ว” หลี่ชิงหรงตอบลูกชายพลางก้มหน้าบิดแก้มนุ่มของเด็กชาย

“พี่ชิงหรง วันนี้มากินข้าวด้วยกันที่บ้านฉันนะคะ มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยค่ะ” ซุยหลันซีเดินตามเด็กชายมา ปล่อยให้ทั้งสองแม่ลูกได้ทักทายกันแล้ว จึงได้เอ่ยขึ้นบ้าง

“ได้สิ ขอพาเจ้าแสบน้อยไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วจะกลับมากินมื้อเย็นด้วย”

จากนั้นหลี่ชิงหรงจึงพาเล่อเล่อกลับบ้านไปอาบน้ำและทำกับข้าว

เมื่อสองแม่ลูกกลับไปแล้ว ซุยหลันซีก็เดินเข้าครัวไปทำกับข้าวเพราะวันนี้ชายหนุ่มกลับบ้านไว จึงมีเวลาเหลือก่อนได้เวลาอาบน้ำ เขาเดินเข้าไปช่วยซุยหลันซีทำกับข้าวในครัว

“พี่เว่ยหมิง ฉันทำเองได้ พี่ทำงานมาเหนื่อยๆ พี่ไปนั่งพักเถอะค่ะ” ซุยหลันซีแย่งเอาผักในถาดจากมือของชายหนุ่ม แต่เติ้งเว่ยหมิงไม่ยอม จึงยื้อกันไปมา

ชายหนุ่มสูงกว่าหญิงสาวแค่ชูถาดผักไว้เหนือศีรษะซุยหลันซีก็แย่งไม่ได้แล้ว หญิงสาวเขย่งเท้าตั้งใจว่าจะแย่งกลับคืนมา ทำให้ยืนไม่มั่นคงถลาล้มลงไปในอ้อมแขนของเติ้งเว่ยหมิง

ชายหนุ่มใช้แขนอีกข้างโอบเธอเอาไว้โดยอัตโนมัติ ซุยหลันซีหลับตาแน่นเผลอกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ ผ่านไปพักใหญ่เติ้งเว่ยหมิงจึงเอ่ยขึ้น

“...คุณจะกอดผมอีกนานไหม?”

เสียงทุ้มของเขาทำให้ซุยหลันซีรู้สึกตัว เธอผละตัวออก เอ่ยตะกุกตะกักอย่างเขินอาย

“เป็นความผิดของพี่นั่นแหละ มาแกล้งฉันทำไม งั้นพี่ก็ทำไปเลย”

พูดพลางหันหลังกลับจะเดินออกไปจากครัว ชายหนุ่มรีบคว้าแขนเรียวเล็กของเธอเอาไว้

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งคุณ เพื่อเป็นการไถ่โทษ มื้อเย็นวันนี้ ผมจะทำเองก็แล้วกัน” เขาพูดเสียงเบาอย่างสำนึกผิด

ซุยหลันซีไม่คุ้นเคยกับท่าทางแบบนี้ของเติ้งเว่ยหมิง ก่อนหน้าที่เขามักจะเย็นชากับเธอ พอเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร จึงพยักหน้าแล้วออกไปจากห้องครัว ไปเก็บเสื้อผ้าที่ซักแห้งแล้วเข้ามา เดินไปนั่งบนเตียง พึมพำพลางลูบอกเบาๆ

“ไม่ไหว ขืนเป็นแบบนี้บ่อยๆ หัวใจฉันคงได้ทะลุออกมานอกอกแน่” ซุยหลันซีหลับตาถอนหายใจ พอลืมตาขึ้นอีกครั้งอารมณ์ก็สงบลงจัดการพับผ้าแล้วนำไปเก็บในตู้อย่างเรียบร้อย

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ