ตอนที่ 6 โอกาสมาถึงครั้งแรก 2

ซุยหลันซีจ่ายค่ารถสามล้อ ลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ บนถนนเส้นนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งชายหญิงขี่รถจักรยาน พวกเขายังคงนิยมสวมชุดจงซานสีน้ำเงิน มีร้านค้าเรียงรายอยู่สองข้างทาง เสียงเรียกคนมาซื้อ ผสมปนเปกับเสียงตะโกนโฆษณาขายสินค้า ผู้คนเดินกันขวักไขว่ เป็นภาพที่ดูแล้วคึกคักมาก

เพียงแค่เธอก้าวเดิน สายตาของคนโดยรอบต่างพากันมองที่เธอเป็นจุดเดียว ที่ปั่นจักรยานก็ปั่นช้าลงพลางหันมอง ที่เดินก็เดินช้าลงถึงกับบิดคอหันไปมอง ราวกับเกิดภาพสโลโมชันขึ้นชั่วขณะหนึ่งในทุกจังหวะที่ก้าวเดินผ่านคนเหล่านั้น

ด้วยรูปร่างและใบหน้าที่งดงาม พร้อมกับท่าทางที่มั่นใจ ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจคนทั้งถนน

ซุยหลันซีพลางคิดในใจ ถนนเส้นนี้ แม้ในอีกสี่สิบปีข้างหน้าก็ยังคงอยู่และยังเป็นแหล่งอนุรักษณ์วัฒนธรรมเก่าแก่ของเมืองนี้อีกด้วย

เธอมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ

เดินไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็สะดุดตาเข้าตึกตึกหนึ่ง ด้านหน้าตึกมีคนเดินเข้าออกอยู่เป็นจำนวนมาก ต่างหิ้วถุงพรุงพะรัง บ้างก็มีเด็กมาด้วย แต่ที่ทำให้เธอดีใจมากที่สุด คือการได้เห็นคนเหล่านี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสัน ผู้หญิงสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวหลากหลายสี

สวมรองเท้าหนังหุ้มส้นสีดำแทบจะไม่เจอผู้หญิงสวมกระโปรง แม้กระทั่งกี่เพ้าแบบที่เธอสวมอยู่ก็ไม่เห็นมีใครสวมเลยแม้แต่คนเดียว

ซุยหลันซีเดินตรงเข้าไปในตึก ด้านในถูกแบ่งซอยเป็นร้านค้าย่อยๆ มีขายทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูป และผ้าสำหรับตัดเย็บ

“ผ้าเนื้อดี ราคาถูก เข้ามาดูก่อนได้” เมื่อเดินผ่านร้านหนึ่ง เสียงแม่ค้าเรียกลูกค้าดังขึ้น ซุยหลันซีเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

“ผ้าผืนนี้ราคาเท่าไหร่คะ”

“ราคาเมตรละหยวนจ้ะ” แม่ค้าตอบพลางคลี่ผ้าให้ดู

“เนื้อผ้าดี ใส่สบาย ไม่ร้อน”

“ขอเดินดูก่อนนะคะ ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ตอนนี้แค่มาดูเอาไว้ก่อนค่ะ”

ซุยหลันซีลูบผ้าเบาๆ ก่อนจะเดินสำรวจร้านอื่นๆ ต่อ เธอพบว่ามีผ้าหลากหลายประเภท ทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าลินิน ราคาตั้งแต่หนึ่งหยวนถึงสิบหยวนต่อเมตร ขึ้นอยู่กับคุณภาพและชนิดของผ้า

เธอเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลายร้าน สังเกตเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าแบบเรียบๆ ไม่มีลวดลายซับซ้อน แบบของเสื้อผ้าก็ตามที่เคยเรียนมา ราคาเสื้อผ้าสำเร็จรูปเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณสิบหยวน ราคานี้ดูสมเหตุสมผลกับสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้

“สวัสดีค่ะ ชุดที่คุณใส่สวยจังเลย” เสียงทักของหญิงวัยกลางคนดึงความสนใจของซุยหลันซี

“ขอบคุณค่ะ” ซุยหลันซียิ้มตอบ

“ฉันชื่อเซียวจิ้งหงค่ะ เป็นเจ้าของร้านตัดเย็บและขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นี่” หญิงวัยกลางคนแนะนำตัว “ชุดแบบนี้ฉันไม่เคยเห็นในเมืองนี้มาก่อนเลย คุณซื้อมาจากไหนคะ”

“ฉันชื่อซุยหลันซีค่ะ ชุดนี้ซื้อที่ปักกิ่งค่ะ” ซุยหลันซีตอบ

“มาจากเมืองหลวงนี่เอง ถึงดูทันสมัยและสวยงามมาก ยิ่งคนสวย แบบน้องสาวสวมใส่ จึงดูสวยมากจริงๆ”

เซียวจิ้งหงเอ่ยชมดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยถามประโยคต่อมา

“ไม่ทราบว่าน้องสาวสนใจขายชุดนี้ให้ฉันได้ไหม ฉันจะเอามาแกะแบบแล้วตัดขายที่ร้านค่ะ” เซียวจิ้งหงเสนอ กี่เพ้าชุดนี้งดงามมากจริงๆ

ซุยหลันซีคิดสักครู่ก่อนตอบ “ชุดนี้น่าจะไม่ได้ค่ะ แต่ว่าฉันสามารถวาดแบบมาให้ได้ ฉันวาดแบบเป็นค่ะ และคิดค่าออกแบบราคาไม่แพงด้วย ถ้าหากว่าขายดี ต่อไปเราอาจร่วมมือทำการค้ากันได้นะคะ”

ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสแบบนี้ ซุยหลันซีก็ไม่พลาดที่จะคว้าเอาไว้

เซียวจิ้งหงเลิกคิ้ว รีบยิ้มกว้างออกมาทันที “ได้! น้องสาว อย่างนั้นเธอกลับไปวาดแบบแล้วเอามาให้ฉัน ถ้าหากว่าชุดนี้ขายดี ต่อไปเรามาตกลงทำสัญญากัน”

“โอ้ อย่างนั้นก็ได้ค่ะ” หลังจากเลือกชุดกางเกงแบบที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุดแล้ว เซียวจิ้งหงพาซุยหลันซีไปที่หลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุด

ซุยหลันซีอยากซื้อ เสื้อผ้าแบบที่ตัวเองชอบติดมือไปด้วยสองสามชุด แต่พอมองเงินที่มีอยู่ในมือ เงินเหลืออยู่แค่สี่สิบกว่าหยวน อีกทั้งเงินจำนวนนี้ก็ไม่ใช่ของเธอ แม้เติ้งเว่ยหมิงบอกว่าเงินจำนวนนี้ให้เธอไว้เพื่อใช้จ่าย แต่ก็ยังต้องดูว่ามีอย่างอื่นที่ต้องซื้อใช้ในแต่ละเดือนอีกหรือเปล่า

เอาไว้เดือนหน้าค่อยซื้อก็ได้ ตอนนี้ก็ใส่เสื้อผ้าตามความชอบของร่างนี้ไปก่อนละกัน

“น้องสาวรูปร่างแบบเธอ ไม่ว่าจะสวมเสื้อผ้าแบบไหน ก็ดูดีทั้งนั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ครั้งหน้าตอนที่เธอเอาแบบมาส่ง เธอชอบชุดไหนเลือกเอาได้เลย ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกัน” เซียวจิ้งหงนอกจากจะเอ่ยชมซุยหลันซีแล้วยังมอบข้อเสนอให้กับเธอด้วย

“ได้ค่ะ อย่างนั้นอีกสองวันฉันจะเอาแบบมาส่งให้นะคะ” ซุยหลันซีตอบพร้อมกับเดินมาหยุดอยู่หน้าร้าน

“ฉันรอเธอแน่นอนอยู่แล้ว ปกติเสื้อผ้าที่ร้านก็มีแบบฉันตัดเอง กับที่รับเสื้อสำเร็จมาจากโรงงานอีกที อ้อ! จริงด้วยสิ น้องสาวในเมื่อเธอออกแบบชุดเป็น ไม่อย่างนั้นเธอลองออกแบบเสื้อผ้าส่งเข้าประกวดที่โรงงานสิ ตอนนี้โรงงานเฟิงหยุนที่ฉันรับชุดมาขายกำลังจัดประกวดการออกแบบชุดอยู่นะ”

“เถ้าแก่เนี้ยก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ”

“แหม น้องสาว ใครๆ ก็รู้เรื่องกันหมดนั่นแหละ โรงงานตัดเย็บเฟิงหยุนเป็นโรงงานชื่อดังของที่นี่ เห็นว่าตอนนี้กำลังขาดแคลนนักออกแบบชุดเพราะคนออกแบบชุดมีน้อยไม่ทันกับกำลังการผลิต” เซียวจิ้งหงลดน้ำเสียงลงจนเกือบเป็นกระซิบพร้อมกับป้องปากพูด

ซุยหลันซีก้มใบหน้าลงเล็กน้อยเนื่องจากเธอมีรูปร่างที่สูงกว่าเซียวจิ้งหงอีกทั้งวันนี้เธอยังสวมรองเท้าส้นสูง จึงยิ่งดูสูงโดดเด่นเป็นที่สะดุดตาของคนที่เดินผ่านไปมาที่หน้าร้าน

“แต่ถ้าเธอมีแบบชุดอยู่บ้างแล้ว จะลองเอามาเสนอขายให้ฉันดูก่อนก็ได้นะ ฉันยินดีรับซื้อ ร้านฉันจะได้เป็นเจ้าแรกที่มีเสื้อผ้าแบบใหม่ๆ”

“ขอบคุณค่ะ อย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ เอาไว้เจอกันค่ะ” ซุยหลันซีกล่าวอำลาพร้อมรอยยิ้ม

“ได้เลยจ้ะ อย่าลืมเสียล่ะ ฉันจะรอเธอ”

เซียวจิ้งหงกล่าวกำชับอีกครั้งพร้อมกับโบกมือลา

ซุยหลันซีเดินออกจากร้าน เรียกสามล้อมุ่งหน้าไปยังตลาดสดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน วันนี้เธอตั้งใจจะไปซื้อของสดกลับไปทำกับข้าวรอเติ้งเว่ยหมิงกลับมาจากที่ทำงานเสียหน่อย

ไหนๆ ก็ต้องใช้ชีวิตที่นี่แถมยังมีสามี แม้จะแค่ในนามก็เถอะ เมื่อต้องอาศัยอยู่ด้วยกันแล้ว อย่างนั้นก็มีน้ำใจต่อกันถึงจะดี อย่างน้อยเขาก็ดีกับเธอ ให้เงินเธอไว้ใช้ตั้งห้าสิบหยวนเชียวนะ! 

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ