ตอนที่ 4. เผือกนึ่งทรงเครื่อง

ลู่เจียวเดินเข้าครัวพร้อมกับสองลูก ซีซวนกับชิงอีพวกเขาตื่นเต้นที่เห็นผู้เป็นแม่เตรียมทำอาหาร แต่ทั้งสองก็ไม่ได้มาก่อกวนพวกเขาแค่ไปนั่งมุมหนึ่งของห้องครัว มองดูเธอทำอาหารเงียบ ๆ ลู่เจียวมองพวกเขาแล้วก็ยิ้มให้เล็กน้อย รู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นเด็กดีมากที่ไม่ทำให้เธอต้องวุ่นวายระหว่างทำอาหาร 

"แม่ทำอะไรเหรอครับ?" ซีซวนถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้ 

"แม่กำลังจะทำของอร่อยให้กินจ้ะ" ลู่เจียวตอบขณะที่กำลังก่อไฟในเตา 

เธอตั้งหม้อน้ำขึ้นบนเตา รอให้น้ำเดือด ระหว่างนั้นหยิบเผือกที่ล้างแล้วมาปอกเปลือก ลู่เจียวเริ่มปอกเปลือกเผือกหัวใหญ่ด้วยความระมัดระวัง มือค่อย ๆ ล้างเผือกให้สะอาดเพื่อเอายางออก หลังจากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นใหญ่พอเหมาะ วางลงบนเขียงอย่างเป็นระเบียบ เมื่อหม้อน้ำเริ่มเดือดก็ยกเผือกที่หั่นเตรียมไว้ขึ้นนึ่ง 

"อีกไม่นานก็ได้กินเผือกนึ่งแล้วนะจ๊ะ" ลู่เจียวหันไปบอกลูกของเธอ พวกเขามองมาด้วยตาเป็นประกาย  

ระหว่างรอให้เผือกนึ่งสุก เธอเตรียมตัวทำเมนูเผือกทรงเครื่อง เมนูนี้เป็นที่เธอถนัดตั้งแต่ชาติก่อนและมั่นใจว่ามันจะเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับคนที่นี่ เริ่มจากหั่นเผือกเป็นเส้นเล็ก ๆ ลองเทียบปริมาณเผือกกับพวกเนื้อสัตว์ที่จะใส่แล้วก็พยักหน้าพอใจ  

ต้องเข้าใจก่อนว่าในชาติก่อนเธอใส่กุนเชียงกับกุ้งแห้งในปริมาณมากพอๆ กับเผือก ทว่าไม่ใช่ในตอนนี้ ถ้าจะขายให้กับชาวบ้านในชนบทแบบนี้ ราคาต้องไม่สูงเกินไป จึงลดปริมาณเนื้อสัตว์ลง แค่ให้มีกลิ่นและรสชาติจากเนื้อเท่านั้น จากนั้นหั่นกุนเชียงเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายลูกเต๋า แล้วหยิบกุ้งแห้งออกมา 

"แม่คะ กลิ่นเหมือนเนื้อเลยค่ะ!" ชิงอีพูดขึ้นพร้อมสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาในอากาศขณะที่เธอเริ่มผัดกุนเชียงและกุ้งแห้งในกระทะ 

ลู่เจียวหัวเราะ "แม่ไม่มีเงินมากพอจะซื้อเนื้อหรอกลูก แต่กุนเชียงก็พอแทนได้บ้าง" บอกพวกเขาพร้อมกับพลิกกุนเชียงและกุ้งแห้งในกระทะไปมาให้มีกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วครัว 

เมื่อกุนเชียงและกุ้งแห้งสุกพอดี เธอค่อยเทมันลงในเผือกที่หั่นไว้ จากนั้นก็เติมเกลือ น้ำตาล และเครื่องเทศเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ ตามด้วยแป้งมันและแป้งข้าวเหนียวเพื่อให้เนื้อเผือกนุ่มและเหนียวเล็กน้อย ก่อนจะคลุกเคล้าทุกอย่างเข้ากันอย่างดี 

"มันเรียกว่าอะไรเหรอครับ?" ซีซวนถามอีกครั้ง 

"เผือกทรงเครื่องจ้ะ" เธอบอกเขา "มันทำง่ายแต่อร่อย กินแทนข้าวหรือของว่างก็ได้" 

ลู่เจียวลุกขึ้นไปหาสิ่งที่จะเอามาเป็นภาชนะสำหรับนึ่ง เจอถาดสำหรับนึ่งใบหนึ่ง เธอทาน้ำมันในถาดเล็กน้อย นำแป้งที่ผสมไว้ลงไปในถาดแล้วกดให้แน่น จากนั้นโรยงาขาวไว้ด้านบนเพื่อให้มีรสชาติหอม ก่อนจะนำไปนึ่งด้วยไฟแรงอีกประมาณ 30 นาที 

ระหว่างจัดการทุกอย่าง เผือกนึ่งที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ก็สุกพอดี กลิ่นหอมฟุ้งออกมาจากหม้อนึ่งเมื่อเปิดฝาออก ลู่เจียวหยิบเผือกนึ่งขึ้นมาแล้วตักใส่จานยื่นให้ลูก 

"กินรองท้องไปก่อนนะ อีกไม่นานเผือกนึ่งทรงเครื่องจะเสร็จแล้ว ตอนนั้นจะอร่อยกว่านี้อีกแน่!" ลู่เจียวบอกลูก ๆ ด้วยรอยยิ้ม 

เด็กทั้งสองรับจานเผือกจากเธอพร้อมรอยยิ้มกว้าง พวกเขาเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย มองดูพวกเขาด้วยความรู้สึกดีใจ ไม่มีอะไรทำให้มีความสุขมากไปกว่าการเห็นลูกมีความสุขแบบนี้ เมื่อจัดการกับพวกเขาเสร็จ ลู่เจียวก็ตักเผือกนึ่งมากินบ้าง ไม่น่าเชื่อว่าเผือกจะอร่อยขนาดนี้ ทั้งที่มันเป็นแค่เผือกนึ่งธรรมดา 

กินเผือกนึ่งจนพอใจค่อยลุกขึ้นไปทำความสะอาดห้องครัว เอาจานชามไปล้าง เผือกทรงเครื่องในหม้อนึ่งก็ยังคงส่งกลิ่นหอมออกมา เธอหันไปมองหม้อนึ่งที่ตั้งอยู่บนเตาด้วยความรู้สึกว่าเหลือเวลาอีกไม่นานมันคงจะสุก จึงล้างมือแล้วเดินออกไปหยิบผ้าห่มเก่าที่ใช้นอนเมื่อคืน นำไปตากแดด 

"ซีซวน ชิงอี ช่วยแม่หน่อยได้ไหม?" ลู่เจียวพูดขณะพับผ้าห่ม 

ซีซวนและชิงอีลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขารีบหยิบผ้าห่มของตนเอง ช่วยเธอหอบออกไปตากแดดนอกบ้าน แดดเช้านี้กำลังดี มีลมพัดเบา ๆ พอให้ผ้าห่มที่เปียกชื้นจากอากาศหนาวแห้งเร็วขึ้น 

"เก่งมากลูก วันนี้ลูกช่วยแม่ได้เยอะเลย" ลู่เจียวเอ่ยชมลูก ๆ ด้วยรอยยิ้ม 

"แม่จะให้พวกเราช่วยอีกไหมครับ?" ซีซวนถามพลางด้วยความกระตือรือร้น 

"งั้นช่วยแม่ถูพื้นหน่อยดีไหม?" ลู่เจียวบอกพลางยิ้มไปด้วย เด็ก ๆ ก็พยักหน้าอย่างเต็มใจ 

พวกเราทั้งสามช่วยกันทำความสะอาดบ้าน เด็ก ๆ ใช้ไม้ถูพื้นเดินไปทั่วห้อง ขณะที่ลู่เจียวเก็บกวาดสิ่งของอื่นในบ้าน เสร็จแล้วก็กลับเข้าไปในครัวเพื่อดูเผือกทรงเครื่อง 

ลู่เจียวรีบยกหม้อนึ่งลงจากเตา และนำถาดเผือกทรงเครื่องออกมาวางบนโต๊ะ เด็ก ๆ ที่นั่งรอลุ้นอยู่รีบเข้ามาดูด้วยความตื่นเต้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเผือกทรงเครื่องที่สุกพอดีลอยกระจายไปทั่วห้องครัว 

"กลิ่นมันหอมจังเลยค่ะแม่!" ชิงอีกล่าวพลางสูดจมูก ท้องของหล่อนร้องขึ้นเสียงดัง ชิงอีเอามือกุมท้องแล้วหันมามองแม่ด้วยสีหน้าอาย ๆ 

ลู่เจียวยิ้ม "อดใจรอนิดเดียวนะชิงอี มันยังร้อนอยู่เลย" 

"แม่ครับ ดูแล้วน้องสาวคงรอไม่ไหวแล้ว" ซีซวนพูดพลางมองหน้าน้องสาว "แต่มันร้อนมากนะ ต้องรอให้เย็นลงก่อน" 

ลู่เจียวนั่งมองพวกเขารอเผือกทรงเครื่องหายร้อนอย่างตั้งใจ กลิ่นหอมของเผือกผสมกับกุนเชียงและกุ้งแห้งทำให้ท้องของพวกเธอต่างหิวไปตาม ๆ กัน 

แต่ทันใดนั้น เสียงแผดตะโกนดังมาจากนอกบ้าน ลู่เจียวชะงักเมื่อได้ยินเสียงและรู้ทันทีว่าใครกำลังเดินเข้ามา 

"ลู่เจียว! ทำอะไรอยู่ในบ้าน กลิ่นอะไรหอมออกมาถึงข้างนอก?" เสียงนั้นเป็นเสียงของแม่สามี แม่เลี้ยงของกัวหยาง ลู่เจียวเงยหน้ามองลูกที่นั่งเงียบไปทันที 

เธอลุกขึ้นเดินไปหน้าบ้าน แม่สามีก็เข้ามาในบ้านอย่างไม่รอช้า จางซูหลินมองไปรอบ ๆ บ้าน เห็นผ้าที่ผึ่งไว้ และเห็นเผือกที่เก็บมาจากป่าเมื่อเช้านี้ ใบหน้าก็บึ้งตึงทันที 

"เผือกพวกนี้ ทำไมไม่แบ่งให้บ้านหลัก?" แม่สามีพูดด้วยเสียงอันดัง รู้สึกถึงความไม่พอใจที่ออกมา 

"ฉันเก็บเผือกมาได้เองจากป่า และก็ต้องใช้ทำอาหารเลี้ยงลูก ๆ" ลู่เจียวอธิบายอย่างใจเย็น แต่แม่สามีไม่ได้ฟัง  

จากนั้นเดินตรงดิ่งไปที่ถาดเผือกทรงเครื่องที่เพิ่งทำเสร็จ กลิ่นหอมลอยมาเข้าจมูกทำให้จางซูหลินหยุดมองถาดนั้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ก่อนเอื้อมมือไปหยิบถาดเผือกขึ้นมาโดยไม่รอให้ลู่เจียวพูดอะไร 

"วางเผือกของฉันลงนะ!" ลู่เจียวรีบพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว พลางรีบคว้าไม้กวาดขึ้นมาชี้ไปที่แม่สามี 

 จางซูหลินชะงักมือทันทีเมื่อเห็นท่าทางของลูกสะใภ้ นางไม่เคยเห็นลู่เจียวทำแบบนี้มาก่อน สะใภ้คนนี้เป็นคนที่หัวอ่อนและไม่กล้าหือกับแม่สามี ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่แม่เลี้ยงก็ตาม 

"วางเผือกของฉันลง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!" เธอพูดเสียงดัง น้ำเสียงแสดงถึงความโกรธอย่างชัดเจน 

แม่สามีมองหน้าเธอด้วยความตกใจ "นี่แก กล้าขึ้นเสียงกับฉัน?” จางซูหลินถามด้วยความไม่พอใจอย่างมาก 

ลู่เจียวไม่ถอยและรังสีกดดันที่แผ่ออกมาจากลูกสะใภ้ทำให้จางซูหลินต้องหยุดคิดและรู้ว่าลูกสะใภ้เอาจริง นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนวางถาดเผือกทรงเครื่อง ท่าทางถือดีหายไปกลายเป็นเสียงร้องไห้ 

"โอ๊ย! ช่วยด้วย! สะใภ้ใหญ่บ้านกัวจะฆ่าฉันแล้ว!" แม่สามีร้องตะโกนเดินออกไปนอกบ้าน พลางทำท่าทางว่าโดนรังแกอย่างหนัก  

ลู่เจียวได้แต่ยืนมองด้วยความโมโห เสียงร้องของแม่สามีดังไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านที่กำลังเดินผ่านไปมาต่างหยุดชะงัก แล้วเดินเข้ามามุงดูสถานการณ์ 

"แม่เฒ่ากัวรังแกลูกสะใภ้อีกแล้ว!" เสียงซุบซิบของชาวบ้านเริ่มดังขึ้นขณะที่พวกเขามุงดูเหตุการณ์นี้ 

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้ดีว่าความเงียบสงบของเช้านี้ได้ถูกทำลายลงแล้วโดยแม่สามี ที่ไม่เคยหยุดหาวิธีสร้างปัญหาให้ลู่เจียวเลยแม้แต่วันเดียว 

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ