คิมหันต์และลลิตากลับมาจากโรงพยาบาล เขาประคองลลิตาอยู่ในอ้อมแขนของเขา มือหนาของเขาโอบเธอไว้หลวมๆ อีกข้างกุมมือเธอเบา ๆ อย่างทะนุถนอม
“เหนื่อยไหม จะนั่งพักตรงนี้ก่อนไหม?”
เสียงเขาอ่อนโยนจนหัวใจลลิตาอบอุ่น เธอส่ายหน้าเบา ๆ
“คุณคิม.. ถึงบ้านแล้ว ลลิตาเดินเองได้ ไม่ล้มแล้วค่ะ”
ภาพของสองคนที่ดูแลกันนั้น กลับเป็นภาพที่ทำให้คุณวาสนาเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่คิดว่าลูกชายที่ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหน จะกอดนังตัวดีคนนี้เสียแน่น แถมยังกะหนุงกะหนิงไม่อายผีสางเทวดา
“ตาคิม! บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
คุณนายวาสนาตวาดเสียงแหลม เธอยืนอยู่ที่บันไดชั้นล่าง ดวงตาวาวโรจน์
คิมหันต์ชะงัก หันมาสบตาแม่ของตัวเอง ใบหน้ายังเรียบนิ่ง
ลลิตาพยายามขยับตัวออก แต่คิมหันต์กระชับแขนแน่นขึ้น ไม่ปล่อยให้เธอถอยหนี
“แม่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เขาถามเรียบ ๆ
“เพิ่งกลับมา! และไม่คิดว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้ ลูกพาผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้เข้าบ้านได้ยังไง?!”
เสียงวาสนาสั่นด้วยความโกรธ สายตาไล่มองลลิตาจากหัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยาม
“ฉันรึอุตส่าห์หาลูกคุณเศรษฐีมีเงินมีทอง เป็นผู้ดีมีการศึกษามาให้แก่เลือก แต่แกกลับไม่เอา หันไปคว้ากับกรวดข้างถนนมาทำเมีย”
ลลิตาหน้าเสีย มือเธอสั่นเล็กน้อย แต่คิมหันต์จับมือเธอแน่นขึ้น
“ลลิตาไม่ใช่ผู้หญิงชั้นต่ำไร้การศึกษานะครับ” เสียงเขาเข้มขึ้นทันที
วาสนาเบิกตากว้าง “นี่แกกล้าขึ้นเสียงกับแม่เหรอ นังตัวดีนี่คงทำเสน่ห์ใส่แกแน่ ๆ”
“แม่พอได้แล้ว! ลลิตาไม่ใช่คนแบบนั้น!”
วาสนาไม่ฟังเดินเข้ามาใกล้ลลิตา สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“นังตัวดี.... ฉันจะไม่ปล่อยให้แกทำลายลูกชายฉัน ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!”
วาสนาตรงเข้าไปผลักลลิตาอย่างแรง
ร่างบางเซถอยหลัง คิมหันต์พยายามคว้าไว้ แต่แรงกระแทกจากมือแม่ทำให้ลลิตาล้มลงกระแทกพื้น
“อ๊ะ…!”
ลลิตาครางเบา ๆ มือกุมหน้าท้องแน่น เลือดสีแดงเข้มซึมออกมาจากชายกระโปรง ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
“ลลิตา!!!”
คิมหันต์ร้องลั่น รีบประคองเธอขึ้นในอ้อมแขน
“ละ…เลือด…!” วาสนายืนตัวแข็ง หน้าซีดลงทันที “นี่…มันเกิดอะไรขึ้น…”
คิมหันต์ไม่พูดอะไรอีก เขาอุ้มลลิตาในอ้อมแขนแน่น แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงเข้มไหลลงบนเสื้อเขา
“ทำไมมีเลือด”
คุณนายวาสนายืนตัวแข็ง มือกุมอกแน่น สาวใช้รีบเข้ามาประคอง
“คุณนายคะ… คุณลลิตา…ท้องค่ะ”
ป้าศรีตอบเสียงสั่น เธอไม่คิดว่าเรื่องจะรุนแรงแบบนี้
“ท้องเหรอ....”
วาสนาหน้าถอดสี มือสั่นระริก โลกทั้งใบเหมือนจะถล่มลงตรงหน้าเธอ
“ฉัน…ฉันทำอะไรลงไป…”
...................................
ณ โรงพยาบาล
เสียงเครื่องวัดชีพจรดังต่อเนื่องในห้องฉุกเฉิน
คิมหันต์ เดินวนหน้าห้องฉุกเฉิน มือกำแน่นจนสั่น สายตาจ้องมองประตูห้องตรวจที่ปิดสนิทด้วยใจร้อนรน
ลลิตา ถูกพาเข้าตรวจทันทีที่ถึงโรงพยาบาล เลือดที่เปื้อนเสื้อเขายังคงเปียกชื้นอยู่บนอก แต่เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากเธอ…และลูก
“เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด”
เขาไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มาก่อนในชีวิต กลัวเสียเธอไป เขาเพิ่งจะรู้จักคำว่า 'รัก' แต่ถ้ามันหมายถึงต้องแลกกับการเสียเธอไปเขาก็ไม่เอา
“ขอให้ปลอดภัย…ขอให้เธอปลอดภัย…”
ประตูเปิดออก คุณหมอเดินออกมาพร้อมสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณคิมหันต์… โชคดีมากค่ะ เด็กทั้งสองคนปลอดภัย”
คิมหันต์ถอนหายใจอย่างแรง แทบทรุดลงกับพื้นด้วยความโล่งอก มือหนากุมหน้าผากแน่น น้ำตาแห่งความโล่งใจรื้นขึ้นในดวงตาคม
“ขอบคุณ…ขอบคุณมากครับหมอ…”
“แต่คุณลลิตาต้องนอนนิ่งๆ พักรักษาที่โรงพยาบาล 1 เดือนห้ามขยับตัวค่ะ”
“ครับ คุณหมอรักษาให้เต็มที่เลย จ่ายเท่าไหร่ผมไม่ว่า ขอแค่เมียกับลูกผมปลอดภัย”
“ค่ะ ทางเราจะรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด จากนี้ก็ต้องระวังให้มากนะคะ ห้ามเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกคุณลลิตาเสี่ยงแท้งสูง เพราะเป็นแฝดด้วย ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดกว่านี้”
คิมหันต์พยักหน้า
“ผมจะดูแลเธอเอง…จะไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้นอีก…”
……………………………
ไม่นานหลังจากนั้น คุณนายวาสนา ก็เดินมาถึงโรงพยาบาล ใบหน้าซีดเผือด มือกุมอกแน่น เธอแทบทรุดเมื่อเห็นลูกชายยืนอยู่ตรงทางเดิน
“ตาคิม…”
คิมหันต์หันมามองแม่ แววตาแข็งกร้าวแต่เจือความเสียใจลึก ๆ
วาสนาเดินเข้ามาใกล้ น้ำตารื้นเต็มดวงตา เสียงเธอสั่นจนแทบเอ่ยไม่ออก
“แม่…ขอโทษ… แม่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลลิตา… แม่ไม่รู้ว่าเธอท้อง แม่แค่…โกรธจนลืมตัว…”
เธอเอื้อมมือไปจับแขนลูกชาย
“แม่อยากมีหลานมานานแล้วนะ… ตอนรู้ว่าลลิตาท้อง…แม่…แม่แทบช็อก…”
คิมหันต์ถอนหายใจยาว เขาพาแม่มานั่งที่เก้าอี้ข้างทางเดิน ก่อนจะหันไปเอ่ยกับแม่ด้วยเสียงนุ่มลง แต่หนักแน่น
“แม่ครับ…ลลิตาไม่ใช่ผู้หญิงที่แม่คิด ผมเลือกลลิตามาเองกับมือ ไม่ใช่เพราะเธอรวย ไม่ใช่เพราะเธอมีชื่อเสียง…”
เขาหยุดนิ่งชั่วขณะ เสียงเขาเริ่มสั่นนิด ๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
“แต่เพราะเธอมีจิตใจดี เธอทำงานหนักเพื่อดูแลแม่ที่ป่วยไม่เคยปริปากบ่น และที่สำคัญ เธอรักลูกของผมมากกว่าชีวิตตัวเอง”
วาสนานิ่งฟัง น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงแก้มช้า ๆ
“แม่ผิดเอง… ถ้าลลิตายังไม่เกลียดแม่ไปเสียก่อน…แม่อยากขอโทษเธอด้วยตัวเอง”
“คนจิตใจดีอย่างลลิตา อภัยให้คุณแม่ได้แน่ครับ”
คิมหันต์ยิ้มบาง ๆ บีบมือแม่แน่น ก่อนจะพาเธอเดินไปที่ห้องพักฟื้นของลลิตา
…………………………………..
ภายในห้องพักผู้ป่วย
ลลิตา นอนพักอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียว แต่ยังมีรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา
วาสนาเดินเข้ามาช้า ๆ ในใจนั้นเป็นห่วงหลานในท้องเหลือเกิน เพราะก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไร แต่เพราะเข้าใจลลิตาผิดจึงทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
“ฉันไม่รู้ว่าเธอตั้งท้องกับลูกฉัน ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอกับหลานฉันเลย ฉันขอโทษนะหนู”
คุณวาสนาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง เสียงเธอสั่นเครือมือเธอแตะมือของลลิตาเบา ๆ สื่อว่าเป็นการยอมรับสะใภ้คนนี้แล้ว
ลลิตามองหญิงสูงวัยตรงหน้าน้ำตาไหลเงียบ ๆ เธอเอื้อมมือไปสัมผัสมือคุณนายวาสนา แล้วส่ายหน้าเบา ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณผู้หญิง… ดิฉันไม่ถือโทษโกรธคุณหญิงเลย”
วาสนาน้ำตาไหลพรากกุมมือเธอแน่นขึ้น “โธ่.... ยังจะเรียกฉันคุณผู้หญิงอีก ในเมื่อเธอเป็นเมียตาคิม เธอก็เรียกฉันว่าแม่ได้แล้ว”
“................”
ลลิตานิ่งอึ้ง ยังไม่กล้าอาจเอื้อม จนกระทั่งคิมหันต์เข้าไปลูบศีรษะเธอเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนรักใคร่ว่า
“นิ่งทำไมล่ะลิตา คุณแม่พูดถูกแล้ว เธอเป็นเมียฉัน ก็ถือว่าเป็นลูกสาวของแม่ฉันด้วย”
ลลิตายิ้มทั้งน้ำตา “คุณแม่.... ขอบคุณมากค่ะที่ไม่รังเกียจหนู”
วาสนาจับมือลูกชายมาวางทาบทับกับมือลูกสะใภ้แล้วเอ่ยว่า “ตาคิมรักใคร ฉันก็รักคนนั้นด้วย ต่อไปนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”
“ค่ะ คุณแม่”
ทั้งสามคนยิ้มให้กันอย่างมีความสุข และเฝ้ารอวันที่จะได้เห็นหลานตัวน้อยของบ้าน
เมื่อคุณวาสนากลับมมาที่บ้าน ก็จัดการไล่ป้าศรี และแจ่มออกจากคฤหาสน์ทันที โดยไม่ต้องรอให้ลูกชายเธอกลับมาจัดการ ข้ารับใช้ที่เลี้ยงไม่เชื่อง แอบนินทาเจ้านาย และยังยุยงส่งเสริมให้คนบ้านทะเลาะกันแบบนี้ ยิ่งเลี้ยงไว้ไม่ได้
................................
ณ โรงพยาบาล
คุณนายวาสนา และคิมหันต์ยืนนิ่งสูทราคาแพงที่เคยตึงเป๊ะ ยับยู่ยี่เนกไทคลายออก และในดวงตาคู่นั้นแดงก่ำอย่างไม่ปิดบัง
“อย่าเป็นอะไรไปนะ…ลิตา…”
“ตาคิมมานั่งลงก่อน อย่ากังวลไป ลิตาอยู่ในห้องคลอดแล้ว” คุณนายวาสนาหันมาปลอบลูกชาย “อีกอย่างนะหนูลลิตาแกเข้มแข็ง และหลานของแม่ก็แข็งแรง แม่เชื่อว่าต้องปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก
ทั้งสองนั่งรอลุ้นทายาทคนใหม่อย่างตื่นเต้น
หลายชั่วโมงผ่านไป
ทารกแฝดแผดเสียงร้องดังขึ้นภายในห้องคลอด พร้อมกับเสียงของพยาบาลที่วิ่งวุ่นกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
หมอเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มและข่าวดี
“ปลอดภัยทั้งแม่และเด็กค่ะ ลูกแฝดแข็งแรงมาก น้ำหนักดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน”
คิมหันต์ยิ้มเต็มใบหน้า “ขอบคุณครับหมอ” เขารับเดินเข้าไปข้างในด้วยจังหวะหัวใจที่ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ
บนเตียงคนไข้ลลิตานอนนิ่งสีหน้าซีดจาง แต่ยังมีรอยยิ้มจาง ๆ ข้างกายมีเตียงเล็กของทารกสองคน ที่นอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอะไร
คุณวาสนารีบเข้าไปชื่นชมหลานรักทั้งสองทันที
“น่ารักน่าชังมาก ดูสิ หน้าเหมือนตาคิมตอนเด็กๆ เปี๊ยบ !”
ส่วนคิมหันต์นั้นรีบเข้าไปนั่งลงข้างเตียงกุมมือเธอแน่น “ลิตา… เจ็บมากไหม”
เธอยิ้มอ่อน ๆ มือบางบีบมือเขาแน่นตอบกลับ และพูดเพียงเบา ๆ
“เจ็บมาก… แต่ก็มีความสุขมากที่สุดในชีวิต แค่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ครั้งแรก”
คำพูดสั้น ๆ นั้นทำให้คิมหันต์จุมพิตลงหน้าผากที่เธอ “ขอบคุณมากนะ ที่อดทนเพื่อผม ขอบคุณที่ให้กำเนิดลูกของเราสอง ผมรักคุณ......”
หัวใจคิมหันต์อ่อนโยนลงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และในวินาทีนั้นเขารู้ว่าครอบครัวของเขา สมบูรณ์แล้วจริง ๆ
“ฉันก็รักคุณค่ะ”
เป็นครั้งแรกที่ลลิตาบอกรักเขา เพราะกาลเวลาที่ผ่านมาทำให้เธอมั่นใจแล้วว่า ผู้ชายคนนี้รักเธอกับลูกมากจริงๆ
จบบริบูรณ์
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?