เช้าวันต่อมา
แสงแดดอ่อนจากดวงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีขาวนวล สาดลงบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ซึ่งถูกจัดอย่างพิถีพิถันด้วยชุดอาหารเช้าแบบตะวันตก
แต่โต๊ะยาวเกินไปสำหรับคนสองคนที่นั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน ลลิตานั่งเงียบอยู่ตรงปลายโต๊ะ มือประสานกันบนตัก สายตาจ้องจานอาหารตรงหน้าที่ดูหรูหราเกินกว่าที่เธอเคยทาน ขนมปังอบใหม่ ชาอุ่น ผลไม้หั่นพอดีคำ แต่รสชาติเหมือนกลืนเศษกระดาษ
เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากบันไดไม้ เธอหันไปเพียงนิดเดียวก็เห็น คิมหันต์ในชุดสูทเข้ารูปเรียบหรู ร่างสูงสง่าเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าทรงอำนาจเหมือนเจ้าของโลกทั้งใบ
เขานั่งลงที่หัวโต๊ะห่างจากเธอเกินกว่าสิบเก้าเก้าอี้ ไม่มีคำทัก ไม่มีแม้แต่การสบตา มีเพียงเสียงส้อมกระทบจานเบา ๆ ขณะที่เขาเริ่มรับประทานอาหารของตัวเอง แล้วเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นเรียบเย็น
“กินเยอะๆ หน่อย ดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง จะได้ตั้งครรภ์ไวๆ”
ลลิตาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาสั่นระริก “ค่ะ” เธอต้องหลุบตาลงต่ำ กลืนน้ำลายฝืด ๆ ลงคอ
เขาวางช้อนลงช้า ๆ หันมามองเธอด้วยแววตาคมกริบเหมือนคนมอง “ลูกจ้าง”
“และจำไว้ อย่าแม้แต่จะคิดว่าเธอคือครอบครัวของฉัน เพราะฉันจ้างเธอแค่…ผลิตทายาทให้ฉัน”
ทุกถ้อยคำ ทุกพยางค์ ล้วนกรีดลึกลงในหัวใจของเธอ
“ค่ะ…ฉันเข้าใจ”
ลลิตากำมือใต้โต๊ะแน่น เธอพยายามไม่ให้มือสั่น ริมฝีปากยิ้มบาง ๆ อย่างฝืนใจ น้ำเสียงที่เอ่ยตอบเขาเบานิดเดียว แต่หนักแน่นจนคนฟังชะงัก
คิมหันต์ชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที แล้วถามถึงเรื่องอื่น “แล้วนี่จะออกไปไหนหรือเปล่า” เขาสังเกตว่าเธอแต่งตัวสวยกว่าปกติ
“ฉันจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม่วันนี้ และไปทำงาน ฉันลางานมาหลายวันแล้วค่ะ”
“ถ้าจะไปไหน ก็สั่งให้ลุงเพิ่มขับรถไปส่งแล้วกัน”
ลุงเพิ่มที่ชายหนุ่มเอ่ยถึง คือ คนขับรถประจำตระกูล
ลลิตามองเขาเหมือนไม่เชื่อหู เขาใจดีกับเธอเพียงนี้หรือ
คิมหันต์เหมือนจะอ่านสายตาเธอออกจึงกระแอมออกมาคำหนึ่งเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก แล้วเอ่ยเสียงเข้มขึ้นว่า “ที่ฉันให้เธอใช้รถของฉันก็เพราะไม่อยากให้ร่างกายของเธออ่อนแอจนตั้งท้องลูกของฉันไม่ได้ เข้าใจไว้ด้วย”
“ค่ะ”
……………………….………
ตอนเย็นหลังเลิกงาน ธันวาอาสามาส่งลลิตาที่คฤหาสน์ เขาแอบรักเธอมานานแล้ว พอทราบข่าวเรื่องของเธอเขาก็รู้สึกใจหาย โทษตัวเองอยู่นานที่ไม่กล้าบอกความในใจเธอตั้งแต่แรก
“ลลิตา…” เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่นเหมือนวันเก่า ๆ “หากเธอไม่เต็มใจที่จะอยู่ที่นี่ ฉันก็พร้อมที่จะช่วยเธอนะ”
ลลิตาน้ำตารื้นทันทีซาบซึ้งในน้ำใจเขา แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว “ขอบคุณนะ แต่ฉันได้ทำสัญญาไปแล้ว ยกเลิกตอนนี้คงไม่ได้”
“พูดแบบนี้แล้ว ฉันก็อยากจะถูกรางวัลที่หนึ่งสักร้อยล้าน จะได้มาไถ่ตัวคนรักคืน”
ธันวาพูดทีเล่นทีจริง ไม่อยากให้หญิงสาวเครียดเกินไป
“ฮ่าๆ นายนี่นะจะถูกหวย ลอตเตอรี่สักใบ ฉันยังไม่เห็นนายซื้อเลย”
สิ้นคำ ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คิมหันต์เพิ่งขับรถกลับมาถึงคฤหาสน์เห็นภาพนั้น
ลลิตายืนอยู่ ใต้ต้นเฟื่องฟ้า กำลังพูดคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดยูนิฟอร์มพนักงานบริษัท เธอยิ้มบางๆ ให้เขา และไม่ได้รู้ตัวเลยว่า มีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาอย่างเดือดดาล
คิมหันต์รู้สึกร้อนรุ่มในใจอย่างที่ไม่เคยเป็น เขาที่ไม่เคยอยากสนใจใครเลยสักคน กลับต้องปั่นป่วนเพราะผู้หญิงคนเดียว !
…………………………….……….
ไม่นานนักเมื่อชายคนนั้นกลับไป ลลิตากำลังจะเดินกลับขึ้นห้อง แต่เสียงหนึ่งกลับดังขึ้นจากด้านหลัง
“ใคร?”
เสียงนั้นเย็นเยียบกว่าปกติ ลลิตาสะดุ้ง เธอหันมาเผชิญหน้ากับคิมหันต์ที่ยืนพิงราวบันได สีหน้าเรียบสนิท แต่แววตาแข็งกร่าว
“…เพื่อนที่ทำงานค่ะ ชื่อธันวา”
“คุณพาเขามาที่นี่งั้นเหรอ”
น้ำเสียงเขาเย็นกว่าเดิม
“เขาแค่อาสามาส่งฉันเท่านั้น”
เธอขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าตนทำอะไรผิด ทำไมสีหน้าเขาดูโกรธจัดแบบนั้น
“อ่อ... รถที่บ้านมีให้ใช้ไม่ใช้ แต่กลับอยากนั่งรถผู้ชายอื่น ร่าน ! ถ้าฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงมั่วผู้ชายแบบนี้ ฉันคงไม่เลือกเธอมาเป็นแม่ของลูกฉันหรอกนะ”
ลลิตาถึงกับหน้าชา เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนเอ่ยออกมาว่า “โปรดอย่าดูถูกฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ฉันกับธันวาก็แค่เพื่อนร่วมงาน”
“เพื่อร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมเตียง”
“คุณคิม !”
คำพูดนั้นเหมือนมีดแทงเข้ากลางใจเธอ
คิมหันต์เดินเข้ามาใกล้ ร่างสูงสง่าในเสื้อเชิ้ตสีเข้ม เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ สายตาคมวาวโรจน์อย่างหึงหวง
“เธอไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ในเมื่อคุณรับเงินผมไปแล้ว”
ลลิตามองเขานิ่ง “คุณจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของฉันมากไปแล้วนะคะ”
“กับค่าตัวสิบล้านยังไม่พอให้ผมสั่งคุณอีกรึไง หรือจะเอาเพิ่ม แต่ที่ผมจ่ายคุณไปก็ถือว่าแพงเกินไปแล้วสำหรับเนื้อตัวผู้หญิงระดับคุณ”
เพี๊ยะ!
เสียงฝ่ามือฟาดกับใบหน้าชายหนุ่ม
ลลิตาเองก็ไม่คิดว่าตัวกล้าจะกล้าตบเขา แต่เพราะเขาดูถูกเธอมากเกินไปแล้ว เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเธอจนแทบไม่เหลือความเป็นคน
“เธอกล้าตบงั้นเหรอ?”
คิมหันต์ยิ้มที่มุมปาก แววตาวาวโรจน์ เขากระชากเธอด้วยมือเขา
“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า ถ้ากล้าขัดขืนคำสั่งฉันจะเป็นยังไง”
คิมหันต์ลากเธอขึ้นไปยังห้องนอน แล้วผลักเธอลงกับเตียง ร่างของเขาคร่อมเหนือทันทีโดยไม่ให้ตั้งตัว
ลลิตาดิ้นเล็กน้อย แต่ยิ่งดิ้น เขายิ่งกดเธอจนไม่อาจขัดขืน
“คุณคิม ปล่อยฉัน!” น้ำเสียงเธอสั่น
แต่เขาไม่ฟังอีกแล้ว
“ในเมื่อฉันจ่ายเงินให้เธอไปแล้วตั้งสิบล้าน ก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ” เขาขบกรามแน่น
“ไม่นะ คุณจะขืนใ... งื้อออ”
เธอร้องออกมา แต่ไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็บดขยี้ลงมาบนปากเธออย่างดุเดือด มันไม่ใช่จูบแห่งความรัก มันคือโทษทัณฑ์
มือของเขากระชากเสื้อคลุมของเธอออกเหมือนเป็นเพียงกระดาษบาง
“จำไว้...” เสียงเขาข้างหูเข้มลึก “ตั้งแต่วันนี้ไป...เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น”
เขาทาบประกบบดขยี้ลงมาบนกลีบปากอย่างไร้เมตตาปรานีใดๆ ทั้งสิ้น ทำเอาเลือดเนื้อสาวในกายกลับระอุร้อนขึ้นมาทันควัน เมื่อจูบของเขากดลึกล้ำกว่าเดิมหนักหน่วงยิ่งขึ้น จนลลิตาลนลานต่อต้าน ฝืนข่มการตอบสนองในตัวที่จะเผยอารมณ์ความ ต้องการจริงๆ ออกไปให้เขาเห็นสุดความสามารถ
คิมหันต์ใช้มือล้วงจับซ้อนกุมเต้าทรวงนุ่มอวบหยุ่นของเธอ จูบหนักหน่วงพร้อมกับตะโบมลูบไล้ไปทั่วไม่ยอมหยุด
ลลิตาเกลียดตัวเองที่ควบคุมร่างกายไม่ได้ มันตอบสนองรับเขาอย่างทันควัน ร่างของลลิตาที่แอ่นรับสัมผัส โหยหาสัมผัสจากเขาด้วยความกระหายอย่างน่าอายของตนเอง เขาช่างกระตุ้นปลุกอารมณ์อย่างชวนให้วาบหวาม จนเนื้อตัวสะท้านราวกับถูกแผดเผา
แววตาชายหนุ่มจึงเปล่งประกายวาววาม พลิกร่างของลลิตาหมุนเข้าหาตัว ถอดเสื้อผ้าของตนออกโดยไม่ยอมปล่อยร่างเธอเป็นอิสระ อึดใจต่อมาลลิตาก็ถูกรวบกอดในวงแขนเขา
“จําไว้ว่า ตราบใดที่ยังมีสัญญาอุ้มบุญ คุณคือสมบัติของผม!”
เสียงกระซิบ พึมพําชิดลาดลําคอ กังวานเหน็บแนม วงแขนของคิมหันต์ก็กอดตรึงจนลลิตาหมดหนทางปิดป้องเนื้อตัว หรือเบี่ยงกายหันหนี
เขาโน้มศีรษะลงมาหาทาบริมฝีปากผ่าวร้อนแนบซอกคอ จากนั้นก็เลื่อน ต่ำลงไปที่ทรวงอกข้างหนึ่งแสดงความเป็นเจ้าของอย่างจงใจ
ลลิตานอนนิ่งไม่ขัดขืนดิ้นรน เนื้อตัวสะท้านน้อยๆ กับความวาบหวามรัญจวนใจจากสัมผัสฝ่ามือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของตน จนเผลอครวญครางออกมา ไม่รู้ตัว
“อึก.. อื้ออออ~~~~”
หญิงสาวสติกระเจิดกระเจิงไปหมด ปล่อยตัวระเริงไปกับความรู้สยิวเสียวซ่าน ร่างกายแอ่นหยัดไปด้านหลังรับสัมผัสจากเขา เปิดทางให้อณูประสาทในเรือนกาย ให้ทุกขุมขนเต้นเร่า
คิมหันต์ใช้แขนซ้อนประคองรับใต้ร่าง แล้วทาบทับลงมาบนร่างบาง ลมหายใจถี่หอบกระชั้นสองมือดันเรียวขาให้แยกจากกันอย่างคนใจร้อน แล้วชำแรกความแข็งแกร่งร้อนระอุจัดของเขาเข้าไป ราวกับแท่งเหล็กร้อนจัดจ้วงเข้ามาอัดคับเต็ม
“อ๊า~~~~~~~”
หญิงสาวกอดเขาไว้แน่น เลือดเนื้อทั่วทั้งร่างเหมือนจะหลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว หัวใจเต้นระทึก เธอจิกข่วนแผ่นหลังเขา ขณะที่ร่างกายของเขาบดเบียดขยับโยกแก่นกายร้อนฉ่าเข้าๆ ออกๆ ในกายเธอ
“อ๊ะๆ อ๊าๆ”
ลลิตาครางครวญราวคนจับไข้ ไม่นานนักก็ทะยานสู่ความสุขสุดยอด น้ำหวานไหลพรั่งพรูออกมา ส่วนนั้นของเธอบีบรัดเร่งเร้าให้เขาตามมาติดๆ
“หืม...”
คิมหันต์ขบกรามแน่นด้วยความเสียวซ่านสุดๆ รสสวาทของหญิงสาวทำให้เขาลุ่มหลง หึงหวง จนควบคุมตนเองไม่ได้
เขาถาโถมเข้าใส่เธอหนักๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์ของเขาพุ่งเข้าใส่กายเธออย่างท่วมท้น
“คุณคิม... พอแล้วค่ะ”
คําทักท้วงเป็นแค่กระซิบเบาๆ ทว่าแม้ริมฝีปากจะวอนขอร้องให้เขาพอแค่ครั้งเดียว ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างยันผิวเนื้ออุ่น ๆ บนแผงอกคิมหันต์ ในขณะที่เขายังคงปักแก่นกายแช่ไว้ในกายเธอด้วยความซาบซ่านรัญจวนใจ
คิมหันต์ใช้สองมือประคองใบหน้าสวย แล้วจูบบนริมฝีปากเธอหนักหน่วงจงใจแทนคําตอบ ขณะที่ร่างกายครอบครองเป็นเจ้าของเธออีกครั้ง และอีกครั้งจนกว่าจะพอใจ
ค่ำคืนนั้นลลิตานอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาแดงก่ำ ร่างกายเต็มไปด้วยรอยจูบและความแสบร้อนจากแรงอารมณ์ของเขา
คิมหันต์นั่งหันหลังให้เธออยู่ที่ขอบเตียง มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบหน้าผากอย่างหนักหน่วง
เขารู้ว่าเขาทำเกินไป แต่ความรู้สึกตอนเห็นเธอยิ้มให้ผู้ชายอื่นมันคุมไม่อยู่จริงๆ ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่ได้รักเขาเธอแค่ “ทำตามหน้าที่” เขาก็ยิ่งโมโหจนเดือดดาล
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?