เช้าวันต่อมา
เสียงจานช้อนที่กระทบกันเบา ๆ ดังแว่วจากในครัว กลิ่นข้าวต้มหอมอ่อน ๆ ลอยตลบออกมานอกประตู
ลลิตายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในครัว มือเรียวกำลังทำอาหารเช้าอย่างคล่องแคล่ว เธอสวมผ้ากันเปื้อนสีอ่อน สีหน้าอ่อนโยน เมื่อคิมหันต์ดีกับเธอ เธอก็อยากจะทำอะไรเพื่อเขาบ้าง
คิมหันต์ยืนพิงกรอบประตูอยู่เงียบ ๆ ในมือยังถือแฟ้มเอกสารบางอย่าง สายตากลับไม่ยอมละจากภาพตรงหน้า
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณคิม”
ลลิตาทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ที่นี่เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน ไม่ใช่งานเมียเจ้านายอย่างคุณ” คิมหันต์เอ็ดเธอเบาๆ
เธอสบตาเขา แล้วพูดเบา ๆ
“ฉันแค่อยากทำอะไรเพื่อคุณบ้าง อีกอย่าง ให้ฉันนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ เบื่อตายเลย”
คิมหันต์ได้ยินแบบนั้นก็เสียงอ่อนลง ดวงตาคมของเขามองราวกับอ่านใจเธอได้ทั้งหมด
“ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยเกินไป... เมื่อคืนผมก็กวนคุณทั้งคืน”
เขาเดิมเข้ามากอดแล้วกระซิบข้างหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
“คุณคิม... ฉันไม่เหนื่อยหรอกค่ะ” หัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่าจะได้ยินออกมานอกอก “ปล่อยสิคะ อายคนอื่นบ้าง”
ลลิตาฟาดแขนสามีเบาๆ ก่อนดันตัวออกแล้วบอกให้เขาไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร
“ก็ได้ รีบตามมานะ ผมไม่อยากนั่งกินข้าวคนเดียว”
คิมหันต์เดินออกไป ป้าศรีกับแจ่มมองสบตากัน ‘เดี๋ยวนี้เจ้านายของเรา กินข้าวคนเดียวไม่เป็นแล้ว อิ อิ’
.........................................................
2 เดือนต่อมา
เสียงนกร้องเบา ๆ นอกหน้าต่างไม่ได้ช่วยให้ลลิตารู้สึกสดชื่นขึ้นเลย เธอรู้สึกเวียนหัวตั้งแต่ลืมตา อาเจียนตั้งแต่ยังไม่ทันได้แตะแปรงสีฟัน
ร่างกายเธออ่อนแรง ริมฝีปากซีด มือเย็นเฉียบ แต่เธอยังฝืนตัวเองให้เดินไปเตรียมอาหารเช้าตามที่เคยทำ แม้เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะครัวโดยตรง แต่ลลิตาแค่รู้สึกว่าเธอไม่อยาก “อยู่เฉย ๆ”
ในครัวกลิ่นซุปขิงหอมกรุ่นลอยฟุ้ง มือบางที่ถือทัพพีสั่นน้อย ๆ เหงื่อเม็ดเล็กผุดตามขมับ
เธอกำลังเทซุปลงถ้วย ทว่าทุกอย่างในสายตาเริ่มหมุน เสียงเครื่องครัวหล่นกระทบพื้นดัง
“โคร้ง!”
ลลิตาทรุดลงร่างบางล้มฟุบลงตรงนั้น สติพร่ามัว ภาพเบื้องหน้าสั่นไหวเหมือนน้ำกระเพื่อม และก่อนที่ความมืดจะกลืนเธอไปหมด เธอได้ยินเพียงเสียงเดียว
เสียงฝีเท้าเร็วจัด เสียงประตูเปิดกระแทก พร้อมเสียงทุ้มต่ำที่เธอจำได้ดี
“ลลิตา!!”
เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง สิ่งแรกที่มองเห็นคือเพดานห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ตามมาด้วยผ้าห่มที่คลุมตัวเธอไว้จนถึงอก และกลิ่นยาจาง ๆ ลอยแตะจมูก
ลลิตากะพริบตาช้า ๆ เมื่อเธอหันหน้าไปทางข้างเตียง ก็พบกับร่างสูงของใครบางคนที่นั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้
คิมหันต์ อยู่ในชุดสูทเนกไทหลุดลุ่ยเล็กน้อย ดวงตาคมกริบที่เคยมองเธอด้วยความเป็นห่วง
เธอกะพริบตาอีกรอบ พยายามจะยันตัวลุกขึ้น แต่เขากลับเอ่ยเสียงเข้มก่อน
“อย่าขยับ”
เธอชะงัก เสียงเขายังคงดุ แต่ในดุนั้น มีแววห่วงอยู่ลึก ๆ อย่างที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“ทำไมคะ”
“ลลิตา… หมอบอกว่าตอนนี้ร่างกายคุณอ่อนแอมาก ต้องพักผ่อนเยอะๆ”
เสียงเขาแผ่วอ่อนลง แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ล้นทะลัก
“ฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ค่ะ”
“เป็นสิ... คุณกำลังตั้งท้องลูกของผม”
“...........”
ลลิตานิ่งอึ้งไป แล้วทันใดนั้นเขาก็รวบร่างเธอเข้ามากอดแน่น กอดแน่นเสียจนเธอแทบหายใจไม่ออก
“คุณคิมหันต์…!”
เธออุทาน แต่เขาไม่สนใจยังคงกอดเธอไว้ด้วยความยินดี
“ท้องแล้ว…จริง ๆ ใช่ไหม…!”
เสียงเธอเหมือนคนไม่อยากเชื่อ
“หมอบอกว่า คุณท้องได้ 2 เดือนแล้ว พวกเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน”
เขาคลายวงแขนออก แล้วใช้มือหนาประคองใบหน้าเธอขึ้นมา ดวงตาคมกริบแดงระเรื่อคล้ายกับน้ำตาแห่งความยินดีกำลังจะทะลักออกมา
“ลูกของเรา... อยู่ในนี้”
เขาก็ลดมือลงไปลูบท้องเธอ แม้มันยังแบนราบ แต่เขากลับลูบเบา ๆ อย่างทะนุถนอมที่สุดในโลก
เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าท้องเธออย่างแผ่วเบา เหมือนจูบเด็กน้อยในนั้น จูบหัวใจของเขาเอง
“ฉันจะดูแลพวกเธอและลูกให้ดีที่สุด”
สายตาของเขาตอนนี้ ไม่ใช่สายตาของนักธุรกิจที่มองแค่เงิน แต่เป็นแววตาของ “พ่อคนหนึ่ง”
“ขอบคุณค่ะ”
ลลิตาค่อย ๆ เอื้อมมือลูบหน้าท้องตัวเองเบา ๆ ริมฝีปากขยับแผ่ว น้ำตาไหลพราก หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด เพราะคิมหันต์ที่เย็นชากลับดีใจแบบเก็บอาการไม่อยู่ และทำให้เธอรู้ว่า เธอไม่ใช่แค่แม่ของลูก แต่เป็น ‘หัวใจ’ ของเขาทั้งดวง
…………………………..……….
หลายสัปดาห์ต่อมา ณ สำนักงานเขต
ลลิตานั่งนิ่งอยู่ข้างคิมหันต์ มือกุมหน้าท้องที่เริ่มนูนเล็ก ๆ เอกสารใบทะเบียนสมรสวางอยู่บนโต๊ะ ตรงหน้าทั้งสองคน
คิมหันต์ ชายผู้ไม่เคยยิ้มให้อะไรในโลกนี้ง่าย ๆ วันนี้กลับนั่งสงบ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณแน่ใจเหรอคะ…”
เสียงเธอสั่นนิด ๆ ไม่คิดว่าเขาจะพาเธอมาจดทะเบียนสมรส
เขาเหลือบมองเธอ สายตาคู่นั้นจริงจังแต่ละมุน
“แน่ใจมากกว่าอะไรทั้งหมดในชีวิตฉัน ในเมื่อเราสองคนกำลังจะมีลูกกันแล้ว ก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย”
เธอเม้มริมฝีปาก ความรู้สึกท่วมท้นเกินบรรยาย
เจ้าหน้าที่ส่งปากกาให้เขาก่อน เขารับไปโดยไม่ลังเล เซ็นชื่อของเขาลงบนใบทะเบียนสมรสอย่างมั่นคง แล้วเขาก็ส่งปากกาต่อให้เธอ มือเธอสั่นเล็กน้อยตอนจับมัน แต่มือหนาของเขากลับเอื้อมมาประคองมือเธอเบา ๆ
“สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า คุณคือภรรยาของผม คือ คนที่ผมรัก ผมเป็นสามีของคุณ”
คำพูดนั้น ทำเอาลลิตายิ้มทั้งน้ำตา แล้วเซ็นชื่อของตัวเองลงไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข
หลังจากออกมาจากสำนักงานเขตแล้ว ลลิตายืนมองใบทะเบียนสมรสในมือ เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นสีสดใส
คิมหันต์ก้าวเข้ามาใกล้ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดแน่น ๆ เหมือนจะกอดทั้งชีวิตของเขาไว้ในอ้อมแขนนี้
“ต่อไปนี้ คุณกับผมเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วนะ”
เสียงเขาแผ่ว แต่หนักแน่นในหัวใจเธอ
เธอเงยหน้าขึ้น มองเข้าไปในดวงตาของเขา เห็นทุกความรู้สึกที่เขาไม่เคยพูดออกมา เห็นทั้งความรัก ความห่วงใย ความจริงใจที่ชัดเจนเกินจะปฏิเสธ
“ขอบคุณที่ดีกับลิตานะคะ”
ลลิตาตอบกลับเสียงหวาน ยื่นหน้าเข้าไปช้า ๆ แล้วกดจูบแผ่วเบาลงบนริมฝีปากของเขาจูบที่เต็มไปด้วยความรัก
เขาตอบรับจูบเธออย่างอ่อนโยน ลมหายใจของทั้งสองเกี่ยวพันกันอย่างช้า ๆและในวินาทีนั้น โลกทั้งใบก็มีเพียงเขาและเธอ ไม่มีสัญญาอุ้มบุญใดๆ ต่อไปอีกแล้ว มีแค่ ความรักแท้ที่ก่อร่างขึ้นทีละนิดจนเต็มหัวใจ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?