“อาหยาง น้องคงได้เจอพ่อกับแม่แล้ว ฝากน้องกอดพวกท่านแทนพี่ด้วย คุณพ่อ คุณแม่ อาหยาง ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงฉันแล้วนะ ตอนนี้ฉันมีคนที่พร้อมจะดูแลฉันแล้ว ฉันสัญญาว่าจะหาเวลากลับมาเยี่ยมทุกคนบ่อยๆ”
“ความจริงแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าฉันตัดสินใจถูกหรือผิด แต่ถ้าอาหยางไว้ใจเขา พี่ก็จะเชื่อใจเขาเหมือนที่อาหยางเชื่อ ทุกคนอวยพรให้ฉันได้ใช้ชีวิตที่เหลือและสร้างครอบครัวกับคนดีๆ ด้วยนะ” หวังชิงหรูเอ่ยและวางดอกไม้ไว้ที่หน้าสุสานของครอบครัว ก่อนจะหันมากอดตอบคนที่คว้าร่างของเธอเข้าไปกอดให้กำลังใจ
หลังจากที่ปลอบใจกันอยู่สักพัก เกรย์ก็วางช่อดอกไม้ไว้ข้างกับช่อดอกไม้แรกที่วางอยู่ แล้วจึงเอ่ยคำสัญญาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘เกรย์’ ผมเป็นหมอที่ดูแลอาหยาง และผมจะรักและดูแลชิงหรู ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมสัญญาด้วยชีวิตว่าจะไม่ทำให้ลูกสาวของพวกท่านต้องเสียใจ”
“ลิงน้อย หมอให้สัญญาว่าจะรักและดูแลพี่สาวของลิงน้อยเหมือนที่หมอรักและดูแลเธอนะ ถ้าเป็นไปได้ อาหยางมาอยู่กับพวกเราอีกนะ หมอกับพี่สาวจะรอเธอ”
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้อาหยางและฉัน” หวังชิงหรูเอ่ยขึ้น น้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งใจ
หลังจากที่เสียน้องชายเพียงคนเดียวแล้ว เธอก็เหมือนตัวคนเดียว มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า โชคดียังมีเกรย์เข้ามาเติมเต็มหัวใจที่อ้างว้างของเธอ
“พวกเราไปกันเถอะ ต้องเก็บของอีกหลายอย่าง รวมทั้งเอกสารที่ต้องทำที่สถานทูตด้วย” เกรย์บอกก่อนจะจูงมือกันเดินจากมา
หากพวกเขาทั้งสองจะหันไปมองด้านหลังสักนิด จะได้เห็นพ่อ แม่ และเด็กน้อยอาหยาง ยืนส่งยิ้มให้ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นแสงสว่างลอยหายไปบนฟ้า
หลังจากนั้นเกรย์ก็จ้างบริษัททำเรื่องวีซ่าคู่หมั้นให้หวังชิงหรู เพื่อให้เธอเดินทางไปแต่งงานและอาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยประวัติ ฐานะ รวมทั้งเอกสารต่าง ๆ ทำให้วีซ่าของหวังชิงหรูผ่านได้อย่างราบรื่น
ปัจจุบันนี้หวังชิงหรูมาอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้หนึ่งปีแล้ว หลังจากที่ทำทุกอย่างตามที่ต้องทำแล้วที่เกี่ยวกับเรื่องวีซ่า เกรย์ก็อนุญาตให้ภรรยาเข้าเรียนในคอลเลจหนึ่ง หวังชิงหรูเลือกเรียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
เนื่องจากเธอเห็นว่าถ้ามีความเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างถ่องแท้ เธอจะสามารถหางานทำเกี่ยวกับการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีนได้
“เสี่ยวชิง ไหว้ครอบครัวเสร็จแล้วหรือยัง พวกเราจะออกไปดูบ้านแล้วนะ” เกรย์เดินเข้าไปยังห้องเล็กที่หวังชิงหรูขอไว้สำหรับทำเป็นห้องบรรพบุรุษ โดยที่เธอนำรูปถ่ายและป้ายชื่อของครอบครัวมาด้วย เขายังชอบเรียกภรรยาว่า ‘เสี่ยวชิง’ เพราะมันเหมือนย้ำเตือนให้เขารู้ว่าความรักของพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างถึงได้ลงเอยกันเช่นนี้
“เรียบร้อยแล้ว ไปกันได้แล้วค่ะ” หวังชิงหรูตอบและยิ้มให้
วันนี้เป็นวันหยุดของเกรย์ ทั้งสองคนมีนัดดูบ้านกับเอเจนซี่ เพราะเขาเห็นว่าอีกไม่นานก็ต้องมีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม คอนโดของเขาอาจจะคับแคบ แม้จะใกล้โรงพยาบาล แต่เมื่อมีลูก เขาก็อยากจะใช้เวลากับลูกให้มาก เพราะจากประสบการณ์ของตนเองกับบิดา ซึ่งมันไม่ค่อยดีนัก เขาจึงสัญญากับตนเองว่า เมื่อมีลูกเป็นของตนเอง เขาจะไม่ทำแบบนั้นกับลูก
“เฮ้อ จนป่านนี้เสี่ยวชิงก็ยังไม่ท้อง สงสัยพี่จะไร้น้ำยาจริง ๆ นั่นแหละ” เกรย์ว่าพลางยกมือตัวเองไปลูบหน้าท้องภรรยาเบา ๆ ก่อนจะสตาร์ทรถ
“พี่หมอทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนั้น แล้วเวลาที่พวกเรา เอ่อ รักกัน มันก็ไม่ตรงกับวันที่พอดี แล้วมันจะไปท้องได้ยังไงล่ะคะ แล้วพี่หมอก็สัญญากับฉันแล้วนะคะ ว่าขอให้ฉันเรียนจบก่อน อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น รออีกนิดนะคะ ฉันไม่อยากเป็นภาระพี่หมอไปตลอด ถ้าฉันเรียนจบก็จะมีงานทำไงคะ” หวังชิงหรูลูบหลังมือสามีด้วยความอายเมื่อพูดถึงเรื่องทำนองนี้
“ไม่มีทาง เสี่ยวชิง พี่บอกแล้วไงว่าพี่มีเงินเยอะแยะ เสี่ยวชิงไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้สบายทั้งชาติ พี่อยากให้เสี่ยวชิงเลี้ยงลูกมากกว่า ถ้าเสี่ยวชิงไปทำงานแล้วใครจะเลี้ยงลูกของพวกเราล่ะ หน้าที่หาเงินปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ก็พอ”
“ไม่ได้การล่ะ พี่ต้องปรับตารางการทำงานใหม่ หมอลินดาแซวพี่ตลอด หมอเกร็กก็ไม่น้อยหน้า คอยดูนะ อีกสองสัปดาห์พี่เคลียร์ตารางงานได้ เสี่ยวชิงเตรียมตัวไว้ได้เลย” เกรย์เล็งเห็นปัญหาสุดยิ่งใหญ่ ทั้งยังเอ่ยออกมาอย่างไม่อาย ทำให้หวังชิงหรูหน้าแดง เมื่อได้ยินคำเตือนสองแง่สามง่ามจากสามี
“พี่หมอ เรื่องแบบนี้มาพูดได้ยังไงคะ อีกอย่างงานที่ฉันอยากทำก็เป็นงานออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปที่ไหน แต่ตอนนี้ออกรถเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ได้ไปสายหรอก” หวังชิงหรูรีบเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่จะเข้าตนเอง ถึงแม้เธอจะกลายเป็นหญิงยุคใหม่ แต่ก็ค่อนข้างหัวโบราณเล็กน้อยสำหรับเรื่องแบบนี้
ทำไงได้ มันยังไม่ชินนี่นา หวังชิงหรูนึกในใจ
เกรย์ส่งสายตาแพรวพราวให้ภรรยาพร้อมกับยิ้มยั่วอย่างชอบใจ เขาชอบทำให้ภรรยาเขิน เพราะดูแล้วเธอน่ารักดี
หวังชิงหรูยังใช้ชีวิตไปตามปกติ ช่วงนี้เธอยุ่งมากเพราะต้องเตรียมตัวสอบ แต่คนที่พูดไว้กลับไม่ลืม พอครบสองสัปดาห์ เกรย์รอให้ภรรยาสอบเสร็จก็จัดเซอร์ไพรส์ด้วยตั๋วล่องเรือสำราญสองสัปดาห์
หวังชิงหรูตื่นเต้นมาก เพราะเธอยังไม่เคยไปล่องเรือสำราญสักครั้ง
“เสี่ยวชิง คุณรู้ใช่ไหมว่าสองสัปดาห์ที่จะถึงนี้ คุณต้องทำงานหนัก ดังนั้น ชุดที่ซื้อพี่ขอแบบพิเศษนะ” เขาบอกภรรยาด้วยเสียงที่ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เพราะเขาพาเธอมาเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับทริปล่องเรือสำราญ
“พี่หมอ”
หวังชิงหรูรีบเอามืออุดปากสามี พลางหันซ้ายแลขวา ดูว่ามีใครได้ยินคำพูดน่าอายหรือเปล่า
“ไม่เห็นต้องอายเลย พี่จองห้องเพรสซิเดนท์ไว้ เป็นส่วนตัวจะตาย ไม่มีใครมากวนพวกเราหรอก” เกรย์พูดไปพร้อมกับส่งสายตาวิบวับให้เธอไปด้วย
“พี่หมอ ไม่เอาแล้วค่ะ พี่หมอไปนั่งรอที่ร้านกาแฟชั้นล่างเลยค่ะ ฉันเลือกเสื้อผ้าเอง ขืนให้พี่หมอเลือก ฉันคงไม่ได้ออกจากห้อง” หวังชิงหรูรีบผลักหลังสามีให้เดินไปนั่งรอที่ร้านกาแฟตามที่พูด
“คนบ้า พูดออกมาเสียงดังเชียว” หวังชิงหรูบ่นพึมพำก่อนจะเดินไปเลือกเสื้อผ้าต่อ หากมีใครสังเกตก็จะเห็นได้ว่าแก้มสองข้างของเธอเป็นสีชมพูอยู่นาน
และแล้วทริปล่องเรือสำราญก็มาถึง เมื่อเช็คอิน มีบัตเล่อร์ มาพาไปยังห้องพักพร้อมอธิบายเรื่องต่างๆ จนเรียบร้อย หวังชิงหรูที่ไม่ต้องเกร็งก็รีบสำรวจห้องพักและเร่งสามีให้ออกไปเดินชมรอบเรือทันที
“เสี่ยวชิง จะรีบร้อนไปดูทำไม เราจะอยู่บนเรือนี้อีกตั้งสองอาทิตย์ ตอนนี้พี่เหนื่อยแล้ว ขับรถมาตั้งสองชั่วโมง พวกเราไปนอนพักกันก่อนเถอะ พี่บอกเดวิดให้ปลุกแล้ว” เกรย์ขืนตนเองไว้เมื่อถูกภรรยาลากให้ลุกจากเตียงนอน เดวิดเป็นบัตเล่อร์ที่ทำหน้าที่ดูแลพวกเขาระหว่างสองสัปดาห์นี้
“พี่หมอคะ พวกเราไปเดินดูเรือกันเถอะค่ะ ฉันสัญญาว่าถ้าพี่หมอตามใจฉันตอนนี้ คืนนี้ฉันจะตามใจพี่หมอทุกอย่าง” หวังชิงหรูอ้อนเสียงหวานพร้อมกับทำตาปริบ ๆ อย่างน่ารัก จนทำให้เกรย์อดยิ้มออกมาไม่ได้
“สัญญา” เขายกนิ้วก้อยของตนเองขึ้นมายื่นไปเบื้องหน้าของเธอ
“สัญญาค่ะ ถ้าผิดสัญญา ฉันให้พี่หมอลงโทษเลยเอ้า!” คนที่กำลังจะได้รับการตามใจยิ้มเผล่พร้อมกับยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวเอาไว้แล้วเขย่าเบา ๆ สองสามที
“ได้ พี่ขอพิเศษได้ไหม เพราะตอนที่เรือออกจากท่า เขาจะมี welcome party บนดาดฟ้าเรือตรงสระน้ำ เสี่ยวชิงน่าจะชอบ” เกรย์ต่อรองเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม
“คุณสามีขา ได้คืบเอาศอกนะคะ แต่ในเมื่อคุณสามีกล้าขอ ภรรยาคนสวยก็กล้าให้ค่ะ ดีล” หวังชิงหรูนั่งลงไปบนเตียงข้างสามี และยกนิ้วชี้ขึ้นมากรีดกรายไปบนหน้าอกแกร่งของสามีพร้อมกับทำท่าทางมีจริตจก้านยั่วยวน
“เสี่ยวชิง เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นมาแล้วนะ เมื่อกี้ยังดูเรียบร้อยอยู่เลย ไม่ทันไรยั่วยวนเป็นเสียแล้ว” เขาถามด้วยความแปลกใจ
“ถ้าพี่หมอยังพูดมาก อะไรที่ดีลกันไว้ก็อดนะคะ และของแบบนี้ก็ต้องมีพัฒนากันบ้าง หรืออยากเห็นฉันต้องเป็นนางยักษ์ล่ะคะ” แล้วหวังชิงหรูก็หยุดทุกการกระทำ หันข้างสะบัดหน้าอย่างน่ารักมองตรงกันข้ามกับสามีตัวดี
“โอเค ไปกันเถอะ พี่ไม่แซวเสี่ยวชิงแล้ว” เกรย์ยกมือขึ้นสองข้างยอมแพ้ แต่ต่อให้คนตรงหน้าไม่ยั่วยวน เขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ขอให้เป็นแบบเดิม ขี้อายแบบนี้แหละ ถึงจะสมเป็นเมียเขา
หวังชิงหรูหันมายิ้มกว้าง เอื้อมมือไปหยิบคีย์การ์ดห้องแล้วก็คล้องแขนสามีเดินออกไปสำรวจเรือสำราญลำใหญ่ เธอไม่ลืมถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นความความทรงจำด้วย
ราวห้าโมงเย็น ก็จริงอย่างที่เกรย์บอกไว้ มีเวลคั่มปาร์ตี้บนดาดฟ้าเรือ เดวิดสมกับเป็นสุดยอดบัตเล่อร์ เขาไปจัดเตรียมส่วนพื้นที่ VVIP ไว้ให้แขกพร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ยิ่งทำให้หวังชิงหรูมีความสุข
ต่างจากเกรย์ที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องพวกนี้ เพราะเขาเติบโตมากับชีวิตความเป็นอยู่เช่นนี้มาตลอดชีวิต แต่ในเมื่อภรรยาของเขามีความสุข เขาก็มีความสุขด้วย
ระหว่างเดินกลับไปที่ห้องพัก เขาไม่ลืมกระซิบบอกภรรยาสุดสวย
“เสี่ยวชิง ผมบอกเดวิดว่าไม่รับอาหารเย็นจนกว่าผมจะเรียก คุณรู้ไหมตรงอ่างอาบน้ำเป็นแบบเปิดด้วยนะ คุณจะได้เห็นวิวทะเลชัดเลยทีเดียว”
“พี่หมอไปบอกเดวิดแบบนั้นได้ยังไงคะ” หวังชิงหรูพูดแล้วก็จะทุบไปที่ต้นแขนสามี แต่เขารู้ทันจึงได้วิ่งหนีไป เธอก็ไล่ตาม
หลังจากนั้นห้องเพรสสิเด้นท์ก็มีแต่เสียงหัวเราะและเสียงครวญครางดังขึ้นทั่วห้อง โชคดีที่มันเก็บเสียงอย่างดี สมราคาห้องจริงๆ
เหอะ ไม่ท้องรอบนี้ก็ให้มันรู้ไป เขาจะเป็นไก่อ่อนไม่ได้ ขายหน้าหมอเกร็กแย่ ยิ่งโดนแซวอยู่ทุกวัน เกรย์หมายมั่นในใจอย่างแน่วแน่ในภารกิจนี้
หลังกลับมาจากไปล่องเรือสำราญ เวลาก็ผ่านมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว เกรย์กลับมาทำงานหนักเช่นเดิม ส่วนหวังชิงหรูก็เรียนหนักขึ้น เพราะเธอพยายามจะให้จบในปีนี้
เช้าวันนี้ที่เกรย์ต้องลุกไปทำงาน แต่เขายังคงนอนอยู่บนเตียง
“พี่หมอคะ วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” หวังชิงหรูเอ่ยถามอย่างแปลกใจ หากเสียงของเธอไม่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เพราะตอนนี้เขาเวียนศีรษะจนไม่อยากลืมตา มวนท้อง และใจสั่นไปหมด
ความจริงแล้วเขาตื่นก่อนที่นาฬิกาจะปลุก แต่อาการที่เกิดขึ้นทำให้เขาต้องนอนหลับตาอยู่อย่างนี้ และเลื่อนเวลาปลุกของนาฬิกามาสองครั้งแล้ว
“พี่เวียนหัว”
“เวียนหัวเหรอคะ หรือพี่หมอจะเป็นไข้” พูดแล้ว หวังชิงหรูก็ยกมือแตะหน้าผากของเขาเพื่อวัดไข้ แต่ก็ไม่พบว่ามีอาการใด ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากถามอีกรอบ ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นสามีรีบเปิดผ้าห่มและผลุนผลันลุกไปโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย หวังชิงหรูเข้าไปช่วยลูบหลังให้
“อาหารเป็นพิษไหมคะ แต่เมื่อวานเราก็กินปกตินี่นา...” หวังชิงหรูเอ่ยขึ้น
“...หรือพี่หมอมีเรื่องเครียดที่ทำงานคะ”
“ไม่นะ ช่วงนี้ก็ปกติ” เขาตอบหลังจากบ้วนปาก ล้างหน้าแล้ว จากนั้นก็เดินโซเซโดยมีภรรยาช่วยประคองให้กลับมานอนอีกครั้ง
“ไปโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ อาการพี่หมอเป็นแบบนี้ ฉันไม่สบายใจเลย อย่างน้อยก็ให้หมอตรวจสักนิดนะคะ”
“เสี่ยวชิง พี่เป็นหมอนะ พี่รู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไร” เขาบอกเสียงอ่อนล้า
“แต่ว่าหมอมักไม่รู้อาการตนเอง ไปหาหมอดีกว่าค่ะ เชื่อฉันนะคะ” หวังชิงหรูคะยั้นคะยอ
“อือ ก็ได้” เขายินยอมตามใจเธอ
หวังชิงหรูโทรเรียกแท็กซี่ให้มารับเธอกับสามีไปโรงพยาบาล บังเอิญว่าวันนี้เป็นเวรหมอลินดาพอดี
“อ้าว หมอเกรย์ ฉันก็แปลกใจว่าทำไมวันนี้หมอไม่มาทำงาน กลายเป็นคนป่วยเสียแล้ว” หมอลินดาทักหัวหน้าตนเอง หลังจากที่เห็นหน้าคนไข้ที่ต้องตรวจคนต่อไป
“แค่ไม่สบายนิดหน่อยแต่เสี่ยวชิงเป็นห่วงมาก เลยต้องมาโรงพยาบาล” เขาแก้ตัว
“หมอลินดาคะ พี่หมอตื่นมาก็บ่นเวียนหัว แล้วก็อาเจียนจนไม่มีอะไรจะออกแล้วค่ะ ไม่มีไข้ ไม่ใช่อาหารเป็นพิษแน่นอน เพราะมื้อเย็นเมื่อวานฉันทำเองและก็เป็นอาหารที่กินตามปกติค่ะ” หวังชิงหรูบอกอาการของเกรย์ให้หมอลินดาฟัง
“แปลก จากการตรวจเบื้องต้นก็ไม่มีอะไรผิดปกตินะคะ ชีพจร หัวใจ ความดัน ปกติทุกอย่าง เดี๋ยวฉันส่งตรวจเลือดก็แล้วกัน เผื่อมีอะไรแอบแฝง” หมอลินดาบอกหลังจากตรวจร่างกายของเกรย์
“ผมก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ผมเป็นหมอนะ จะไม่รู้วิธีตรวจตนเองได้ยังไง” เกรย์ยังคงบ่นไม่เลิก
“หัวหน้าคะ บางทีเป็นหมอก็ตกม้าตายได้ เสี่ยวชิงทำถูกแล้วที่พาหัวหน้ามาโรงพยาบาล ฉันว่าหัวหน้าดูอ่อนเพลียมาก ยังไงนอนให้น้ำเกลือสักถุงก็แล้วกันนะคะ” หมอลินดาสรุปการวินัจฉัยให้ฟัง เกรย์พยักหน้ายอมรับ
หลังจากนั้นเกรย์ก็ถูกนำตัวไปอยู่อีกแผนกที่เป็นห้องรอดูอาการ ถ้าไม่มีอะไร เขาก็กลับบ้านได้ และด้วยความอ่อนเพลียทำให้เขาก็ผล็อยหลับไป แต่ความจริงแล้วหมอลินดาให้ยานอนหลับอ่อน ๆ ในน้ำเกลือของเขา เพราะเธอรู้ว่าเกรย์ยังโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเดิม แม้จะแต่งงานและมีภรรยาแสนสวยแล้วก็ตาม
“อาหยาง มาได้ยังไงเนี่ย” เกรย์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ เมื่อเขามาเปิดประตูหลังจากมีเสียงกดกริ่งดังที่หน้าบ้าน
ตรงหน้าเขาเวลานี้คือ อาหยาง ใบหน้าของเด็กชายอิ่มเอิบอย่างมีความสุข ร่างกายดูสุขภาพดีเช่นคนปกติ อาหยางอยู่ในชุดที่เกรย์ซื้อให้ตอนไปเที่ยวสวนสัตว์ ที่น่าประหลาดคือ เด็กน้อยไม่ได้โตขึ้นเลย
“พี่ชายหมอ คิดถึงที่สุดเลยฮะ” อาหยางตอบและก็โผเข้ากอดคนที่ตนเองคิดถึงทันที
“พี่ชายหมอดีใจไหมครับ ผมจะมาอยู่กับพี่ชายหมอตลอดไปแล้ว” เด็กน้อยคุยจ้อไม่หยุด เขาบอกเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
“มาอยู่ด้วยกันตลอดไป หมายความว่ายังไง ไม่ใช่ว่าเธอ...” เกรย์พูดต่อไม่ออก เพราะเขาจำได้ว่าอาหยางเสียชีวิตไปแล้ว
“มาอยู่ก็มาอยู่ ไม่มีเหตุผลอะไร ผมคิดถึงพี่สาวกับพี่ชายหมอที่สุด แล้วพี่ชายหมอไม่ดีใจเหรอฮะที่ผมจะมาอยู่ด้วย” เด็กน้อยเอ่ยถามคล้ายว่าจะน้อยใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ชายหมอกับพี่สาวเราต้องดีใจอยู่แล้วสิ งั้นเข้าบ้านก่อน” เขาตอบรับทันที
ประจวบเหมาะกับหวังชิงหรูเดินออกมาพอดี เมื่ออาหยางเห็นพี่สาวก็วิ่งเข้าไปหา หากภาพที่เกรย์เห็นคือ อาหยางวิ่งเข้าไปแล้วกลายเป็นแสงสีทองหายวาบเข้าไปในตัวของหวังชิงหรู เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“อาหยาง!!”
“พี่หมอ พี่หมอคะ พี่หมอ” หวังชิงหรูที่นั่งเฝ้าสามีอยู่รีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปเขย่าตัวเขาเพื่อปลุกให้ตื่น
เกรย์ลืมตาขึ้น กะพริบตาอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเห็นหวังชิงหรู
“พี่หมอฝันร้ายเหรอคะ”
“เปล่า พี่ฝันถึงอาหยางน่ะ”
“อาหยางเหรอคะ พี่หมอฝันว่ายังไงคะ” เธอถามและนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง
“อาหยางมาเยี่ยมพวกเราที่บ้าน พอแกเห็นคุณก็วิ่งเข้าไปหา แล้วอาหยางกลายเป็นแสงสีทองพุ่งเข้าไปในร่างของคุณ แล้วพี่ก็สะดุ้งตื่นนี่แหละ”
“อาหยางกลายเป็นแสงสีทองเข้ามาในร่างของฉันเหรอคะ หรือว่าข่าวดีคะ นี่เป็นข่าวดีนะคะ” หวังชิงหรูบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ข่าวดี ดียังไง” เขาถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ในเอเชียมีความเชื่ออย่างหนึ่ง ถ้าฝันถึงคนที่เรารักที่เสียชีวิตไปแล้ว หมายถึงว่าเขาจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ยิ่งฉันเห็นอาการของพี่หมอแล้ว บางทีพี่หมออาจจะไม่ได้ป่วยอะไร แต่พี่หมอกำลังแพ้ท้องแทนฉันค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าความฝันนี้จะแม่นแค่ไหน แค่ตรวจว่าฉันท้องหรือเปล่าก็รู้แล้วค่ะ”
“เสี่ยวชิงท้อง? แล้วที่พี่เป็นอยู่นี่ก็คืออาการแพ้ท้อง แต่ในทางวิทยาศาสตร์มันไม่ใช่นะ” เกรย์เถียงปนไม่เชื่อ
“ช่างวิทยาศาสตร์เถอะค่ะ พี่หมอรอที่นี่นะคะ ฉันไปคุยกับหมอลินดาก่อน”
หวังชิงหรูลุกออกไป ไม่นานเธอก็กลับมา บอกเล่าให้สามีฟัง
“หมอลินดาก็ไม่เชื่อเรื่องที่ฉันบอก แต่ฉันตรวจการตั้งครรภ์ไปแล้ว หมอลินดาบอกว่าไม่เกินสองชั่วโมงก็รู้ผล แล้วพี่หมอก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ น้ำเกลือหมดแล้ว”
“พี่ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร”
“งั้นพี่หมอก็นอนพักอีกหน่อยนะคะ อย่างน้อยก็ได้พักอีกตั้งสองชั่วโมง”
“ก็ดีนะ” เขายินยอมอย่างว่าง่าย
ผ่านไปสองชั่วโมง ผลการตรวจก็ออกมา ปรากฏว่า หวังชิงหรูตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว ทำให้สองสามีภรรยาดีอกดีใจใหญ่
เกรย์รู้สึกว่าอาการที่เป็นอยู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนเขาไม่เคยมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น หลังกลับมาจากโรงพยาบาล สองหนุ่มสาวก็มายืนอยู่ริมระเบียงของบ้าน พวกเขากำลังยืนมองพระอาทิตย์ตกดิน เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่แยกเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลไปตามเส้นทางในหมู่บ้านแถบนี้
เกรย์ยืนกอดภรรยาจากทางด้านหลัง มือของเขากำลังลูบหน้าท้องของภรรยาที่ยังแบนราบ
“เสี่ยวชิงรู้ไหม พี่ดีใจมาก ในที่สุดคุณก็ท้องแล้ว จากความเชื่อของคุณ นั่นหมายความว่า ในท้องนี้เป็นเจ้าลิงน้อยอย่างนั้นใช่ไหม” เขาถามขึ้น
“ใช่ค่ะ ฉันก็หวังว่าในท้องของฉันตอนนี้จะเป็นอาหยาง น้องชายของฉันนะคะ”
“อืม ลิงน้อยน่ารัก ฉลาด และยังเป็นเด็กอารมณ์ดี พี่ก็อยากให้ลูกชายของเราเหมือนเขา”
หวังชิงหรูหันตัวกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณพี่หมอนะคะ ที่เข้ามาในชีวิตของเราสองคนพี่น้อง ในตอนนั้นถ้าพี่หมอไม่นำกระดูกของอาหยางกลับไปที่จีน ฉันคงตามไปอยู่กับครอบครัวแล้ว พี่หมอทำให้ฉันมีความคิดที่จะอยู่ต่อไป ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของฉัน”
“พี่ก็ต้องขอบคุณที่เสี่ยวชิงเข้ามาทำให้ความฝันของพี่เป็นจริง ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สุดที่รักของพี่” เกรย์บอกแล้วก็ก้มลงจูบภรรยาคนสวย
“ผมปิดตาก่อนนะครับ ยังไม่อยากเห็นฉากจั๊กกะจี้” เสียงเล็ก ๆ ของใครสักคนดังขึ้นให้พวกเขาได้ยินชัดเจน น้ำเสียงขี้เล่น
เกรย์หยุดจูบหวังชิงหรูทันที หวังชิงหรูเองก็ตกใจ พวกเขาสองคนเหลียวมองไปรอบ ๆ ว่าใครพูด แต่...ก็ไม่เห็นใคร
นัยน์ตาของหมอหนุ่มวาบขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าใคร
“อาหยาง”
“ฮิฮิ ผมหลับก่อนนะฮะ อีกแปดเดือนเจอกันครับ คุณพ่อ คุณแม่” เสียงเล็ก ๆ เสียงเดิมที่ทั้งเกรย์และหวังชิงหรูคุ้นเคยตอบกลับมาแล้วก็เงียบหายไปดื้อ ๆ
“เจ้าตัวยุ่งจริง ๆ ด้วย” เขาหลุดปากด้วยความเอ็นดูอย่างหมั่นไส้และยิ้มกว้าง
“อาหยางขี้เล่นแบบนี้จริง ๆ” หวังชิงหรูยืนยัน มือเรียวลูบหน้าท้องของตนเองอย่างมีความสุข
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?