ตอนที่ 13. ข้ามีความสุขยิ่งนัก

หลังพายุรักผ่านพ้นไป ฮ่องเต้หญิงเซี่ยชิงหรูถึงกับจับไข้ไปอีกสามวัน นางสั่งให้เพียงหมอหลวงเข้ามาดูอาการ เสร็จแล้วก็ให้ออกไป อาหารและเครื่องเสวยต่าง ๆ ถูกนำเข้ามาตามปกติและให้เพิ่มปริมาณอีกหนึ่งเท่า นางกำนัลทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ปรนนิบัติกระทั่งจูเอ๋อร์ที่เป็นนางกำนัลคนสนิทก็เช่นกัน เกรย์ดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี

“ตอนนี้เสี่ยวชิงคงเล่าเรื่องราวให้ผมฟังได้แล้วมั้ง” เกรย์นั่งพิงหัวเตียงมีฮ่องเต้หญิงพิงอกแกร่งอยู่ในท่าที่สบาย

ฮ่องเต้หญิงเซี่ยชิงหรูให้ท่านหมอกวางเรียกนางว่า ‘เสี่ยวชิง’ นามที่มีเพียงบิดามารดาเท่านั้นที่เรียกได้

“หลังจากที่ท่านหมอกวางกลับมาหาข้าในวันที่ข้าแต่งงาน เวลาก็ผ่านไปห้าปีแล้ว ข้าแต่งงานกับหงจินเทียนเพื่อประคองบัลลังก์ไว้เท่านั้น ข้าไม่เคยร่วมหอกับมัน แต่เมื่อวันก่อนไม่นึกว่ามันจะกล้าวางยาปลุกกำหนัดข้า”

“หงจินเทียนต้องการมีทายาท เพื่อจะได้มีเชื้อสายสืบราชวงศ์แต่ข้าไม่ต้องการ ในตอนนั้นที่ข้าเลือกมันก็เพราะเห็นมันเป็นคนหัวอ่อน ไม่นึกว่าเพียงห้าปีมันจะปีกกล้าขาแข็ง มันซ่องสุมกำลังพล ขณะที่ข้าที่สืบรู้เรื่องของมันก็จับตาดูความเคลื่อนไหวของมันอยู่”

เซี่ยชิงหรูเล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาห้าปีว่า นางต้องเจอเหตุการณ์เลวร้ายอะไรบ้าง ทั้งการไม่ถูกยอมรับจากเหล่าขุนนาง ทั้งภัยธรรมชาติที่แคว้นต้องประสบ แต่ละคืนวันที่ผ่านมา นางผ่านสิ่งเหล่านั้นมาด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมากมาย ส่วนสามีที่แต่งเข้ามาก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้

“เหนื่อยมากไหมครับ”

“ข้ายอมรับว่าข้าเหนื่อย แต่เพราะรับสั่งของเสด็จพ่อ ทำให้ข้าถอยไม่ได้”

“ระหว่างที่ผมยังอยู่ที่นี่ ผมจะช่วยเสี่ยวชิงทำงาน ดีไหมครับ” เขาบอกและเชยคางหญิงสาวขึ้นสบตา เพราะเกรย์คิดอาศัยความได้เปรียบที่ไม่มีใครมองเห็นเขานอกจากนางเท่านั้น

“ขอบคุณท่านหมอกวางมาก” นางตอบรับด้วยความดีใจ

หลังจากนั้นทุกวัน เกรย์จะออกไปว่าราชการกับฮ่องเต้หญิงทุกวัน ส่วนหงจินเทียนถูกกักบริเวณอยู่ที่ตำหนักไม่สามารถออกไปไหนได้ เกรย์ช่วยเซี่ยชิงหรูทำงานได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม การทำการเกษตรแบบยั่งยืน การปลูกพืชหมุนเวียน เพราะแม้เขาจะเป็นหมอ แต่ความรู้พวกนี้เขาก็รู้มาไม่น้อย จึงไม่ยากลำบากอะไรสำหรับเขา

ในตอนกลางคืนทั้งสองก็มีความสุขร่วมกันดั่งคู่สามีภรรยา มีการหยอกล้อและพูดคุยกันจนนางกำนัล ขันทีเริ่มซุบซิบถึงความผิดปกติของฮ่องเต้หญิง แต่ในเมื่อพระนางไม่ได้ทำสิ่งใดผิด การทำงานเพื่อบ้านเมืองยังทำอย่างต่อเนื่อง มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นคือการพูดอยู่คนเดียว

เวลาผ่านไปอีกห้าปี เซี่ยชิงหรูกลายเป็นฮ่องเต้ที่ประชาชนรักใคร่ เพราะพระนางปกครองบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม มีการกระจายอำนาจออกไปสู่ชาวบ้านอย่างแท้จริง เซี่ยชิงหรูมีความสุขถึงที่สุด กับชีวิตที่เรียบง่ายและมีคนรักอยู่ข้างกาย โดยหลงลืมไปว่าเมื่อลมสงบมักเป็นสัญญาณของพายุใหญ่เสมอ

คืนหนึ่งระหว่างที่เกรย์กับเซี่ยชิงหรูกำลังจะม่อยหลับไป เกรย์ก็จางหายไปอีกครั้ง

“ท่านหมอกวาง ท่านหมอ ไม่นะ ท่านจะจากข้าไปไม่ได้” เซี่ยชิงหรูลุกขึ้นพลางไล่ตามหาเกรย์อย่างไม่สนใจใด ๆ หมอนหลายใบถูกปาทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี เดือดร้อนให้นางกำนัลและขันทีต้องรีบเข้ามาในห้อง

“เกิดอันใดขึ้นเพคะ” จูเอ๋อร์นางกำนัลคนสนิทเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“จูเอ๋อร์ ท่านหมอกวาง ท่านหมอไม่อยู่แล้ว” เซี่ยชิงหรูโผเข้าหานางกำนัลคนสนิทพลางเอ่ยเล่าอย่างร้อนรน

“ฝ่าบาท หยุดก่อนเพคะ ท่านหมอไหนเพคะ” จูเอ๋อร์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ท่านหมอกวาง ฮือ ฮือ ท่านหมอไม่อยู่แล้ว ข้าจะทำเช่นไรดี” เซี่ยชิงหรูใจสลาย ถอยลงไปนั่งตรงที่นอนพลางร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ นางกำนัลจูเอ๋อร์เพียงเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เป็นเพื่อน

วันรุ่งขึ้นเซี่ยชิงหรูไม่ออกว่าราชการ ปล่อยให้ขุนนางรออยู่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อทำใจได้แล้ว นางจึงกลับไปทำงานดั่งคนใกล้ตาย กลางคืนก็มักพูดอยู่คนเดียวเหมือนกับที่เกรย์ยังอยู่ด้วยกัน ทำให้เหล่านางกำนัลในตำหนักเริ่มหวาดกลัว เพราะมีคนปล่อยข่าวลือถึงความวิปลาสของฮ่องเต้หญิงจนกระจายออกเป็นวงกว้าง

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือปลุกให้เกรย์สะดุ้งตื่น เขามึนงงเล็กน้อย ก่อนจะนึกได้ว่าตนเองนอนอยู่ที่คอนโดของตนเอง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาและกรอกเสียงลงไป

“เกรย์พูดครับ”

“หมอเกรย์คะ ฉันพยาบาลจากตึกเด็กที่ดูแลอาหยางนะคะ” เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาทำให้เขาตื่นเต็มตา

“ครับ เกิดอะไรขึ้นกับอาหยางหรือครับ”

เขาผุดลุกขึ้นนั่งทันที

“อาหยางเสียชีวิตแล้วค่ะ ตอนที่อาการทรุดหนัก ฉันพยายามโทรหาหมอแล้ว แต่ไม่มีใครรับสาย แล้วนี่ก็เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่ฉันโทรหาหมอค่ะ”

“สงสัยผมจะหลับลึกน่ะครับ ผมจะไปที่โรงพยาบาลเร็วที่สุด ขอบคุณที่โทรมาบอกนะครับ” เขาบอกแล้วก็วางสายไป เมื่อมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์จึงได้รู้ว่าเป็นวันใหม่แล้ว

นี่เขาหลับไปแค่คืนเดียว แต่เวลาในฝันถึงกับผ่านไปห้าปีเชียวหรือ ไม่รู้ว่าตอนนี้เสี่ยวชิงของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง เขายืนครุ่นคิดอีกครู่แล้วก็ทิ้งเรื่องของเซี่ยชิงหรูไว้ก่อน เพราะเขาต้องไปหาอาหยางเพื่อจัดการให้เรียบร้อย

เกรย์เข้าไปบอกลาอาหยางเป็นครั้งสุดท้ายและกลับมาที่คอนโดของตน ในใจรู้สึกกระวนกระวายจนไม่เป็นอันทำอะไร เขากำลังห่วงกังวลเซี่ยชิงหรู เพราะเขาจากมาอย่างกะทันหันทำให้เขารู้แล้วว่าเขารักเสี่ยวชิงไปแล้ว

คืนนี้เขาเข้านอนเร็วกว่าปกติ และภาวนาขอให้ตนเองกลับไปหาสุดที่รักของเขา ดูเหมือนพระเจ้าจะเป็นใจเพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาขอ คืนนี้เกรย์กลับไปยังแคว้นเซี่ยอีกครั้ง แต่กลับไม่ได้ร่มเย็นและมีความสุขเหมือนตอนที่เขาจากมา เขามาโผล่ที่ห้องโถงว่าราชการ แต่กลับเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลเจิ่งนองไปทั่วท้องพระโรง

“หงจินเทียน เจ้ากล้ามาก กล้าที่จะก่อกบฏ” ฮ่องเต้หญิงเซี่ยชิงหรูนั่งอยู่บนบัลลังก์ รอบข้างมีทหารองครักษ์จำนวนน้อยนิด ด้านล่างมีหงจินเทียนพร้อมด้วยกำลังทหารมากมายปิดล้อมโถงว่าราชการ

“ชิงหรู เป็นเจ้าที่บังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้ เจ้าก็รู้ว่าข้ารักเจ้าจากใจจริง หวังครองรักครองบัลลังก์ร่วมกับเจ้า หวังมีบุตรธิดาหลายคน หวังเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่เจ้ากลับทำลายมันลงกับความเพ้อฝันของตนเอง เป็นเจ้าที่บังคับให้ข้าต้องทำเช่นนี้”

“แต่ไม่ต้องห่วงไป หลังจากที่ข้าขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้ว เจ้าจะยังคงเป็นฮองเฮาของข้า จะไม่มีใครมาแทนที่เจ้าได้” หงจินเทียนเอ่ยความในใจออกมาทั้งหมดต่อหน้าเซี่ยชิงหรู หญิงสาวที่เขารักจนหมดใจ

หากตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาพยายามทำเช่นไรก็ไม่เคยได้หัวใจนาง เขาจึงตัดสินใจทำเช่นนี้ เริ่มแรกก็ต้องยึดอำนาจมาให้ได้เสียก่อน จากนั้น เขาจะทำกับนางเช่นไรก็ไม่มีใครต่อต้านได้

“หงจินเทียน เจ้าฝันเฟื่องไปแล้ว ต่อให้ข้าต้องตาย เจ้าก็ไม่มีวันได้หัวใจข้า” เซี่ยชิงหรูเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง

“ข้าก็อยากรู้ว่าหลังจากที่เจ้าสูญเสียบัลลังก์ที่เจ้ารักนักรักหนาไปให้กับตระกูลหงแล้ว เจ้ายังจะพูดเช่นนี้ได้อีกหรือไม่ ทหารจัดการเหล่าองครักษ์ให้หมด จับเป็นฮองเฮามาให้ข้า” หงจินเทียนสั่งการทหารด้วยเสียงอันดัง

หลังจากนั้นก็เป็นการต่อสู้กันระหว่างองครักษ์ส่วนพระองค์ของฮ่องเต้หญิงกับเหล่ากบฏ เซี่ยชิงหรูเห็นว่าฝั่งของตนเองมีกำลังน้อยกว่าก็คิดจะหลบหนีออกไป แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อหางตาของนางเหลือบเห็นเกรย์ ชายคนรักของนางกำลังเดินตรงมายังท้องพระโรงที่มีการต่อสู้ระหว่างกบฏกับทหารองครักษ์

เกรย์เร่งเดินมายังห้องโถงว่าราชการ เสียงการสนทนาระหว่างหงจินเทียนกับเซี่ยชิงหรูดังให้เขาได้ยิน เขาก้าวยาวและเร็วขึ้นเพื่อไปช่วยหญิงคนรักให้ทันเวลา โดยหลงลืมไปว่าตนเองนั้นไม่มีใครสามารถรับรู้ สัมผัส หรือมองเห็นตนเองได้

คงเป็นโชคชะตาที่เขาเข้ามาผิดเวลา ทำให้เซี่ยชิงหรูที่สมควรจะหนีออกไปได้ ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อนางเห็นเขา ก่อนที่เกรย์จะไปถึงตัวเซี่ยชิงหรู ทหารของพวกกบฏก็สามารถกำจัดทหารองครักษ์ได้ทั้งหมด แล้วเข้ารวบตัวฮ่องเต้หญิงทันที

“ท่านหมอ ท่านหมอ ท่านกลับมาหาข้าแล้ว” เซี่ยชิงหรูตะโกนออกมาด้วยความดีใจ หลงลืมเรื่องกบฏที่กำลังเกิดขึ้นไปเสียสิ้น

“ชิงหรู เจ้าวิปลาสไปแล้วหรือ เจ้ากำลังพูดกับใคร” หงจินเทียนที่ได้ยินฮ่องเต้หญิงพร่ำพูดถึงใครสักคนถามออกมาด้วยความสงสัย

เกรย์ในตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปโอบกอดเซี่ยชิงหรูได้ เพราะเหมือนมีบางสิ่งที่มองไม่เห็นฉุดรั้งร่างของเขาเอาไว้ มันขยับตัวไม่ได้ ทั้งยังพูดไม่ได้เช่นกัน

“ท่านหมอ ท่านพูดกับข้าสิ ท่านจะไม่จากข้าไปที่ไหนอีกใช่หรือไม่” เซี่ยชิงหรูไม่สนใจสถานการณ์รอบตัว นางหวังเพียงได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายคนรักเท่านั้น ทว่านางก็ขัดขืนและดิ้นรนให้หลุดออกจากการควบคุมจากทหารของหงจินเทียนไม่ได้ และนางก็รับรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับท่านหมอของนาง เพราะท่าทางและมือของท่านหมอที่พยายามเอื้อมมาหานางนั่นเอง

“ทหาร นำฮองเฮาไปขังไว้ที่ตำหนัก ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามใครเข้าเยี่ยม” หงจินเทียนที่ทนเห็นคนรักของตนเองพร่ำเพ้อถึงชายคนอื่นไม่ได้ ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น

หงจินเทียนเดินขึ้นไปนั่งยังบัลลังก์มังกร ก่อนจะประกาศก้องถึงความสำเร็จของตนเอง

เกรย์ที่ตอนนี้ถูกสิ่งที่มองไม่เห็นบีบรัดร่างกายและศีรษะจนต้องยกสองมือขึ้นกุมขมับล้มลงนอนหมดสติอยู่ตรงนั้น เป็นเวลาเดียวกับที่เซี่ยชิงหรูดิ้นรนจนหลุดพ้นจากทหารที่คุมตัวนางไว้ นางวิ่งกลับมายังที่ท่านหมอของนางกำลังล้มลงไปต่อหน้าต่อตา และร่างของเกรย์ก็ค่อยจางหายไปต่อหน้าต่อตานาง

“ท่านหมอ ไม่ ท่านหมอ” เซี่ยชิงหรูยังไม่ทันมาถึงเกรย์ นางก็ถูกทหารจับตัวไว้อีกครั้งหนึ่ง

อดีตฮ่องเต้หญิงที่ตอนนี้กลายเป็นฮองเฮาจึงไม่ขัดขืน ยอมปล่อยให้ทหารลากกลับไปที่ตำหนัก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด ปากก็พร่ำเอ่ยแต่คำว่า ‘ท่านหมอ ท่านหมอ’ เพียงเท่านั้น

นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พบกันอีก ครั้งนี้นางมีลางสังหรณ์ว่าท่านหมอของนางจะจางหายไปตลอดกาล

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ