เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากเกรย์และชิงหรูทำธุระส่วนตัวและกินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ดับไฟในกระท่อม เกรย์ไปหาใบไม้ขนาดใหญ่มาห่อปลาที่ย่างไว้และมัดด้วยเถาวัลย์เพื่อจะได้หิ้วไปด้วย
“ท่านหมอกวาง คืนนั้นข้าจำได้ว่าถ้าเราย้อนกลับไปทางที่ข้าหนีมาเราอาจจะเจอหมู่บ้าน ท่านหมอว่าดีหรือไม่ที่พวกเราจะย้อนกลับไปทางเดิม เราอาจจะโชคดีเจอคนของข้า” ชิงหรูถามขึ้นก่อนจะออกเดินทาง
“แต่เราอาจโชคร้ายเจอโจรได้เช่นกัน ถูกไหม” เขาตอบกลับ
“แต่โจรมันอาจไม่คิดว่าข้าจะย้อนกลับมาทางเดิมก็เป็นได้ การเจอคนของข้าให้ไวที่สุด พวกเราจะปลอดภัยมากขึ้น อีกประการคือข้าไม่รู้ว่าถ้าเดินทางแบบไม่รู้ทิศทางแล้วหลงป่าไปไกล อาจทำให้คนของข้าตามหาได้ยากขึ้น ท่านหมอกวางเห็นว่าอย่างไร”
“มันก็ถูกของหนูนะ เราไม่มีทางเลือกแล้ว คงต้องเสี่ยงดวงแล้วล่ะ”
เกรย์ทำตามข้อเสนอแนะของเด็กหญิง พวกเขาสองคนเดินย้อนกลับไปในทางเดิม แม้ชิงหรูจะจำทางในคืนนั้นไม่ได้มากนัก เพราะเป็นเวลากลางคืนและเหนื่อยอ่อนจากการวิ่งหนี แต่ด้วยความพยายาม ในที่สุดพวกเขาก็เจอทางเดินเท้าที่ชาวบ้านน่าจะใช้เข้ามาหาของป่าไปขาย
“ท่านหมอดูตรงนี้ ทางเดินเท้าจริง ๆ ด้วย เราคงอยู่ใกล้หมู่บ้านแล้วใช่หรือไม่ ข้าเบื่อกล้วยกับปลาเต็มทีแล้ว” ชิงหรูบ่นออกมา
“พวกเราต้องระวังตัวให้มากขึ้น พวกเราไม่ได้มาเที่ยวนะ จำได้ไหม หนูกำลังหนีพวกโจรอยู่นะ” เขาเอ่ยเตือน
“ข้าขอโทษข้าจะระวังให้มากขึ้น”
เกรย์ยกมือทำสัญญาณให้เด็กหญิงเงียบเพราะเขาได้ยินเสียง คนเดินมาหลายคน เขาจับมือชิงหรูวิ่งหลบไปที่ต้นไม้ข้างทางทันที แต่โชคร้ายที่กลุ่มคนพวกนั้นมาถึงเสียก่อน
“ฮ่า ฮ่า ท่านหัวหน้า พวกเราโชคดีแล้ว ออกตามหาตั้งนานไม่เจอ กำลังจะถอดใจแต่โชคกลับเข้าข้าง เช่นนี้ใช่หรือไม่ที่เรียกว่าสวรรค์มีตา” ชายวัยกลางคน หนวดเครารุงรัง ร่างกายอ้วนโตสูงตัน ในมือแบกดาบเล่มใหญ่พาดไว้บนบ่า มันหัวเราะอย่างอารมณ์ดีขณะพูดกับหัวหน้าโจร
“อาฮ่าว เจ้าเป็นตัวนำโชคจริง ๆ เพราะความตะกละของเจ้า ทำให้เราไม่ต้องออกตามหาให้เหนื่อย” ชายสูงวัยกว่าที่เป็นหัวหน้าโจรกล่าวชื่นชมลูกน้องพลางตบลงไปบนบ่าของอาฮ่าว
เกรย์นับพวกโจรได้เจ็ดคน พวกมันมีอาวุธครบมือ ตัวเขาถึงแม้ในช่วงวัยรุ่นจะเกเรและต่อยตีมาไม่น้อย แต่ไม่เคยได้เป็นอันธพาลจริงจังมาก่อน และตอนนี้เขามาอยู่ในยุคที่ฆ่าคนได้ชนิดที่เรียกได้ว่าเกือบจะเสรี ทำให้เขาหนักใจจริง ๆ
“ชิงหรู ถ้าหมอบอกให้วิ่ง หนูวิ่งให้สุดฝีเท้าเลยนะ หนีให้รอด วิ่งไปในหมู่บ้าน อาจมีคนช่วยหนูได้ ไม่ต้องเป็นห่วงหมอ วิ่งไปแล้วห้ามหันหลังกลับมาเด็ดขาด เข้าใจที่หมอบอกไหม” เขากระซิบบอกเด็กหญิง
“ไม่ ท่านหมอ ข้าจะไม่หนี ข้าจะไม่ทิ้งท่านหมอ”
“ห้ามดื้อ หมอสัญญาว่าจะกลับไปหาหนูในหมู่บ้าน รอหมอที่นั่นนะ” เกรย์บอกย้ำอีกครั้ง
“วิ่ง!! เดี๋ยวนี้!!!” เขาตะโกนขึ้น ชิงหรูรีบวิ่งไปตามที่เขาบอก แล้วเกรย์จึงวิ่งตามหลังไปติด ๆ พวกโจรเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งตามไปทันที
เกรย์วิ่งพลางหันมามองพวกโจรเป็นระยะ แล้วก็อ้าปากค้างไปเรียบร้อย เพราะเขาเพิ่งเห็นกับตาถึงการใช้วรยุทธ ที่แม้จะไม่ถึงกับเหาะเหินไปบนฟ้าได้เหมือนในหนังที่เขาเคยดู แต่มันก็ไวและทะยานไปได้ไกลพอสมควร
เกรย์ตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเต็มฝีเท้าพร้อมกับลากชิงหรูให้วิ่งไปแบบไม่คิดชีวิต
“โอ๊ย!”
เสียงร้องด้วยความตกใจของเด็กหญิงที่สะดุดพื้นกะทันหัน ทำให้ทั้งเกรย์และชิงหรูถลาล้มลงไปบนพื้น หมอหนุ่มหลงยุคเห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงกำลังกลัวอย่างมาก พวกโจรทั้งเจ็ดคนที่ตอนนี้กำลังยืนรายล้อมเหยื่ออยู่ พวกมันหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ
“น่าเสียดายที่องค์หญิงหนีมาได้เพียงแค่นี้ อย่าได้ดิ้นรนหนีอีกต่อไปเลยพ่ะย่ะค่ะ” หน้าหน้าโจรเอ่ยขึ้นเสียงเย้ยหยัน
คำ ‘องค์หญิง’ ทำให้เกรย์ประหลาดใจ หากก็ประหลาดใจเพียงแวบเดียวเท่านั้นเพราะชิงหรูหันมาบอกเขาว่า “ท่านหมอ หนีไปเจ้าค่ะ”
“ฮ่า ฮ่า องค์หญิงลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้ใช้ไม่ได้ผลกับพวกข้าหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าโจรเอ่ย
“หากองค์หญิงจะโทษใครสักคน จงโทษดวงชะตาของท่านเองเถอะ” อาฮ่าว เจ้าหมูอ้วนยกดาบเล่มโตขึ้น มันหวังจะตัดเอาศีรษะของนางในดาบเดียว
เกรย์เห็นดาบที่เงื้อขึ้นกำลังจะฟันลงบนร่างเล็ก เขาไม่เสียเวลาตัดสินใจ รีบพลิกร่างตนเองขึ้นคร่อมทับบดบังเด็กหญิงไว้ทันที
“ไม่!!!!!!”
องค์หญิงชิงหรูร้องตะโกนออกมา น้ำตาไหลพรั่งพรู นางเห็นดาบนั้นฟันลงบนหลังของหมอหนุ่มอย่างชัดเจน พร้อมกับร่างของเขาที่ค่อย ๆ เลือนหายไปในที่สุด
ฟิ้ววว์
อ๊ากสสส์
เสียงร้องโหยหวนของพวกโจรที่ถูกยิงด้วยลูกธนูเข้าจุดตายอย่างแม่นยำทำให้พวกมันทั้งเจ็ดขาดใจตายทันที
“ท่านหมอกวาง ท่านหมอ ท่านอยู่ไหน ท่านหมอเจ้าคะ”
เสียงรอบตัวที่ดังขึ้นไม่ได้ดึงสติขององค์หญิงชิงหรูจากการตื่นตะหนกตกใจกับภาพของหมอหนุ่มที่เลือนหายไปต่อหน้าต่อตา นางพร่ำเรียกหาเขาด้วยน้ำเสียงปานจะขาดใจ
“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมและเหล่าองครักษ์ขออภัยที่มาช่วยเหลือองค์หญิงล่าช้า พวกเราน้อมรับบทลงโทษพ่ะย่ะค่ะ” จางหง หัวหน้าองครักษ์ส่วนพระองค์ขององค์หญิงชิงหรูพร้อมเหล่าองครักษ์อีกห้าคนต่างคุกเข่าพร้อมรอรับการลงโทษ
แต่องค์หญิงชิงหรูยังคงตื่นตะลึง นางนั่งนิ่งงันจนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ จึงตระหนักได้ว่าท่านหมอกวางของนางจากไปแล้ว นางค่อย ๆ ลุกขึ้น ใบหน้านองน้ำตาแล้วเดินจากไปพร้อมเหล่าองครักษ์
ณ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยใน โรงพยาบาลที่เกรย์ทำงาน
“อย่า!!!!!!!” เกรย์ร้องตะโกนสุดเสียงจนหมอลินดาที่นั่งเฝ้าเขาตั้งแต่หัวค่ำรีบเขย่าร่างเขา
“หมอเกรย์ หมอเกรย์คะ ตื่น ตื่นเถอะค่ะ คุณแค่ฝันร้าย” หมอลินดาใช้มือตบใบหน้าเขาเบา ๆ
“หมอลินดา” เกรย์เอ่ยออกมาเมื่อลืมตาขึ้นแล้วเห็นว่าใครก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งทันที หมอลินดาต้องจับเขาไว้
“คุณแค่ฝันร้ายค่ะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย จำได้ไหมคะ คุณเป็นลมหมดสติไปก่อนเข้าห้องผ่าตัด” หมอลินดาพยายามเล่าเหตุการณ์ให้อีกฝ่ายฟัง ด้วยความเป็นหมอทำให้เขารับรู้เรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว
“ผมโอเคแล้ว ขอบคุณมาก” เกรย์ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
“ผมหมดสติไปนานเท่าไหร่ครับ” เขาถามขึ้นหลังจากรับแก้วน้ำจากหมอลินดามาดื่ม
“คุณหมดสติไปสี่ชั่วโมงค่ะ หมอแอนเดอสันผ่าตัดแทนคุณและการผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ” เธอบอกและรับแก้วน้ำมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนนั่งลงข้าง ๆ
“ผมแค่เป็นลมหมดสติเพราะทำงานมากเกินไปแค่นั้นใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แค่ทำงานหนักจนร่างกายรับไม่ไหว พักไม่กี่วันก็แข็งแรงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ” หมอลินดาตบลงไปบนหลังมือเขาเบา ๆ
“แต่ที่น่าเป็นห่วงเห็นจะเป็นโน่นเลยค่ะ ท่านผู้อำนวยการเหมือนว่าจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ ถ้าคุณดีขึ้นแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจไว้หน่อยก็ดีนะคะ ฉันเป็นกำลังใจให้ ถึงคุณจะเป็นลูกรักท่านผู้อำนวยการ แต่งานนี้ไม่รอดแน่ค่ะ” เธอเอ่ยแซวยิ้ม ๆ
“งานนี้คงได้พักยาวแน่เลย ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ได้พักนานแล้ว อาจจะไปเซอร์ไพรส์ที่บ้านหน่อย คงหายเบื่อ” เขาบอก
“หมอยังอคติกับแม่เลี้ยงไม่เลิกเหรอคะ นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ลืมไปบ้างก็ดีนะคะ ชีวิตมันสั้น เผื่อหมอจะมีความสุขขึ้นบ้าง” หมอลินดาเป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนสนิทของเกรย์ เธอจึงรู้เรื่องส่วนตัวของเขาค่อนข้างมากกว่าคนอื่น
“ผมโอเคแล้ว ขอโทษนะ ผมขอพักสักหน่อย เผื่อหายแล้ว จะได้กลับมาช่วยทำงานไวขึ้น” เขาเอ่ยขอตัวพักผ่อน เพราะเขาอยากจะเรียบเรียงความฝันที่เขาจำได้อย่างแม่นยำ
“งั้นพักผ่อนนะคะ เดี๋ยวฉันมาเยี่ยมใหม่ อย่าลืมไปหาท่านผอ. นะคะ ถ้าค่อยยังชั่วแล้ว” เธอเอ่ยดักคอเพราะรู้ว่าถ้าไม่เตือน เขามักจะทำเป็นหลงลืม
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ” เธอตอบรับและเดินออกไป
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมห้องพักฟื้น เหมือนเป็นใจให้เขาได้ใช้ความคิดเรียบเรียงความฝันที่เสมือนจริงนั่น เกรย์นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างครุ่นคิด
เราหมดสติในห้องผ่าตัด แล้วได้ไปในยุคจีนโบราณจริง ๆ หรือแค่เก็บเอาข่าวมาฝันเท่านั้น แล้วยัยหนูนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ...แต่ช่างเถอะ แค่ฝัน คิดไปก็ไม่ได้อะไร เขาคิดได้ในที่สุด จึงค่อยพักผ่อนและเตรียมคำพูดสำหรับไปพบผู้อำนวยการโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้
ชายหนุ่มนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนจะออกจากห้องพักฟื้นในบ่ายวันถัดไป เขาเดินไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวนการและเปิดประตูเข้าหลังจากได้รับอนุญาต
“ว่าไงหมอเกรย์ ดีขึ้นหรือยัง” ท่านผู้อำนวยการทักเขาก่อนจะพยักหน้าให้เขานั่งลงที่หน้าโต๊ะทำงาน
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ผมพร้อมกลับไปทำงานแล้ว” เกรย์ตอบ
“ยังไม่เข็ดอีกหรือหมอ ฉายาเดอะวูฟนะมันแค่ฉายา หัดรักตัวเองมั่ง จากหมาป่าสูงส่งจะกลายเป็นหมาป่วยเสียก่อน เรื่องที่คุณทำงานหนักจนสภาพร่างกายไม่พร้อม เป็นลมในห้องผ่าตัดน่ะ คุณรู้ใช่ไหมมันผิดกฎ โชคดีนะที่คุณหมดสติก่อนการผ่าตัด ถ้าหมดสติระหว่างผ่าตัด ผมไม่อยากนึกสภาพเลย”
“ยังไงก็ตามคุณต้องถูกลงโทษตามกฎ ผมจะพักงานคุณเจ็ดวัน ให้คุณกลับไปพักผ่อนจนกว่าร่างกายจะพร้อมกลับมาทำงานอีกครั้ง ในฐานะผู้อำนวยการ ผมขอตำหนิที่คุณเอาชีวิตทั้งของตัวเองและคนไข้ไปเสี่ยง แต่ในฐานะหมอ ผมขอบคุณที่คุณทำเพื่อโรงพยาบาลและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” ท่านผู้อำนวยการลุกขึ้นและยื่นมือออกไปเชคแฮนด์กับเขาเพื่อแสดงความขอบคุณ
“ขอบคุณครับ” เกรย์ยื่นมือออกไปรับ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผมสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
ท่านผู้อำนวยการพยักหน้ารับ
ออกมานอกห้องแล้ว เกรย์เดินตรงไปที่ตึกเด็ก ห้อง 1312
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?