ตอนที่ 2. วิงวอนสวรรค์

มู่เสวี่ยหลิงรู้ว่าตนเองเลือกผิดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก กระทั่งบุรุษผู้นั้นเห็นว่านางหมดประโยชน์แล้วจึงโยนกลับมายังเมืองเป่ย เมืองเกิดของนาง ทว่าเมื่อถึงครานั้นบิดาหมางเมินทั้งยังไม่มองหน้า เขาสั่งให้คนลากนางออกไปทิ้งยังตรอกที่ไกลจากจวนสกุลมู่มากที่สุด มู่เสวี่ยหลิงที่บอบช้ำทั้งกายใจนอนหอบหายใจรวยริน กระทั่งหยวนเซิ่งเจ๋อมาพบเข้า

เขาพยายามจะพานางกลับไปยังตระกูลหยวน พยายามแต่งนางเข้าเป็นภรรยาเอกอีกครั้งและเพราะความดึงดันไร้ที่สิ้นสุดของเขา สุดท้ายท่านลุงหยวนก็ไล่ตะเพิดเขาออกมาทั้งยังไม่ให้เงินติดตัวมาสักแดงเดียว

หยวนเซิ่งเจ๋อมีความสามารถ ไม่นานเขาก็หางานทำเอาเหรียญเงินพวกนั้นซื้อสมุนไพรมาต้มให้นาง เมื่อท่านลุงรู้เข้า เขาสั่งให้คนเลิกให้ความช่วยเหลือหยวนเซิ่งเจ๋อ อดีตคู่หมั้นของนางถึงอับจนหนทางอีกครั้ง

มารดาหยวนเซิ่งเจ๋อมีหรือจะทนมองบุตรชายตกระกำลำบากได้ นางเกลี้ยกล่อมเขาอยู่นานสองนาน เห็นว่าพาคนกลับตระกูลหยวนไม่ได้แน่แล้วก็พยายามนำเงินส่วนตัวของนางมาให้

แต่ท่านลุงหยวนจับได้อีกครั้ง เขาขังท่านแม่หยวนเซิ่งเจ๋อไว้ในเรือน ไม่นานฮูหยินก็ล้มป่วยและจากโลกนี้ไป กระทั่งงานศพมารดา หยวนเซิ่งเจ๋อก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบผ่านธรณีประตูไปล่ำราเป็นครั้งสุดท้าย

หยวนเซิ่งเจ๋อไม่อายสายตาผู้อื่น เขานั่งขอทานเป็นเพื่อนนาง ได้เงินมาก็รีบนำมาซื้อยาให้นาง แต่มู่เสวี่ยหลิงป่วยเป็นโรคหญิงงามเมือง ไม่นานร่างกายนางก็เริ่มโรยแรงแม้แต่จะพูดนางก็ยังต้องเค้นแรงกายอยู่ครึ่งค่อนวัน หยวนเซิ่งเจ๋ออยู่ติดกับนางมากถึงเพียงนั้น ไม่นานเขาก็ติดโรคจากนางไปด้วย

มู่เสวี่ยหลิงสิ้นใจในคืนหนึ่งกลางเหมันต์ นางลืมตาขึ้นอีกครั้ง รอบกายหาใช่สะพานไน่เหอ ไร้กลิ่นดอกปี่อั้นสีแดงสดแสลงตา ไร้ฝูงวิญญาณมากมายอ้อนวอนขอโอกาสกลับไปอีกครั้ง มู่เสวี่ยหลิงตายข้างหยวนเซิ่งเจ๋อ นางกลายเป็นวิญญาณก็ยังอยู่ข้างกายหยวนเซิ่งเจ๋อ

มู่เสวี่ยหลิงมองเขาถูกสาดน้ำใส่ ถูกคนไล่ตะเพิดด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ มองใบหน้าหล่อเหลางดงามทั้งยังผ่าเผยของเขาค่อย ๆ ซูบผอม กลายเป็นคนอมโรค ไร้สง่าราศีด้วยความปวดใจ คุณชายที่เคยรุ่งโรจน์ เพียงเพื่อความรักครั้งหนึ่งถึงกับยอมสละชีวิตตนเอง ในใจมู่เสวี่ยหลิงทั้งโกรธเขาที่ทิ้งชีวิตเพื่อนาง ทั้งขอบคุณเขา ทั้งรักเขาอย่างหาใดเปรียบ

“หลิงหลิง” เสียงหยวนเซิ่งเจ๋ออ่อนลงอีกครั้ง แพขนตายาวของเขาขยับไหวเพียงครู่หนึ่ง

“ข้าคิดถึงเจ้า”

มู่เสวี่ยหลิงเห็นเขาแน่นิ่งไปก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง นางลอยล่องอยู่รอบตัวเขา พยายามส่งเสียงตะโกนเรียก เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่นางเองก็ไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อตะวันลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า แสงทองสาดส่อง มู่เสวี่ยหลิงถึงเห็นว่าใบหน้าของเขาแข็งค้างทว่ายังมีรอยยิ้มติดอยู่มุมปาก

ราวกับว่าเขาดีใจเหลือแสน ที่ในที่สุดแล้วก็จะได้เจอกับนางที่ล่วงหน้าไปยังปรภพก่อนหน้า

มู่เสวี่ยหลิงรู้สึกเหมือนฟ้าดินพลิกกลับ อารมณ์ความรู้สึกโกรธแค้นโหมสาดซัดเข้าร่างจนนางมึนเบลอ หยาดน้ำตามากมายกลิ้งไหลออกจากหางตา หยดลงพื้นดินหยดแล้วหยดเล่า นางไร้เรี่ยวแรงจะทรงตัวอีกต่อไป

ทรุดกายลงต่อหน้าเขาที่ยังกอดกายหยาบของนางไว้ มู่เสวี่ยหลิงดวงตาเบิกกว้าง วิญญาณของนางเปล่งแสงสลับกับความดำมืด ชั่วครู่ที่สรรพสิ่งเงียบงันลง ลมหายใจถัดมา นางกรีดร้องจนสุดเสียง

เสียงนั้นประหนึ่งเสียงสัตว์ร้ายบาดเจ็บ เสียงแหลมบาดหูทั้งยังทะลุทะลวงจิตใจพาให้รู้สึกเศร้าสร้อยตามนาง มู่เสวี่ยหลิงคลานไปอยู่ตรงหน้าร่างไร้ลมหายใจของหยวนเซิ่งเจ๋อ นางร่ำร้องขอโทษเขา อ้อนวอนเขา สัญญากับเขา แต่หยวนเซิ่งเจ๋อกลับไม่ลืมตาฟื้นคืน

“พี่หยวน พี่หยวนท่านฟังข้า” มู่เสวี่ยหลิงปาดน้ำตาบนใบหน้าทิ้ง

“ข้าจะไม่แต่งงานกับคนผู้นั้น ข้าจะยอมแต่งงานกับท่าน ต่อให้ไม่มีพิธีใหญ่โตไม่มีเกี้ยวแปดคนหามข้าก็ยินดีแต่งกับท่าน ท่านฟื้นเถอะ พี่หยวน ท่านฟื้นเถอะ”

นางร่ำไห้ปานขาดใจ มู่เสวี่ยหลิงเศร้าโศกอ้อนวอนเขานานถึงสามวันสามคืน ครั้นวันสุดท้ายของการหวนกลับหมุนผ่าน รออยู่ครึ่งค่อนวันเขาก็ยังไม่กลับมานางถึงได้รู้ว่าหยวนเซิ่งเจ๋อไร้พันธนาการอย่างแท้จริง เขาลงไปยังปรภพเพื่อตามหานาง ชาตินี้ทั้งชาตินางจะไม่มีวันได้เจอเขาอีก

มู่เสวี่ยหลิงยิ้มเยาะ นางเงยหน้ามองท้องนภากว้างอย่างโกรธแค้น

“เป็นสวรรค์ที่กลั่นแกล้งข้า เป็นพวกท่านที่ทำให้ข้าได้พบกับคนต่ำช้าผู้นั้น เป็นพวกท่านที่-”

นางพูดมาถึงตรงนี้ก็ไม่อาจพูดต่อไปได้อีก สวรรค์บันดาลให้นางพบเจอมันผู้นั้นแล้วอย่างไร ถ้าหากนางไม่ตกปากรับคำเสียอย่าง ต่อให้เป็นเง็กเซียนจะสามารถบังคับนางได้หรือ

มู่เสวี่ยหลิงคุกเข่ากับพื้น นางค้อมศีรษะลงต่ำจนหน้าผากจรดพื้นเน่าเหม็นพวกนั้น “สวรรค์ หากท่านเมตตาพี่หยวน หากท่านคิดว่าชะตาชีวิตของเขาไม่ถูกต้อง ได้โปรด ได้โปรดให้ข้าผู้โง่เขลาคนนี้ได้ย้อนกลับไปอีกครั้ง ได้ช่วยเขาผ่านเภทภัย ช่วยให้เขาได้มีชีวิตรุ่งโรจน์ประหนึ่งกองเพลิงสูงเสียดฟ้า ไม่มีวันดับมอด ไม่มีวันดับสลาย ได้โปรดให้ข้าช่วยเขา”

มู่เสวี่ยหลิงโขกศีรษะย้ำ ๆ นางเป็นวิญญาณ แต่เมื่อคนที่นางยึดมั่นถือมั่นได้ตายจากไปแล้ววิญญาณก็ควรจะสลายหายไปด้วย ทว่ามู่เสวี่ยหลิงกลั้นใจฝืนทนกฎฟ้ามาโดยตลอด จนในที่สุดนางก็ใกล้จะทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่างผอมบางล้มลงกับพื้น สายตานางวางอยู่บนใบหน้าที่เริ่มไม่น่ามองของหยวนเซิ่งเจ๋อ กล่าวเสียงเบา

“พี่หยวน ชาตินี้ข้าทำร้ายท่านแสนสาหัส แต่ท่านกลับเป็นคนเดียวที่อยู่กับข้าจนวันตาย ชาติหน้าข้าขอชดใช้ให้ท่าน ยอมเป็นวัวเป็นม้าให้ท่านเรียกใช้ ต่อให้ตาย” มู่เสวี่ยหลิงกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง “ก็ไม่เสียใจ”

นางปิดเปลือกตาลง วิญญาณเริ่มสลายกลายเป็นควัน ทว่าก่อนที่นางจะวิญญาณแตกซ่านไร้หนทางหวนกลับ

ณ เมืองเป่ย หัวเมืองแดนเหนือ ดวงตะวันเจิดจ้าอยู่บนนภากว้างกลับมีอสนีบาตลูกใหญ่ฟาดลงตรอกเน่าเหม็นข้างตลาด ศพทั้งสองหายวับไปกับตา กาลเวลาหมุนคืน มู่เสวี่ยหลิงวิญญาณล่องลอยกลับไปยังจวนตระกูลมู่อีกครั้ง

โพสต์ข้อความ