ตอนที่ 5 ตามสามีกลับบ้าน

ณ วันเดียวกันยามเซิน (15.00 – 16.59 น.) ฝูฮวนหิ้วห่อผ้าที่ข้างในมีชุดเก่า ๆ อยู่หนึ่งชุดและของต่างหน้าของบิดามารดาอีกสองสามชิ้น ทว่าสิ่งที่ทำให้ฝูฮวนยิ้มมาตลอดทางระหว่างเดินตามสามีมายังบ้านของเขานั่นคือ หนังสือสัญญาไถ่ถอนตนเองจากนายท่านเสนาบดีจ้าว

ฝูฮวนใส่ไว้ในเอี้ยมชั้นในสุด นี่มันคือยันต์สำหรับอนาคตของนางเชียวนะ ต่อไปนี้นอกจากนางจะเป็นอิสระ ไม่ต้องเป็นบ่าวรองมือรองเท้าให้คุณหนูรองแล้วนางยังรอดตาย ยังหนีออกมาจากจวนเสนาบดีได้ และที่มันอะเมซิ่งไปกว่านั้นคือ นางยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงมีสามีแล้ว ถึงแม้ว่าสามีของนางจะเป็นเพียงชายตัดฟืนเท่านั้น

“สามี บ้านของท่านอยู่ที่ใด”

“...”

“หรือว่าอยู่ในป่า เหตุใดจึงสร้างบ้านอยู่ไกลหมู่บ้านเช่นนี้เล่า”

“...”

“ก็ไม่แปลก สามีเป็นคนหาฟืน บ้านจะอยู่ในป่าเพื่อง่ายในการหาฟืนใช่หรือไม่”

“...”

ความเงียบที่ไร้ซึ่งคำตอบของคำถามที่ต่อให้ฝูฮวนจะชวนคุยมากแค่ไหนก็หาได้รับคำตอบกลับคืนมา ฝูฮวนหาได้โมโหหรือหงุดหงิดไม่ ถึงแม้ว่าสามีป้ายแดงจะไม่คุยกับนางเลยก็ตาม แต่นางก็ยิ้มแป้น พูดคุยเจื้อยแจ้วอย่างมีความสุขมาก ถ้าจะให้เล่าถึงสาเหตุก็ต้องย้อนกลับไปในยามอู่ (11.00 – 12.59 น) ของวันนี้

หลังจากที่ฝูฮวนเดินชนชายส่งฟืนใกล้ห้องครัวแล้วเอ่ยปากขอแต่งงานกับชายตัดฟืนไปแล้ว นางก็ยืนรอลุ้นคำตอบด้วยหัวใจที่เต้นราวกับกลองศึก

“แต่งงาน เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอันใดออกมา” อามู่ที่หลังจากหายตกใจกับคำกล่าวของบ่าวหญิงคนนี้ก็เอ่ยถามออกไปเสียงเข้ม

“ข้ารู้ว่าข้ากำลังขอท่านแต่งงานเช่นไรเล่า” ฝูฮวนตอบกลับด้วยน้ำเสียงแจ่มใสชัดเจน ดวงตาของนางเต้นระยับอย่างรอคอยคำตอบ ภาพนี้ถึงกับทำให้อามู่หัวใจกระตุกไปครั้งหนึ่ง

“เจ้าคงเสียสติไปแล้ว ข้าพบเจอกับเจ้าเพียงสองครั้ง แล้วมีเหตุผลอันใดที่เจ้ากับข้าต้องมาแต่งงานกัน”

“แน่นอนว่ามีเหตุผล เจ้าอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีฮูหยินมาดูแลบ้านให้ คงไม่มีคนคอยรับใช้ ทำอาหาร ซักเสื้อผ้า ปรนนิบัติเจ้าให้หายเมื่อยล้า ยามที่กลับมาจากหาฟืนหรือทำงาน ด้วยสภาพของเจ้าคงไม่มีหญิงนางไหนต้องการแต่งให้เจ้า เพราะนอกจากจะอัปลักษณ์แล้วเจ้ายังยากจนอีกด้วย ข้าพูดถูกหรือไม่ เช่นนั้นข้าจึงคิดว่าในเมื่อไม่มีหญิงนางไหนยอมแต่งให้เจ้า ดังนั้นข้าก็จะแต่งให้เจ้าเอง” ฝูฮวนร่ายยาวออกมาจากการประมวลผลจากสิ่งที่ได้ยินเหล่าบ่าวในจวนเสนาบดีคุยกัน นางจึงอนุมานเอาแบบนี้

“นี่เจ้า...” อามู่เมื่อได้ยินหญิงตรงหน้ากล่าวถึงข้อเสียของตนเองยืดยาวจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว

“อ๊ะ ๆ ๆ เจ้าอย่าเพิ่งโมโห ข้าจะแต่งให้เจ้าเพียงหนึ่งปีเท่านั้นแลกกับการที่ข้าจะดูแลทำงานทุกอย่าง ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของเจ้า เจ้าเห็นเป็นเช่นไร” ฝูฮวนรีบยกมือห้ามไม่ให้ชายส่งฟืนเอ่ยขัดขึ้นมา เพราะนางกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เช่นนั้นหนทางรอดชีวิตของนางก็ดับสนิทชนิดที่ว่าต่อให้เอาน้ำมันราดลงบนกองไฟก็ก่อไฟไม่ติดแล้ว

“แล้วเจ้าจะได้อะไรกับการแต่งงานในครั้งนี้”

“อิสระ ข้าจะได้อิสระ หาใช่บ่าวที่ชีวิตต้องฝากไว้กับความปราณีของเจ้านายอีกต่อไป”

หึ! อิสระเช่นนั้นหรือ เจ้าเป็นหญิงตัวคนเดียว บิดามารดาก็ไม่มี แล้วจะต้องการอิสระไปทำไม นางช่างน่าสนใจยิ่งนัก

ได้ในเมื่อเจ้ากล้าขอข้าก็กล้าที่จะทำความปรารถนาของเจ้าให้เป็นจริง แล้วมาดูกันว่าเจ้ากับข้า ผู้ใดจะอดทนได้มากกว่ากัน อามู่คิดถึงข้อเสนอของหญิงสาวแล้วก็เห็นว่าไม่มีอันใดเสียหายเขาจึงตอบตกลง

“ได้ ข้ายินดีแต่งงานกับเจ้า แลกกับการที่เจ้าต้องมาเป็นภรรยาของข้าหนึ่งปี”

“ขอบคุณ ขอบคุณพี่ชายยิ่งนัก” ฝูฮวนเอ่ยขึ้นอย่างยินดี นางยิ้มเต็มใบหน้าพลางเข้าไปเกาะแขนว่าที่สามีอย่างลืมตัวจนอามู่หน้าขึ้นสี เพราะตัวเขาก็ยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับหญิงนางใดมากเช่นนี้มาก่อน

“ปล่อยข้าได้แล้ว ข้าต้องทำเช่นไรต่อไป” อามู่กระแอมไอขึ้นพลางเอ่ยถามออกไป

“ใช่ ๆ ข้าขอโทษ ข้าดีใจและตื่นเต้นมากไปหน่อย เอ่อ! ข้าชื่อฝูฮวน แล้วพี่ชายชื่อว่าอะไรหรือ” เสี่ยวฮวนรีบเอ่ยขอโทษว่าที่สามีตรงหน้า แล้วรีบปล่อยแขนออก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย

“อามู่”

“พี่ชาย ยินดีที่ได้รู้จัก เช่นนั้นข้าเรียกท่านว่าพี่มู่ได้หรือไม่”

“ได้”

“ขอบคุณ”

“พี่มู่พวกเราก็ไปกันเถอะ ช้าอาจจะไม่ทันการ” ฝูฮวนหลังจากที่ทำความรู้จักกันแล้วจึงได้เดินนำอามู่ว่าที่สามีตรงไปยังจวนหลักหลังใหญ่ นางเอ่ยความประสงค์ขอเข้าพบนายท่านจ้าวอย่างกล้าหาญ

“ท่านพ่อบ้าน ข้าจำเป็นต้องขอพบนายท่านอย่างเร่งด่วน ไม่ทราบว่าท่านพ่อบ้านจะเรียนนายท่านให้ข้าได้หรือไม่” ฝูฮวนเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

“ฝูฮวน นายท่านมีแขกคนสำคัญไม่สะดวกให้เจ้าเข้าพบ เจ้ากลับไปก่อน เมื่อนายท่านเสร็จธุระแล้วข้าจะให้บ่าวไปตามเจ้ามาพบนายท่านเอง” พ่อบ้านของจวนเสนาบดีเอ่ยตอบ

“เช่นนั้นข้ารอได้เจ้าค่ะ ข้าจะรออยู่ตรงนี้” ฝูฮวนเอ่ยจบจึงพยักหน้าส่งให้กับอามู่ให้ตามไปนั่งรออยู่ตรงสวนที่มองเข้ามาก็เห็นทันทีที่แขกของนายท่านจากไป

แต่จนแล้วจนรอดแขกของนายท่านก็ไม่ออกจากห้องมาเสียที เวลาก็ผ่านไปสองชั่วยามแล้วนางจึงไม่อาจรอได้อีกต่อไป เพราะหากพ้นวันนี้ไปแล้วนางยังออกไปจากจวนนี้ไม่ได้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ เช่นนั้นการดื้อดึงเข้าพบก็น่าจะมีโอกาสรอดมากกว่า ถ้าไม่สำเร็จก็เพียงตายเร็วกว่าเดิมหนึ่งวัน เมื่อฝูฮวนคิดได้ดังนั้นนางจึงแตะแขนอามู่แล้วลุกเดินตรงเข้าไปยังหน้าห้องของนายท่านเจ้าของจวนทันที

พ่อบ้านเห็นเช่นนั้นก็ห้ามนางเข้า ก่อนจะพยักหน้าให้บ่าวรับใช้มาช่วยกันลากเอาฝูฮวนออกไป อามู่เห็นเช่นนั้นก็คอยพลักบ่าวชายที่จะเข้ามาลากว่าที่ภรรยาของตนออกไป การยื้อยุดฉุดกระชากจึงทำให้ส่งเสียงดังเข้าไปถึงในห้องของนายท่านจ้าว

“เกิดอันใดขึ้นข้างนอก”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ