ตอนที่ 14 เจ้าคือชายส่งฟืน

เฉินคุนที่เป็นองครักษ์ลับมีหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยของฝูฮวนอย่างห่าง ๆ ถึงกับตกใจที่หัวหน้าตนเองเปิดเผยตัวกับภรรยา ไม่ใช่ว่าหัวหน้าจะแต่งนางเพียงแค่หนึ่งปีหรอกหรือ เหตุใดถึงเปิดเผยตัวเช่นนี้ หากฮูหยินน้อยรู้ว่าหัวหน้าไม่ได้ยากจนและยังมีตำแหน่งใหญ่โต มิใช่นางจะรีบเกาะหัวหน้าไม่ยอมปล่อยหรอกหรือ เฉินคุนได้แต่คิดกังวลอยู่ในใจ

ไม่แปลกที่เฉินคุนจะไม่รู้ความคิดของหลิวมู่หรงเพราะในระหว่างที่หัวหน้าของเขาไปจัดการตนเองนั้น เฉินคุนไม่ได้อยู่ด้วยเนื่องจากต้องคอยดูแลฝูฮวนนั่นเอง

“ท่านว่าเช่นไรนะเจ้าคะ” หลิวหยางซูเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ

“ท่านโกหกข้าแล้ว ท่านเพียงช่วยเหลือไม่ให้นางขายหน้าใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ทางด้านฝูฮวนก็ได้แต่ตัวแข็งทื่อ เนื่องจากสัมผัสของชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าที่กำลับโอบเอวตนเองอยู่ คุณชายคนนี้คงสติไม่ดีนึกอยากจะช่วยนางก็ช่วยดูสภาพคนที่จะช่วยก่อนไหม แล้วยิ่งมาบอกว่าเป็นสามีของนางอีก ให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกยังจะง่ายเสียกว่า

สามีของนางเป็นเพียงชายตัดฟืน หน้าตาไม่ได้รูปงามเช่นคุณชายที่ยืนโอบเอวนางอยู่ ไม่ได้สวมผ้าไหมเนื้อดีเช่นนี้ ถ้าหากสามีของนางร่ำรวยจริงคงไม่อยู่บ้านที่พร้อมจะพังได้ทุกเมื่อเป็นแน่

“คุณชายกรุณาปล่อยข้าด้วยเจ้าค่ะ ข้านั้นมีสามีแล้ว ท่านมาโอบกอดข้าท่ามกลางผู้คนเช่นนี้เห็นทีว่าจะไม่เหมาะ ข้าต้องขอขอบคุณที่คุณชายมีน้ำใจช่วยเหลือข้าเจ้าค่ะ” ฝูฮวนเอ่ยขึ้นเสียงนุ่ม

“คุณชาย นางเคยเป็นบ่าวในจวนของข้ามาก่อน และนางก็เป็นหญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว สามีของนางเป็นชายส่งฟืนที่ส่งฟืนให้จวนของข้า คุณชายโอบกอดนางเช่นนี้เห็นทีคงไม่เหมาะ” จ้าวหยางซูเอ่ยขึ้นเพื่อตอกย้ำถึงสถานะของฝูฮวนว่าเป็นหญิงมีสามีแล้ว

เพราะตอนนี้ฝูฮวนไม่ได้อัปลักษณ์เหมือนกับที่อยู่ในจวนของนาง ถึงแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าชุดเก่า แต่ก็ไม่สามารถกลบความงดงามของนางลงได้

“คุณหนูรอง เหตุใดข้าจะจำภรรยาตนเองไม่ได้ เป็นเสนาบดีจ้าวที่ทำพิธีแต่งงานให้ข้ากับนางด้วยตนเอง ภรรยา หากว่าเจ้าต้องการเครื่องประดับชุดใดเจ้าสามารถเลือกได้เลย ข้าจะเป็นคนจ่ายเงินเอง วันนี้ครบรอบแต่งงานหนึ่งเดือนของเรา เครื่องประดับในวันนี้ก็ให้ถือเป็นของขวัญแต่งงานดีหรือไม่” หลิวมู่หรงก้มใบหน้าลงไปเอ่ยกับฝูฮวนเสียงอ่อนโยนลงหลายส่วนซึ่งแตกต่างจากที่ใช้พูดกับจ้าวหยางซู

“จะ...เจ้าคือชายส่งฟืนคนนั้น” จ้าวหยางซูเอ่ยตะกุกตะกักออกมา

“ใช่ข้าคือชายส่งฟืนคนนั้นเอง”

ฝูฮวนเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังยืนยันว่าคือสามีของตนเองอย่างพิจารณาอีกครั้ง จะว่าไปใบหน้าที่ปราศจากหนวดเคราก็ดูคลับคล้ายอยู่ไม่น้อย ท่านพี่ท่านกำลังทำให้ข้าตกใจจะตายอยู่แล้ว คนตัดฟืนกลายเป็นหนุ่มรูปงามขนาดนี้ หลังออกจากบ้านท่านพี่ไปเสริมหล่อมาหรือเจ้าคะ

“จะ...เจ้า...หือ”

จ้าวหยางซูโกรธจนเลือดขึ้นหน้า นางรู้สึกอับอายเหลือคณาที่เห็นคนตัดฟืนเป็นคุณชายจวนใหญ่ไปเสียได้ ยิ่งเมื่อเห็นคนที่มุงดูเริ่มซุบซิบนินทา นางจึงได้แต่เดินกระทืบเท้าออกจากร้านไป จนสาวใช้ที่ติดตามวิ่งตามเกือบไม่ทัน

“เจ้าเห็นหรือไม่ คนส่งฟืนแท้จริงแล้วรูปงามและร่ำรวยมาก” หญิงนางหนึ่งเอ่ยขึ้น

“เหตุใดข้าถึงไม่โชคดีเช่นนางกันนะ” หญิงที่ยืนมุงดูอยู่ด้วยเปรยออกมาบ้าง

“ช่างน่าเสียดาย ร่ำรวยเช่นนี้น่าจะได้คุณหนูจวนเศรษฐี ไม่ใช่อดีตบ่าวเช่นนาง” หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกริษยาในโชควาสนาของฝูฮวนเอ่ยขึ้นเพราะตนเองไม่มีโชควาสนาเช่นนี้บ้าง

“เลิก ๆ ไม่มีอะไรให้ชมแล้ว แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ” เป็นพนักงานในร้านเครื่องประดับเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงได้ออกไปไล่ฝูงชนที่ยืนออกันอยู่หน้าร้านออกไป

“ท่านคือท่านพี่ อามู่ของข้าจริง ๆ หรือเจ้าคะ” ฝูฮวนหันไปถามชายรูปงามเพื่อความแน่ใจก่อนจะส่งเสียงร้องออกมา

“โอ๊ย ท่านพี่ดีดหน้าผากข้าทำไม เจ็บนะเจ้าคะ” ฝูฮวนลูบหน้าผากตนเองป้อย ๆ

“เจ้ากับข้าแต่งงานกันมาครบหนึ่งเดือน เจ้าว่าข้าจะจำภรรยาตนเองไม่ได้เชียวหรือ”

“แต่ข้าจำท่านพี่ไม่ได้นะเจ้าคะ ตอนนี้ท่านพี่รูปงามมากเจ้าค่ะ” ฝูฮวนเอ่ยขึ้นพลางก้มหน้าเอียงอาย ใช่นางอายจริง ๆ ทั้งอายทั้งเขินเลยเชียวล่ะ เพราะตั้งใจเกาะขาทองคำคนนี้ ขนาดว่าอัปลักษณ์นางยังยินดีจะเกาะ ยิ่งรูปงามและร่ำรวยเช่นนี้ รับรองได้เลยนางไม่ปล่อยไปแน่

“ขอบใจ เลือกสิ อยากได้ชิ้นไหนข้าจะซื้อให้”

“ท่านพี่มีเงินจริง ๆ หรือเจ้าคะ” ฝูฮวนเอ่ยถามขึ้นเพื่อขอความมั่นใจ หากสามีของนางรูปงามขึ้นมาก็เป็นสิ่งที่ดี แต่นางก็กลัวว่าจะเป็นการแอบอ้าง ตนเองก็ไม่อยากขายหน้าเช่นกัน

“หากข้าไม่มีเงินจะบอกเจ้าให้เลือกซื้อทำไม”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะเจ้าคะ” ฝูฮวนว่าแล้วก็เดินชมเครื่องประดับอยู่ไม่นานก็เลือกเครื่องประดับดอกอิงฮวามาสองชิ้น เป็นปิ่นปักผมกับกำไลข้อมือ ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่หลิวมู่หรงตั้งใจจะเลือกให้ภรรยาตั้งแต่แรกแล้ว

“เลือกได้ดี เจ้าเหมาะกับดอกอิงฮวามาก”

หลิวมู่หรงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฝูฮวนเลือกเครื่องประดับได้แล้วเขาจึงจ่ายเงินไป แล้วตั้งใจพาฝูฮวนไปเลือกซื้อของอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้าหรือของใช้ของสตรี แต่ภรรยาคนงามกลับเอ่ยเตือนว่าบ้านใกล้จะพังแล้ว ซื้อของไปมากมายก็ไม่มีที่เก็บอยู่ดี ฝูฮวนจึงเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่เพียงสองชุดเท่านั้น กว่าทั้งสองจะกลับบ้านก็เกือบเย็นไปแล้ว

“จ้าวหยางซู เหตุใดไม่ทำตัวให้ดีดั่งเช่นพี่สาวของเจ้า”

เสนาบดีจ้าวตะคอกเสียงดังเมื่อเห็นบุตรสาวคนรองของตนเองเดินเข้ามาให้ห้องทำงาน ทางด้านจ้าวหยางซูยังไม่ทันก้าวเท้าข้ามพ้นประตูก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินบิดาแสดงความโมโหออกมาเช่นนี้ นางก็เดาได้ทันทีว่าเรื่องที่นางเอ่ยให้ท่ากับชายส่งฟืนนั้นคงล่วงรู้ถึงหูของบิดาเป็นแน่แล้ว

นางหรืออุตส่าห์รีบมาพบตามคำที่บ่าวไปแจ้ง ไม่นึกว่าต้องมาได้รับคำด่าเช่นนี้

“พี่สาวของเจ้ากำลังจะได้หมั้นหมายกับองค์รัชทายาทอยู่แล้ว จงอยู่เฉย ๆ อย่าทำให้เกิดเรื่องขึ้นก่อนที่พี่สาวเจ้าจะแต่งงานออกไป”

“ท่านพ่อ ข้ามิใช่บุตรสุดที่รักของท่านนี่เจ้าค่ะ ข้าทำอันใดก็ผิดไปเสียทุกเรื่อง” จ้างหยางซูเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจ

เพี๊ยะ!

จ้าวหนิงถึงกับลืมตัวยกมือขึ้นตบลงไปบนใบหน้าของบุตรสาวคนรองอย่างแรง

“เจ้ายังกล้าเถียง!!! อย่าทำให้ข้าขายหน้าไปมากกว่านี้” จ้าวหนิงถึงกับเอ่ยเสียงเข้ม

“ข้าเกลียดท่านพ่อ ท่านลำเอียง” จ้าวหยางซูว่าแล้วจึงหันหลังร้องไห้วิ่งออกจากห้องทำงานของเสนาบดีจ้าวไป ส่วนสาวรับใช้ที่รออยู่ข้างนอกจึงรีบก้าวตามไปติด ๆ

“นายท่านจะไม่เป็นเช่นไรหรือขอรับ” พ่อบ้านจวนเสนาบดีเอ่ยถามนายตนเองขึ้น

“ปล่อยไป ช่วงนี้อย่าทำให้ถูกจับตา” จ้าวหนิงว่าแล้วจึงหันไปนั่งลงตรงโต๊ะทำงาน พลางถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจกับสิ่งที่บุตรสาวคนรองได้กระทำลงไป

คิดเพียงไม่นานก็สะบัดศีรษะลบเรื่องเล็กน้อยออกไป เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นให้ต้องจัดการ พ่อบ้านจวนก็รู้หน้าที่ชงชาและฝนหมึกให้เจ้านายโดยทั้งคู่ไม่ออกจากห้องทำงาน

ทั้งสองนายบ่าวนั่งทำงานกันไปไม่ทันไรก็มีเสียงเอะอะโวยวายอยู่ข้างนอก พ่อบ้านจึงได้เดินออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังรบกวนนายท่านรู้หรือไม่” พ่อบ้านจวนเอ่ยถามเสียงเข้มกับบ่าวชายที่วิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ

“ท่านพ่อบ้าน แย่แล้วขอรับ แย่แล้ว”

“พูดให้รู้เรื่อง แย่แล้วอะไร” พ่อบ้านเอ่ยถามอีกครั้งอย่างใช้ความอดทน

“มีทหารอยู่ที่หน้าจวนเต็มไปหมดเลยขอรับ”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ