หลิวมู่หรงมองหมูสับต้มบ๊วยตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ภรรยาของเขาเพิ่งบอกตนเองให้ประหยัดและเก็บเงินไว้ซ่อมบ้าน แต่ไม่คิดว่าเนื้อหมูที่ซื้อมาวันนี้นางคงทำเป็นมื้อนี้จนหมด ซึ่งปกติชาวบ้านทั่วไปนอกจากจะไม่คอยได้กินอาหารจานเนื้อแล้ว ถ้าหากได้มีโอกาสได้กินก็ต้องค่อย ๆ กิน หรือนำไปปรุงกับผักหรือธัญพืชเพื่อให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น จะมีเนื้อเป็นส่วนประกอบก็เพียงนิดเดียวเท่านั้น
แต่ดูภรรยาของเขา จากที่เห็นหมูสับต้มบ๊วยนี้มีแต่หมูล้วน ๆ แล้วเช่นนี้นางยังให้เขาประหยัด
“ท่านพี่ หมูสับต้มบ๊วยมีสิ่งใดผิดปกติหรือเจ้าคะ ข้าเห็นท่านพี่จ้องมองอยู่นานสองนาน” ฝูฮวนเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย เนื่องจากนางสังเกตุเห็นมาชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว
“ภรรยา เจ้าเพิ่งบอกให้ข้าประหยัด แต่ดูจากอาหารถ้วยนี้แล้วคาดว่าเนื้อหมูที่ข้าซื้อมาวันนี้คงไม่เหลือสำหรับมื้อหน้าแล้วกระมัง” หลิวมู่หรงเอ่ยตอบเสียงเรียบ
“อุ้ย ท่านพี่ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้ากังวลถึงสุขภาพของท่านพี่มากไปหน่อย ท่านพี่ทำงานใช้แรงกายทุกวันต้องได้รับการบำรุง ต่อไปข้าจะระวังนะเจ้าคะ”
ฝูฮวนอุทานออกมาอย่างน่ารัก ปากก็ตอบไปว่าเป็นห่วงสุขภาพของสามี แต่ในใจนั้นนางเป็นห่วงสุขภาพของตนเองมากที่สุดตอนนี้ เพราะร่างเก่านี้ทั้งผอมแห้ง ไร้เนื้อหนังมังสาสิ้นดี นางต้องรีบขุนตนเองให้อ้วนขึ้นกว่านี้อีกหน่อย
“อืม”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ฝูฮวนเอ่ยขอบคุณพลางคีบหมูสับต้มบ๊วยส่งให้สามีอย่างเอาใจ ทางด้านหลิวมู่หรงก็ได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ก้มหน้าก้มตากินอาหารมื้อนี้ไปด้วยความอร่อย
หึ! นางก็น่ารักดีมิน้อย
“หะ หัวหน้ายิ้ม” เฉินคุนที่แอบมองคู่สามีภรรยาแต่งงานใหม่ถึงกับหยุดหายใจ เขาต้องยกมือขึ้นมาขยี้ตาตนเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เมื่อกี้ถ้าเขาตาไม่ฝาด หัวหน้ายกยิ้ม
หัวหน้านี่นะ ยิ้ม ให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกยังง่ายเสียกว่า ไม่นึกว่าเวลาเพียงสองสามวันนางจะทำให้หัวหน้าเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ อดีตบ่าวคนนี้มีดีอะไรถึงทำให้หัวหน้ายอมเล่นไปตามน้ำของนาง
จะว่านางงดงามขึ้น หัวหน้าถึงใจอ่อนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะในเมืองหลวงมีหญิงงามมากมายรวมทั้งเหล่าคุณหนูทั้งหลายก็เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติ เจ้านายยังไม่สนใจแม้แต่คนเดียว เจ้านายอายุสามสิบปีเข้าไปแล้วยังไม่มีแม้แต่สาวใช้อุ่นเตียง ถ้าเป็นจวนอื่นคงเต็มไปด้วยสามภรรยาสี่อนุเป็นแน่ หากแต่หัวหน้าเพิ่งมีเมียบ่าวมาคนหนึ่งเพียงเท่านั้น
หลังจากที่กินมื้อเย็นกันเรียบร้อยแล้ว ฝูฮวนจึงเก็บกวาดและล้างจานจนเรียบร้อย
ทางด้านหลิวมู่หรงก็มานั่งจัดการไม้ไผ่ที่เขานำมาทำจักสาน แสงไฟจากเทียนถึงแม้ว่าจะไม่สว่างมากนักแต่ก็พอมองได้
“ท่านพี่เจ้าคะ วางมือจากไม้ไผ่ก่อนเจ้าค่ะ มานั่งทางนี้ข้าจะนวดให้ท่านพี่ได้คลายความเมื่อยล้า” ฝูฮวนเมื่อเสร็จจากการจัดการในครัวแล้วนางหวังจะเอาใจสามีหนุ่มเสียหน่อย อย่างน้อยวันนี้เขาก็ทำความดีให้นางได้กินอาหารจานเนื้อ
หลิวมู่หรงพลางชะงักมือจากการเหลาไม้ไผ่ เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเมียตัวน้อยที่ตอนนี้กำลังส่งยิ้มมาให้อย่างสดใส
“ไม่เป็นไรข้าไม่เมื่อย” หลิวมู่หรงเอ่ยตอบพลางก้มหน้าลงไปทำงานต่อ ทางด้านฝูฮวนที่ถูกสามีเมินทั้งที่นางอ่อย อะ เอ่อ ต้องการทำความดีมากขนาดนี้ก็เกิดแรงฮึดขึ้น ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า
“ท่านพี่ เชื่อข้าเถอะเจ้าค่ะ วางมือก่อนข้าจะนวดให้ท่านพี่เอง เห็นเช่นนี้ข้านั้นนวดเก่งนะเจ้าคะ ถ้าหากท่านพี่ได้ลองแล้วจะติดใจ” ฝูฮวนว่าแล้วจึงเดินไปแตะมือลงบนหลังมือแกร่งของสามี หลิวมู่หรงเห็นความตั้งใจจริงของภรรยาจึงถอนหายใจครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มวางมีดในมือลงในจุดที่วางตะกร้าสำหรับเข้าไปหาฟืน
ฝูฮวนเห็นสามีทำตามที่ตนต้องการจึงได้เดินไปหยิบผ้ามายื่นส่งให้สามีเพื่อเช็ดมือ เมื่อฝูฮวนจัดการผ้าเช็ดมือเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปขึ้นนั่งบนเตียง นางตบมือปัก ๆ ข้าง ๆ พลางส่งสัญญาณให้หลิวมู่หรงทราบว่า เขาต้องนอนราบบนเตียงนั้น
“ท่านพี่อย่าลืมถอดชุดนอกนะเจ้าคะ” สาเหตุที่ฝูฮวนบอกออกไปแบบนั้นเพราะหากไม่ถอดชุดนอกแล้วผ้ามันหนา นางคงต้องใช้แรงนวดจนตายแน่ ยิ่งร่างกายผอมบางอยู่ด้วย
คนพูดที่มาจากยุคสองพันไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังที่เกิดและเติบโตมาจากยุคสมัยโบราณ ยุคที่เรื่องในห้องหอเป็นเรื่องของสามีภรรยาถึงกับหน้าแดง เมื่อเขาจินตนาการไปไกลมากกว่านั้น
“ท่านพี่ข้ายังไม่ทันได้นวดให้ท่านเลย เหตุใดท่านจึงหน้าแดงเจ้าคะ หรือว่าข้าจะมีพลังยุทธ” ฝูฮวนเมื่อเห็นใบหน้าของสามีแดงก่ำก็เอ่ยถามขึ้นพลางยกมือกางออกทั้งสองข้าง นางพิจารณาฝ่ามือตนเองด้วยความสงสัย
“โอ้ย”
ฝูฮวนร้องออกมาเสียงดังเมื่อนางรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าผาก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามีของนางนั่นเองที่ดีดหน้าผากนาง
“ท่านพี่ ตีข้าทำไมเจ้าคะ” ภรรยาตัวน้อยเอ่ยถามพลางลูบหน้าผากตนเองป้อย ๆ
“เพ้อเจ้อ” หลิวมู่หรงพูดออกมาไม่ดังไม่เบานัก พลางนอนคว่ำหน้าลงบนเตียง ฝูฮวนจึงได้เริ่มบีบนวดไปตามร่างกายของสามี
‘โอ้ เนื้อแน่นมาก’
ฝูฮวนเริ่มนวดตั้งแต่คอ บ่า ไหล่ เอว น่อง ไปจนถึงฝ่าเท้า ทางด้านหลิวมู่หรงถึงกับเคลิ้มไปเมื่อตัวเขานั้นรู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก ฝูฮวนปรนนิบัตินวดให้กับสามีอยู่หนึ่งชั่วยามเวลาก็เริ่มดึก คนที่กำลังคึกในตอนแรกก็เริ่มรู้สึกเมื่อยล้า ดวงตาปรือ หลิวมู่หรงรับรู้ได้ถึงจังหวะการนวดที่หยุดไปจึงได้พลิกตัวหันหน้าไปมองหมอนวดตัวน้อยแล้วก็ได้แต่ยกยิ้มขึ้นมา
เมื่อเห็นฝูฮวนนั่งหลับไปแล้วทั้งที่มือยังวางแปะอยู่ที่เอวของเขา ขนาดว่าตัวเขาพลิกตัวขนาดนั้นนางยังไม่รู้สึกตัวเลย หลิวมู่หรงจึงได้เข้าไปประคองให้ภรรยานอนลง เลิกผ้ามาคลุมห่มให้ด้วยความเรียบร้อย ส่วนตัวเองก็ขยับมานอนฝั่งของตน
หมับ!
หลิวมู่หรงลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด เขาใช้เวลาปรับสายตาอยู่ไม่นานก็รับรู้ได้ว่าภรรยาคนงามกำลังกอดเขาเหมือนดังเช่นเมื่อคืนวานอีกแล้ว กลิ่นหอมจากกายนางทำให้หัวใจของหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ครามเต้นรัวขึ้น แต่ก็แปลกที่เขาไม่ได้นึกรังเกียจนางแม้แต่น้อย กลับรู้สึกชอบในกลิ่นกายนี้มากกว่า พยัคฆ์หนุ่มจึงคว้าภรรยาเข้ามากอดแล้วนอนหลับใหลไปด้วยกัน
“อือออ~”
ฝูฮวนลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นเนื่องจากการได้นอนเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน ถึงแม้ว่าจะยังไม่เข้าหน้าหนาวแต่อากาศในตอนกลางคืนก็เย็นไม่น้อย แต่นางกลับจำไม่ได้ว่านอนหนาวทั้งคืน ซึ่งตรงกันข้ามนางกลับนอนหลับสบายมาก
ตายแล้ว เราไปนอนฝั่งเขาอีกแล้ว นี่เรานอนดิ้นขนาดนี้เลยเหรอ อะไรจะดิ้นทุกคืน เกิดตื่นมาไม่พอใจแล้วหาทางหย่ากับนางอีก เราจะทำไงล่ะ ฝูฮวนไม่รู้เลยว่าเป็นหลิวมู่หรงที่ไปคว้าเอาตัวภรรยามากอดไว้เพราะติดใจกลิ่นหอมอ่อน ๆ มันทำให้เขาหลับสบายขึ้น
ไม่ได้การเราต้องรีบหนี ฝูฮวนเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของสามี แต่พอขยับใกล้จะหลุดก็ต้องสะดุ้งขึ้นอย่างแรง เมื่อสามีตัวดีกลับดึงตัวนางเข้าไปกอดไว้ด้วยความแนบแน่น
“อ๊ะ”
ฝูฮวนรีบยกมือปิดปากไว้เมื่อรับรู้ว่าตนเองกำลังนอนในอ้อมกอดของสามี เมื่อพิจารณามองใบหน้าของสามีอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ฝูฮวนถึงกับขมวดคิ้วพลางคิดในใจ
อามู่เป็นชายตัดฟืนแต่ผิวพรรณดี ดูเหมือนจะเนียนกว่าใบหน้าของร่างนี้เสียอีก ถึงแม้ว่าหนวดเครารุงรังแต่ใบหน้ากลับดูหล่อเหลาไม่น้อย ทั้งยังไม่ได้มีกลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว กินอาหารก็เรียบร้อยไม่มูมมาม ไม่เคยคิดรังแกนางด้วย หรือว่านางเจอไข่ทองคำในกองฟืน[1]งั้นเหรอ?
“เจ้าจะจ้องมองข้าอีกนานไหม”
“อ๊ะ ท่านพี่ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมอาหารเช้าให้ท่านก่อนเจ้าค่ะ” ฝูฮวนว่าจบก็รีบขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงเผ่นออกจากห้องนอนไปอย่างไม่รีรอ
“หัวใจจะวาย ไม่น่าเผลอมองจนถูกจับได้เลยนังหวาน อายเขาไหมละนั่น” ฝูฮวนยกมือตบลงไปตรงหน้าอกตนเองเบา ๆ สองสามทีอย่างเรียกขวัญตนเองที่หายไปให้กลับคืนมา หลังจากที่สงบสติอารมณ์จากความเขินอายได้แล้ว จึงได้เดินออกมาที่โอ่งใส่น้ำหลังบ้านเพื่อล้างหน้าบ้วนปาก
ทางด้านหลิวมู่หรงก็ได้แต่ยกยิ้มไล่ตามภรรยาเช่นฝูฮวนไป โดยไม่ได้สังเกตตนเองเลยว่าสายตาของเขาที่มองภรรยาคนนี้อ่อนโยนลงหลายส่วน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?