แปะ แปะ แปะ
ฝูฮวนยืนอยู่กลางกระท่อม นางปัดมือไปมาสองสามครั้งก่อนจะย้ายมาท้าวสะเอวตนเองไว้ พลางยกยิ้มด้วยความยินดีในเมื่อตอนนี้กระท่อมโกโรโกโสก็คล้ายกับเป็นบ้านขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่นางใช้เวลาในตอนเช้าหมดไปกับการจัดและทำความสะอาดบ้านตามที่พื้นที่น้อย ๆ ในกระท่อมจะเอื้ออำนวย
“ข้าก็เก่งใช้ได้” ฝูฮวนเปรยออกมากับตนเอง พลางหันไปมอง รอบ ๆ กระท่อม
“อีกไม่นานสามีคงได้เวลากลับบ้านแล้ว จะทำอะไรไว้เป็นมื้อเย็นดีนะ” ฝูฮวนจำได้ว่าตอนที่จัดห้องครัวนางเห็นมีข้าวสารเหลืออยู่เล็กน้อย ไข่อีกสองสามฟอง ตอนแรกนางคิดว่าไข่หมดไปแล้ว แต่ตอนมาจัดบ้าน เห็นมีไข่ซ่อนอยู่ในไหอีกสี่ฟอง เครื่องปรุงก็มีอย่างจำกัด แต่ก็น่าจะพอทำอาหารได้ไปอีกสักสองสามวัน
“ถ้าจะให้กินแต่ข้าวต้มเละ ๆ คงไม่ดีเป็นแน่ วันแรกของการทำหน้าที่ภรรยาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีสิ เสี่ยวฮวน” ฝูฮวนปลุกปลอบใจตนเองแล้วก็หันซ้ายหันขวา สมองรีบปั่นอย่างเร็วจี๋
“ใช่แล้ว ไอ้หวานซะอย่าง”
ฝูฮวนแบกตะกร้าไม้ไผ่สานเดินอ้อมมาทางด้านหลังของกระท่อม เหลียวซ้ายแลขวาเห็นมีดเก่า ๆ ด้ามหนึ่งจึงถือติดมือมาด้วย นางมุ่งหน้าไปทางป่าหลังบ้าน ก็นะ บ้านของนางอยู่ท้ายหมู่บ้าน อีกนิดเดียวก็เป็นชายป่าแล้ว การจะหาของกินในป่าน่ะมันง่ายจะตาย นิยายเรื่องไหน ๆ นางเอกย้อนเวลามาก็เข้าป่ากันทั้งนั้น
แล้วก็ไม่ผิดไปจากที่คิด นางใช้ไม้แหลมแทนเสียมขุดดินโดยรอบให้พอได้ใช้มีดตัดหน่อไม้ที่อยู่ใต้ดินอีกหน่อย ในตะกร้าไม้ไผ่จึงมีหน่อไม้อยู่เพียงพอสำหรับอาหารหนึ่งมื้อแล้ว
“อึบ แค่นี้คงพอแล้ว ขอบใจนะเจ้าหน่อไม้ทั้งหลาย” ฝูฮวนเปรยกับตนเองพลางหยิบหน่อไม้ใส่ตะกร้า แล้วเดินทางกลับบ้าน นางอารมณ์ดียิ่งนักถึงกับฮัมเพลงเบา ๆ ไปตลอดทางกลับบ้าน
.
ยามเซิน (15.00 – 16.59 น) อามู่ก็กลับมาจากการทำงาน เขานำรถลากที่มีฟืนอยู่เต็มรถไปเก็บไว้ที่โรงเก็บฟืนสำหรับนำไปส่งให้ลูกค้า หลังจากนั้นถึงได้เดินเข้าไปในบ้านจึงเห็นว่าภรรยากำลังเดินเข้ามาหา ในมือถือถ้วยน้ำมาด้วย
“ท่านพี่ กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ มานั่งก่อนเจ้าค่ะ ดื่มน้ำเย็น ๆ ให้คลายร้อนก่อน” ฝูฮวนเดินมายืนรออยู่ตรงโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน อามู่เห็นเช่นนั้นจึงพยักหน้าและเดินไปนั่งลงตามคำเชิญของฝูฮวน
“นี่เจ้าค่ะ” เสี่ยวฮวนว่าแล้วก็ยื่นถ้วยน้ำไปให้สามี
“ใครให้เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่” เสียงเข้มเอ่ยออกมา แต่ก็ไม่ยอมยื่นมือไปรับถ้วยน้ำจากฝูฮวนเสียที
“ข้าถือวิสาสะเรียกเองเจ้าค่ะ ท่านพี่! แม้ว่าการแต่งงานระหว่างพวกเราจะเป็นเรื่องของข้อตกลงและผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ถึงอย่างไรข้ากับท่านพี่ก็ถือได้ว่าเป็นสามีภรรยากันนะเจ้าคะ” ฝูฮวนเอ่ยตอบด้วยเสียงออดอ้อนอ่อนหวานขนาดที่น้ำตาลยังเรียกว่าพี่
อามู่ได้ยินเช่นนั้นจึงหรี่ตาลงเหมือนจ้องจับผิดฝูฮวน แน่นอนว่านางเห็นสายตาจ้องจับผิดของสามีแต่นางไม่สนใจ แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้พลางส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดไปให้อามู่พร้อมกับยื่นถ้วยน้ำส่งให้อีกครั้ง
อามู่จึงหลบสายตารับเอาถ้วยน้ำมาดื่มจนหมด
“ท่านพี่คงหายเหนื่อยแล้ว เช่นนั้นไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ วันนี้ข้าทำอาหารไว้หลายอย่างเชียว เสร็จแล้วจะได้มากินข้าวกันเจ้าค่ะ”
เสี่ยวฮวนเอ่ยแนะนำออกไป อามู่ได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วย เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่และอุปกรณ์อาบน้ำ ก่อนจะไปล้างตัวที่ลำธารเดิม ทางด้านฝูฮวนก็กลับไปทำอาหารต่อ
สงสัยท่านพี่จะเขินและปลาบปลื้มกับการดูแลของเราถึงกับพูดไม่ออก
ผัดหน่อไม้ใส่ไข่กับน้ำแกงเห็ดสีเหลืองน่ากินกำลังส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วกระท่อม เมื่ออามู่อาบน้ำเสร็จแล้วกลับเข้ามาในบ้าน เขาก็เอาอุปกรณ์อาบน้ำไปเก็บก่อนจะมานั่งหย่อนก้นตรงโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน
“ท่านพี่เจ้าคะ ผัดหน่อไม้ใส่ไข่กับน้ำแกงเห็ดนี่ ข้าตั้งใจทำออกมาสุดฝีมือเลยนะเจ้าคะ ท่านพี่ลองชิมดูเจ้าค่ะ” ฝูฮวนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ขนอาหารมาวางไว้เต็มโต๊ะแล้ว นางจึงนั่งลงตรงข้ามกับสามีพลางเอ่ยเชื้อเชิญอย่างน่ารัก
น่ารักเช่นนั้นหรือ เหตุใดข้าถึงมองว่านางน่ารัก นี่เขาคิดบ้าอะไรกัน อามู่มองใบหน้าและฟังคำเชิญของภรรยาเพลินจนเผลอคิดออกไป เขารีบสะบัดหน้าเรียกสติตนเองกลับมาอีกครั้ง
“ท่านพี่ ท่านไม่ชอบหน่อไม้ผัดไข่หรือเจ้าคะถึงได้ส่ายหน้าเช่นนั้น” ฝูฮวนจากที่ยิ้มแย้มอย่างสดใสเชื้อเชิญสามีให้ชิมอาหารฝีมือตนเอง แต่พอเห็นอามู่ส่ายหน้ายกใหญ่ก็ถึงกับหน้าเสียแล้วหุบยิ้มลงทันที
อามู่เห็นกิริยาท่าทางผิดหวังของภรรยาก็ให้รู้สึกใจหาย รีบเอ่ยปฏิเสธออกมา
“ไม่ใช่ ข้าเพียงไล่แมลงที่มาตอมเท่านั้น”
“เป็นเช่นนั้นเองหรือเจ้าคะ นี่เจ้าค่ะ ท่านพี่ลองชิมดู” ฝูฮวนยิ้มรับ พลางใช้ตะเกียบคีบหน่อไม้ใส่ถ้วยข้าวของสามี
“อืม” อามู่เพียงครางรับคำเดียวเท่านั้น
สองสามีภรรยากินข้าวมื้อเย็นร่วมกันด้วยบรรยากาศอึดอัด เพราะอามู่ไม่ใช่คนช่างพูดในขณะที่ฝูฮวนนั่นพูดเก่งมาก อามู่นั่งกินข้าวเงียบ ๆ เพราะตอนนี้ในใจของเขากำลังคิดว่าจะจัดการเช่นไรกับภรรยาคนนี้ดี
ถึงแม้ว่าจะอัปลักษณ์ไปนิด พูดมากไปหน่อย แต่ก็ทำอาหารและดูแลบ้านได้อย่างไม่มีที่ติ อาหารที่นางทำให้เขากินมาสองมื้อก็ถือว่ารสชาติเทียบเท่ากับเหลาอาหารขึ้นชื่อแถวเมืองหลวงได้อย่างสบาย ถึงแม้ว่าไม่ได้มอบเงินตำลึงไว้ให้ แต่ก็หาทางแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี
มองดูแล้ว นางก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว หญิงเช่นนี้ช่างเหมาะกับการเป็นฮูหยินของเขาจริง ๆ ...ไม่สิ ข้ากับนางต้องหย่ากันในอีกหนึ่งปี และนางยังเป็นบ่าวที่มาจากจวนเสนาบดีการคลังด้วย ยังมีจุดที่น่าสงสัยหลายอย่าง นี่เขาคงบ้าไปแล้วที่เผลอใจกับสตรีต้องสงสัยคนนี้
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วฝูฮวนก็ให้สามีพักผ่อน ส่วนนางเก็บกวาดห้องครัวและล้างจานให้เรียบร้อย พอดีกับท้องนภาก็ย้อมไปด้วยสีหมึกดำ สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานได้เป็นวันที่สองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที เมื่อวานตอนเย็นด้วยเดินทางมาเหนื่อยต่างคนจึงต่างนอนด้วยกันบนเตียง แต่ไม่ใช่กับวันนี้ที่ทุกอย่างกลับมาปกติ ฝูฮวนจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ
“ท่านพี่เจ้าคะ คืนนี้ข้ายังคงได้นอนบนเตียงหรือไม่ ท่านพี่คงไม่ใจร้ายให้ข้านอนในห้องครัวหรือกลางโถงนี่ใช่หรือไม่เจ้าคะ” ฝูฮวนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างเสียงอ่อน
ฝ่ายอามู่เห็นท่าทางเช่นนั้นของภรรยาสาวก็ให้ได้แต่ถอนหายใจด้วยความปลงพลางคิดในใจ ข้ามิต้องนอนเกร็งไปตลอดหนึ่งปีหรอกหรือ ขืนเป็นแบบนี้ข้าคงได้ตายก่อนเป็นแน่ นางจะรู้หรือไม่ว่าการมีนางมานอนข้าง ๆ นั้น เขาต้องใช้พลังกายพลังใจขนาดไหน
“ถ้าไม่นอนบนเตียงหรือเจ้าจะไปนอนในห้องครัวเล่า” เสียงราบเรียบไม่ได้ตอบคำถามของภรรยา ทว่ากับส่งเสียงถามกลับมาแทน
ฝูฮวนเมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้มกว้างส่งไปให้สามีอย่างดีใจ
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่ที่ไม่ใจร้ายกับข้า เช่นนั้นพวกเราก็เข้านอนกันเถอะเจ้าค่ะ” ฝูฮวนถอดรองเท้าแล้วคลานเข่าขึ้นไปนอนทางด้านในของเตียง เอาหมอนมากั้นไว้ตรงกลางก่อนจะหันหลังให้กับสามี อามู่เห็นเช่นนั้นจึงขึ้นไปนอนอีกด้านหนึ่งแต่ก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ ได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำเช่นไรดี
เหตุใด! ข้าจึงต้องเอาตัวปัญหามาให้ตนเองด้วย
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?