เขานั่งพักบนขอบทางเท้า มองดูผู้คนที่ยังเดินขวักไขว่ พนักงานออฟฟิศบางคนเริ่มทยอยกลับที่ทำงาน บ่งบอกว่าเวลาพักกลางวันใกล้จะหมดลงแล้ว
‘รอให้ช่วงวุ่นวายนี้ผ่านไปก่อน’ เขาคิด พลางเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมตามขมับ ‘พ่อครัวกับเจ้าของร้านคงไม่มีเวลาคุยกับเราตอนนี้หรอก ครัวยังวุ่นวายกับออเดอร์ของลูกค้า’
สายลมบ่ายพัดผ่าน พาเอากลิ่นอาหารจากร้านต่างๆ มาเตือนสติว่า เขาต้องรอให้ช่วงพักกลางวันผ่านไปก่อน จึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเข้าไปพูดคุยเรื่องธุรกิจ การเสนอขายปลาสดจากหมู่บ้านโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ต้องใช้จังหวะเวลาที่เหมาะสม
เขานั่งพักอยู่ตรงนั้น สายตามองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา กะว่ารอให้ใกล้หมดเวลาพักก็จะลุกไปทำธุระของตนให้เสร็จสิ้น เมื่อได้เวลา หลิวชวนลุกขึ้นจากขอบทางเท้า ความเมื่อยล้าจากการเดินทางยังคงอยู่ แต่เขารู้ว่าต้องรีบฉวยโอกาสในช่วงที่ร้านอาหารเริ่มว่างจากลูกค้า เขาจูงจักรยานกลับไปตามเส้นทางเดิม สายตากวาดมองร้านอาหารแต่ละร้านอย่างพินิจ
เสียงตวาดดังลั่นทำให้เขาชะงัก ความคิดที่กำลังล่องลอยถูกดึงกลับมาสู่ความเป็นจริงในพริบตา
"นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน!" เสียงห้าวของชายร่างท้วมในชุดพ่อครัวสีขาวดังก้องในซอยแคบ ผ้ากันเปื้อนที่เปรอะคราบน้ำมันบ่งบอกถึงความวุ่นวายในครัว สายตาดุดันจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนก้มหน้างุดอยู่ข้างรถเข็นบรรทุกลังปลา "ปลาแบบนี้เอามาทำอาหารได้ยังไง!"
คนส่งของยืนก้มหน้านิ่ง มือบิดผ้าเช็ดมือด้วยความประหม่า "ขอโทษครับพ่อครัวติง พรุ่งนี้ผมจะเอามาเปลี่ยนให้สองเท่าเลย มันเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นระหว่างทาง น้ำแข็งหล่นออกมา..."
"เหตุฉุกเฉิน?" พ่อครัวติงขมวดคิ้ว เสียงแหลมขึ้นด้วยความโมโห "แล้วร้านจะทำยังไง? วันนี้มีแขกสำคัญจะมากินข้าวเย็นที่ร้าน ปลาไม่สดแบบนี้จะเอาไปทำอาหารได้ยังไง? หา!"
หลิวชวนจอดจักรยานพิงกำแพง เขาสังเกตเห็นป้ายร้าน 'หยูถิง' ตัวอักษรทองบนพื้นแดง ประดับด้วยโคมไฟจีนสองข้าง ดูหรูหราสมกับเป็นร้านอาหารชั้นดีย่านถนนเจิ้งหยาง
ขณะที่คนส่งของกำลังจะอ้าปากตอบ เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังแว่วมาจากภายในร้าน ชายวัยกลางคนในชุดเสื้อผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มปรากฏกาย กระดุมทองวาววับสะท้อนแสงแดดยามบ่าย รองเท้าหนังขัดมันสะท้อนให้เห็นความพิถีพิถันในการแต่งตัว ทุกย่างก้าวแฝงไว้ด้วยอำนาจที่มองไม่เห็น หลิวชวนยืนสังเกตอยู่ในเงามืดของกำแพง
"มีอะไรกันหรือ พ่อครัวติง?" น้ำเสียงถามราบเรียบแฝงไปด้วยอำนาจ
"เถ้าแก่ครับ" พ่อครัวติงหันไปตอบทันที "ปลาที่ส่งมาวันนี้มันไม่สด"
"ไม่สด?" เถ้าแก่ขมวดคิ้ว "หมายความว่าเน่าใช้ไม่ได้เลย หรือแค่ไม่สดเท่านั้น?"
"ไม่ได้เน่าครับเถ้าแก่" คนส่งของรีบตอบ เสียงสั่น "แค่ไม่สดเท่าที่ควร ยังใช้ทำอาหารได้อยู่..."
"แต่เอามาทำปลากะพงนึ่งซีอิ๊วดอกกุ้ยฮวาไม่ได้!" พ่อครัวติงแทรกขึ้น น้ำเสียงแฝงความภาคภูมิใจในฝีมือการทำอาหารของตนเอง "มันต้องใช้ปลาที่สดมากๆ ถึงจะได้รสชาติที่ดีที่สุด นี่ พวกเราค้าขายกันมากี่ปีแล้ว จำไม่ได้เหรอว่า ปลากระพงนึ่งซีอิ๊วดอกกุ้ยฮวาเป็นรายการอาหารขึ้นชื่อของร้านหยูถิงของเรา"
สีหน้าเถ้าแก่เปลี่ยนไปทันที "อย่าบอกนะว่า นี่เป็นปลาที่จะต้องใช้ทำอาหารต้อนรับท่านจี้?"
"ใช่ครับเถ้าแก่" พ่อครัวติงตอบเสียงเข้ม เพราะแบบนี้เขาถึงได้โมโหยังไงล่ะ
"บ้าจริง!" เถ้าแก่หันขวับไปทางคนส่งของ เสียงดังขึ้น "รู้ไหมว่าท่านจี้เป็นใคร? เขาเป็นถึงผู้จัดการโรงงานทอผ้าใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ นี่คงมาเลี้ยงต้อนรับลูกค้าของโรงงานแน่ ๆ ร้านเราเป็นแค่เพียงร้านเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่โตเท่าคนอื่น กว่าจะได้รับความไว้วางใจจากคนที่มีฐานะขนาดนั้น รู้ไหมว่าต้องทำบุญไปตั้งเท่าไหร่ ถ้าพวกเราทำให้เขาไม่พอใจ ชื่อเสียงร้านเราจะเสียหายหมด!"
คนส่งของยืดตัวขึ้น สีหน้าเปลี่ยนจากหงอยเหงาเป็นขุ่นมัว "ก็เพราะค้าขายกันมาหลายปีนี่แหละ" น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความน้อยใจ "ทำไมถึงไม่อนุโลมให้หน่อย จะทำอาหารรายการอื่นแทนไปก่อนก็ได้" เขาสูดหายใจลึก พยายามกลั้นความรู้สึก "ผมก็บอกแล้วว่ายินดีนำมาส่งให้ไม่คิดเงินในวันพรุ่งนี้ ผมยอมเฉือนเนื้อตัวเองขนาดนี้แล้ว" เสียงเขาแผ่วลง "ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเลยหรือครับ?"
พ่อครัวติงยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าที่เคร่งเครียดค่อยๆ อ่อนลง เขาถอนหายใจยาว "ฉันก็อยากจะอนุโลมให้นะ" น้ำเสียงนุ่มนวลขึ้น "แต่วันนี้..." เขาส่ายหน้าช้าๆ "มันไม่ใช่วันธรรมดา เป็นลูกค้าคนสำคัญที่จะมีความผิดพลาดไม่ได้ อย่างที่เถ้าแก่ว่าไปนั่นแหละ"
หลิวชวนยืนฟังการสนทนาทั้งหมดอย่างตั้งใจ สมองประมวลข้อมูลอย่างรวดเร็ว ปลากะพงนึ่งซีอิ๊วดอกกุ้ยฮวาต้องเป็นเมนูเด็ดของร้านแน่ๆ และวันนี้พวกเขาต้องต้อนรับลูกค้าคนสำคัญ แต่ดันเกิดปัญหาเรื่องวัตถุดิบ...
หัวใจของหลิวชวนเต้นแรง นี่คือโอกาสที่เขารอคอย โอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้จัดหาวัตถุดิบ
"ผมอาจจะช่วยได้ครับ" หลิวชวนก้าวออกไปจากเงามืด เสียงหนักแน่นและมั่นใจ
ทุกสายตาหันมามองชายแปลกหน้าในชุดเรียบง่าย ที่กล้าก้าวเข้ามาในวงสนทนาของพวกเขา บางคนมองด้วยความสงสัย บางคนด้วยความระแวง แต่ในแววตาของหลิวชวนมีเพียงความมั่นใจ เพราะเขารู้ดีว่า โชคชะตากำลังเปิดประตูให้เขาอีกครั้ง
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?