ในห้องโยษิตาสั่งอาหารจากรูมเซอร์วิสมานั่งกินคนเดียว หลังจัดแจงสาวๆ ให้เจ้านายเรียบร้อย เธอก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน อิทธิพลบอกเหตุผลว่าหากไม่อยู่ในสายตาของเขา คนหลายใจอย่างเธอจะสบโอกาสทำเรื่องไม่ดีให้คนในบริษัทเห็น แล้วเอาเจ้านายที่โดนสวมเขาไปนินทาได้ ฟังแล้วมันทะแม่งพิกล แต่โยษิตาเป็นลูกจ้างจึงไม่อาจเถียงสู้ตายกับคนตรรกะบิดเบี้ยวผู้ยิ่งใหญ่ ได้แต่จับเจ่านั่งหงอยเหงาเป็นลูกแมวซึมส่องโซเชียลดูเหล่าพนักงานไปเที่ยวกัน
เวลานี้สองทุ่มกว่า กินเสร็จออกไปว่ายน้ำสักหน่อยค่อยพักผ่อนก็แล้วกัน ในเมื่อไปเที่ยวเล่นไม่ได้ อย่างน้อยเล่นน้ำในห้องพักสักหน่อยก็ยังดี หญิงสาวหาความสุขให้ตัวเอง ท้องอิ่มพอประมาณก็เปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีดำพอดีตัวไปแช่น้ำร้อนควันกรุ่นที่สระนอกห้องพัก ห้องสวีทนี้บริการสะดวกครบครัน
เธอเปิดเพลงฟังเบาๆแล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนอย่างเอ้อระเหย พลางคิดว่าดีจังที่เจ้านายไม่กลับมานอนห้อง ตอนนี้คงสนุกกับหญิงสาวโขยงหนึ่งจนหมดแรงไปแล้ว เขาเป็นเสือไม่ทิ้งลาย ฟาดทีเดียวยี่สิบคนทั้งคืนก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ฮึ! แล้วจะไปนึกถึงคนๆ นั้นทำไม ตัวเองสนุกได้แต่คนอื่นห้ามเถลไถล อายุมากกว่าเธอแค่สองปีแต่คำพูดเป็นผู้ใหญ่เชียว เขาไม่อายแต่เธอฟังแล้วอยากกลอกตา
โยษิตาจิบน้ำมะพร้าวเย็นชื่นใจ หลับตาลงทอดอารมณ์ไปกับบ่อน้ำอุ่น และเพราะไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าประตูห้องทางด้านหลังได้เลื่อนเปิดช้าๆ มีคนก้าวขาออกมา เหลือบมองไปที่เธอสักครู่ก็ถอดเสื้อทิ้งไว้ ปลดกางเกงและบ็อกเซอร์จนเหลือเพียงร่างกายหนัดแน่นเปลือยเปล่า นัยน์ตาชายหนุ่มแฝงไว้ด้วยความอันตรายที่ร้อนรุ่มปรารถนา
ไม่ได้ยินเสียงคนก้าวลงมา แต่น้ำกระเพื่อมพอจะทำให้โยษิตารู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้น มุมปากกระตุกทันใด ตกใจจนเกือบร้องกรี๊ดเพราะมีใครที่ไหนไม่รู้มาอยู่ในสระน้ำวงกลมด้วยกัน ครั้นปรับสายตาได้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
“บอสกลับมาแล้วเหรอคะ” น่าจะพึ่งสามทุ่มกว่าล่ะมั้ง ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ทำไมเขากลับมาแล้ว
“สบายใจเชียวนะ ผมไม่อยู่ก็พึ่งรู้ว่าเลขาไม่เคยกระวนกระวายเป็นห่วง กลับมีความสุขมาก”
บอสเมาแล้วหรือเปล่า โยษิตาฟังจากคำพูดของเขา มีความน้อยใจที่แสนเปราะบางปนอยู่ด้วยก็อดที่จะปวดหัวไม่ได้ เอาแล้วไง บอสที่เมาแถมอารมณ์ไม่ดีรับมือยากสุดๆ เธอขยับเข้าไปหาเพื่อเอาใจ ข่มความอายไว้คิดใช้คำหวานมาป้อยอ
“ไม่ได้สบายใจขนาดนั้นค่ะ โยย่อมต้องเป็นห่วงบอสแน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะตั้งใจคัดสาวๆ ไปให้บอสเหรอคะ อยู่ที่ประเทศไทยคุณหญิงท่านจับตาดูบอสตลอด โยเข้าใจค่ะว่ามันน่าอึดอัด บอสไม่ได้เล่นสนุกนาน สบโอกาสผ่อนคลายทั้งทีโยก็พลอยปลาบปลื้มที่ได้มีส่วนช่วย แต่ทำไมกลับมาเร็วจังล่ะคะ น้องๆ ไม่ถูกใจบอสเหรอ”
ความเป็นห่วงของเธอคือห่วงว่าเขาจะอึดอัดตายหากไม่ได้ป้าบๆ สาวๆ ฟังแล้วอิทธิพลถึงกับมีขีดดำขึ้นเต็มหน้าผาก เขาบีบปลายคางกลมมนของเลขา ดึงตัวเธอเข้ามาใกล้จนใบหน้าแทบจะชิดกัน
“ไม่ถูกใจ ทำงานไม่ได้เรื่อง พูดจาไม่เข้าหู โยษิตาความผิดพวกนี้ทำให้คุณตกงานได้เลยนะ”
ตกงาน เป็นคำขู่ที่ได้ผลชะงัด โยษิตาซึมลงทันใด ไม่ถูกใจน้องๆ หนูๆ ที่เธอหาไปประเคนให้สักคนเลยเหรอ ระดับนางแบบเด็กเอ็นเบอร์ต้นๆ ก็ยังมัดใจบอสหนุ่มไม่ได้ แล้วเขาจะเอาอะไร แบบไหนที่ต้องการ
“ขอโทษค่ะบอส โยจะทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้ แล้วก็โยไม่ได้นัดเจอคุณเอ็ดเวิร์ดจริงๆ ไม่ได้ชอบเขา พวกเราแค่คุยกันเพราะงาน บอสอย่าโกรธโยเรื่องเมื่อตอนบ่ายเลยนะคะ ถ้าบอสไม่ชอบโยจะไม่อยู่กับเขาสองต่อสองเด็ดขาด”
“ผมไม่ชอบ กับผู้ชายคนไหนก็ไม่ชอบ อย่าให้เห็นว่าไปหัวเราะมีความสุขกับคนอื่นอีก”
“ทราบแล้วค่ะ โยจะทุ่มเทปลอมเป็นแฟนหลอกๆ ให้บอสคนเดียว ไม่ออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด หายโกรธหรือยังคะ”
อิทธิพลโดนหญิงสาวทำเสียงอ่อนเสียงหวานราวกับหลอกล่อเด็กน้อยให้กินยา ก็ใจอ่อนยวบไม่ถือโทษโกรธเธออีก กลับรู้สึกว่าปากอิ่มเอิบนี้มันช่างน่าจูบสักที เขาจึงประกบปิดลงไป รั้งท้ายทอยของโยษิตาเข้ามาแนบสนิทจนลมหายใจของทั้งสองสอดผสานเป็นจังหวะเดียวกัน
จูบนี้ไม่รุนแรงลงโทษเหมือนครั้งก่อน โยษิตาเองก็ไม่นึกต่อต้านจึงเกิดเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นชิน เธอเต็มใจให้เจ้านายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้ามา เต็มใจเป็นฝ่ายโอบรอบลำคอหนาของเขาแล้วตอบโต้ด้วยการกระหวัดลิ้นเกี่ยวพันกัน สองริมฝีปากดูดดึงนัวเนีย ยิ่งใกล้ชิดยิ่งยากจะควบคุมความปรารถนา ยามเมื่อผละออกเว้นช่วง ต่างฝ่ายต่างดวงตาหรี่ปรือ ต่างก็รู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ เคลิบเคลิ้มถึงที่สุดจนโผเข้าประกบจูบกันอีกรอบ
โยษิตาไม่เคยมีอารมณ์ร่วมขนาดนี้มาก่อน จึงรุกคืบขึ้นไปคร่อมอยู่เหนือหน้าท้องแกร่ง หอบครางยามที่อิทธิพลเคล้นคลึงก้นงามงอนอย่างสนุกมือ ไม่มีใครพูดอะไร แต่รับรู้ว่าไฟในช่องท้องกำลังลุกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ชาวาบไปทั้งร่างจนอยากขยับไปอีกขั้น หญิงสาวตัวอ่อนย้วย ริอาจเป็นฝ่ายซุกไซ้ลำคอของชายหนุ่ม ลูบมือไปบนแผ่นอกเปลือยหนัดแน่นของเขา ไล่ลงมาที่หน้าท้องกล้ามเนื้อแข็ง
อิทธิพลโดนผู้หญิงรุกเข้าหาไม่ใช่น้อย ลีลาเจนจัดกว่านี้ก็เคยมาแล้ว แต่พอเป็นโยษิตา ไม่ทราบมีความพิเศษยังไง นอกจากปลุกเร้าอารมณ์ ยังทำให้เขาขนลุกซู่ยันปลายเท้า ศีรษะหนึบชาจนไร้การควบคุม นี่คงไม่ได้หน้าแดงด้วยหรอกใช่ไหม คำตอบคือแดงแจ๋ แดงจัดจนคั้นออกมาเป็นเลือดได้เชียวล่ะ ไม่เพียงไอ้หนูที่ตั้งโด่ตอบสนอง ทั่วทั้งร่างของเขาปั่นป่วนไปหมด ทรมานจนแทบมอดไหม้กลายเป็นจุณ
“โยษิตา ผมต้องการคุณ ต้องการคุณจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว” ความปรารถนาทำให้สองตาของเขาแดงก่ำ
โยษิตาจึงหอมแก้ม จูบนั่นนี่อีกนิดแล้วปลดเชือกรัดบิกินีท่อนล่างออก โยนขึ้นไปตกแหมะอยู่ข้างขอบสระแล้วยกตัวนั่งทับลงไป “อื้อ! บอสคะ”
คนหล่อเหลาตรงหน้าจดจ้องเธอ ฝ่ามือหนาช่วยประคองส่งสะโพกจนสามารถกลืนเข้าไปได้ทั้งลำ “ผมต้องการคุณ”
ฉากรักเริงสวาทกลางแจ้งดำเนินไปอย่างเร่าร้อน ไอระเหยดุจหมอกควันปกคลุมสระน้ำวงกลม เสียงหอบครางผสานกับเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่น ยิ่งเร่งซอยเอวยิ่งเมามัน จนเพื่อนบ้านห้องข้างๆ โมโหควันออกหู เริ่มระบายอารมณ์ด้วยการขว้างปาข้าวของอย่างโกรธแค้น
“นังสารเลว! แกจงใจหยามฉัน จงใจเยาะเย้ยฉันใช่ไหม ได้! ในเมื่อไม่เจียมตัวอยากลองดีนัก ก็ได้!”
วันใหม่มาเยือนยังไม่มีใครลุกจากเตียง หญิงสาวนอนอิงแอบอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่มอย่างเหนื่อยล้า ฟังเสียงกรนเบาๆ ของเขา ร่างกายเปลือยเปล่าแนบชิดสนิทสนม พอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา โยษิตาก็ขยับอย่างระมัดระวังไม่ให้เจ้านายตื่น เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วสั่งอาหารมาส่งให้เรียบร้อย อิทธิพลงัวเงียตื่นหลังเธอไม่นาน พอเขาเปิดประตูออกมาจากห้องเห็นโยษิตากำลังง่วนอยู่กับจานอาหารก็เดินเงียบเชียบไปกอดเธอไว้จากทางด้านหลัง
“เมื่อคืนผมสนุกมาก วันนี้เราทำอีก แต่เปลี่ยนเป็นในทะเลดีไหม”
คิดสัปดนอะไร ใครจะไปเริงสวาทกับเขาในทะเล ถูกจับได้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน “เอ่อ…ในทะเลไม่ดีมั้งคะบอส”
“ริมหาด ใต้ต้นไม้ หรือว่าสระน้ำเหมือนเดิมก็ได้ ผมแล้วแต่คุณ”
อิทธิพลให้ตัวเลือก เขานึกถึงเมื่อคืนก็อดที่จะอมยิ้มพอใจไม่ได้ โยษิตาให้ความร่วมมือเป็นฝ่ายขย่มโยกอยู่บนตัวเขา ปลดปล่อยความต้องการเริงรักกับเขาอย่างเผ็ดร้อน พอตอนนี้มาทำเรียบร้อยราวกับมีสองบุคลิก ยิ่งรู้สึกคอแห้งอยากลากเธอเข้าไปในห้อง ไม่ต้องทำอะไรแล้ววันนี้ เชื่อมต่อสอดผสานกันจนกว่าจะหมดแรงไปข้างก็พอ
“บอสอาบน้ำแล้วมากินข้าวก่อนนะคะ วันนี้ทุกคนมีทริปไปดำน้ำกัน บอสอยากไปด้วยไหมคะ”
“ไม่ไป ผมไม่อยากดูปลา อยากอยู่ที่นี่กับคุณ”
โยษิตาหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก นี่ถ้าอยู่ด้วยกันทั้งวันเธอจะไม่เหนื่อยตายเหรอ “แต่แนวปะการังที่นี่สวยมากเลยนะคะ อยู่ห้องกับโยน่าเบื่อจะตาย”
“ไม่เบื่อ อยู่ด้วยกันนี่แหละ” เขาจะกักตัวโยษิตาไว้ไม่ให้คู่แข่งสบโอกาสเข้าหาเธอ
หมอนั่นบอกว่าจะจีบเธอ ลองดูถ้าไม่เจอหน้าแล้วจะจีบยังไง
สามวันแรกพวกเขาคลอเคลียกันทั้งวี่ทั้งวัน ออกไปเดินชายหาดตอนเย็นบ้างก็กลับมาเล่นสนุกต่อที่บ่อน้ำ โยษิตาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสู้ตายเริงรักไม่อายไปกับเขาขนาดนี้ จนวันที่สี่บอสหนุ่มใจดี ดูออกมาว่าเธอเริ่มเบื่อจึงได้ยอมพาไปเที่ยวเล่นที่อื่นบ้าง
ทั้งสองออกมาเดินกินลมกันที่สวนสาธารณะใกล้กับชายหาด แสงไฟรอบด้านสาดส่อง คนท้องถิ่นนำของออกมาขายให้นักท่องเที่ยวยาวตลอดแนว
“อยากกินเหรอ” เธอมองขนมที่คนอื่นถือเดินผ่านไปไม่วางตา อิทธิพลจึงถาม
โยษิตาอยากกินจริงๆ จึงได้พยักหน้าหงึกๆ ทว่ามองไปยังร้านที่กำลังขายดิบขายดี ก็รู้ว่าหากต่อแถวซื้อต้องนานแน่จึงปฏิเสธ “อยากกินค่ะ แต่แถวยาว ไม่เอาดีกว่า”
“นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะไปซื้อให้”
“คะ!? บอสจะไปซื้อให้ ไม่เอาค่ะ ไม่เอา โยเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ผมไม่ต้องต่อแถวซื้อนานหรอก รอนี่แหละอย่าเที่ยวเดินเพ่นพ่าน กลับมาไม่เจอจะโดนดี”
โยษิตาจึงนั่งอยู่แถวนั้น มองตามแผ่นหลังของอิทธิพลในชุดเสื้อเชิ้ตฮาวายอย่างสับสนว้าวุ่น ใจดีอีกแล้ว นี่มันไม่เหมือนตัวเขาเลย หรือพอเธอว่าง่ายเจ้านายก็จะอ่อนโยนด้วยแบบนี้ หญิงสาวแก้มร้อนพลัน พอเงยหน้าก็พบว่ามีผู้ชายตัวใหญ่สามคนยืนล้อมเธออยู่
“คนสวย ไปคุยกันหน่อยสิ จุ๊ๆ อย่าร้องนะ ไม่งั้นยิงไส้แตกแน่”
ปลายกระบอกปืนชี้มายังโยษิตา เธอตกใจยืนขึ้นช้าๆ แล้วทำตามคำสั่งเพื่อรักษาชีวิต
ด้านหน้ามีคนนำ ด้านหลังมีอีกสองคนคอยประกบ บังคับให้ตามพวกมันออกไปจากฝูงชน ถ้าพ้นระยะนี้ก็ยากที่จะเอาตัวรอดแล้ว ข้างหน้าไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ หญิงสาวจึงรวบรวมสติ หันมองไปทางด้านหลังเผื่อว่าอิทธิพลจะกลับมา แต่ไม่มีเงาของเขา ยิ่งนานยิ่งออกมาไกลขึ้นเรื่อยๆ โยษิตาจึงฮึดกัดฟันเดี๋ยวนั้น อาศัยจังหวะที่คนเดินสวนขวักไขว่วิ่งหนีอย่างไม่กลัวว่าจะโดนยิง
แต่โชคไม่ดี คนที่อยู่ข้างหลังจับเธอได้ สุดท้ายก็ออกมาจากงาน ถูกมัดมือมัดเท้าอุ้มไปยังเรือลำเล็กลำหนึ่ง
“สวยใช่เล่นเลย ไม่สนุกสักหน่อยก่อนเอาไปโยนทิ้งลงทะเลเหรอ” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหยาบคาย
“อย่าลีลา ถ้ามีคนแจ้งตำรวจงานจะไม่สำเร็จ” อีกคนที่น่าจะเป็นหัวหน้าเอ่ยตำหนิเสียงดุ ทำให้คนที่ถูกตำหนิฮึดฮัดทำท่าไม่พอใจ แต่ก็เกรงใจคนว่า จึงได้ทำตามไปอย่างเงียบๆ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?