ซีซวน และชิงอี เดินตามพวกเธอมาอย่างเงียบๆ พวกเขาไม่ได้ทำตัวงอแงเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเด็กน้อยทั้งสองคนจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อมานานกว่าสามปี แต่ก็ไม่ถามอะไรออกมา พ่อในความทรงจำของพวกเขาแทบไม่มีภาพอยู่เลย พ่อคือใคร? พวกเขาแทบไม่รู้จัก สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน คือพ่อในสภาพบาดเจ็บและอ่อนแอ
สองข้างทางที่ทุกคนกำลังเดินเต็มไปด้วยทุ่งนาและต้นไม้ ลู่เจียวรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ยังคงอดทนเพื่อให้ครอบครัวได้ถึงจุดหมาย บ้านของแม่เฒ่าฟูอยู่ไกลจากบ้านเก่าของพวกเธอพอสมควร มันเหมือนอยู่กันคนละฟาก เพราะบ้านของแม่เฒ่าฟูตั้งอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านซินหัว ระยะทางทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะไปถึงบ้านของแม่เฒ่าฟู สายตาของลู่เจียวสังเกตเห็นรถเช่าคันใหญ่จอดอยู่หน้าบ้านแม่เฒ่าฟู มีคนกำลังขนของลงจากรถ เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"โอ้!" เสียงอุทานของแม่เฒ่าฟูดังขึ้นเมื่อเห็นคนที่ลงจากรถชัดเจน ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง "ปี้คุน! ซูอิง! พวกลูกกลับมาเยี่ยมบ้านกันแล้วเหรอ!"
ผู้มาเยือนคือลูกชายของแม่เฒ่าฟู ลุงเฉิน เฉินปี้คุนกับ ป้าโจว โจวซูอิง ภรรยาของเขา จำได้จากความทรงจำของร่างนี้ว่าพวกเขาทำงานในโรงงานในเมือง และนานๆ ครั้งถึงจะได้กลับมาเยี่ยมแม่เฒ่าฟู ความบังเอิญที่พวกเขามาถึงในวันนี้ ราวกับเป็นการจัดเตรียมของสวรรค์
ลุงเฉินและป้าโจวลงจากรถด้วยท่าทางเหนื่อยล้า เส้นทางการเดินทางจากเมืองใหญ่มาถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขายังคงแสดงรอยยิ้มอบอุ่นและจริงใจให้กับแม่เฒ่าฟู เธอสังเกตเห็นความผูกพันระหว่างแม่และลูก ที่แม้จะห่างเหินด้วยระยะทาง แต่ความรักไม่เคยจางหาย
ความทรงจำของร่างนี้บอกลู่เจียวว่า ลุงเฉินและป้าโจวไม่มีลูกด้วยกัน และเธอเพิ่งทราบว่าลุงเฉินเป็นหมัน แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาขาดความรักและความอบอุ่นในชีวิตคู่เลย บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีใจเมตตาต่อคนอื่นมากขึ้น
พวกเขาช่วยกันขนของเข้าบ้าน ระหว่างนั้นแม่เฒ่าฟูก็เล่าสถานการณ์ของครอบครัวเธอให้ฟัง สีหน้าของลุงเฉินและป้าโจวที่เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเรื่องราว สายตาเห็นอกเห็นใจมองมาที่พวกเธอโดยเฉพาะหลานชายที่ยังอยู่ในสภาพบาดเจ็บ
แม่เฒ่าฟูพาพวกเราเข้าไปพักในบ้าน บ้านไม้หลังเล็กที่ดูอบอุ่นและเรียบง่าย กลิ่นอายของความเป็นบ้านที่แท้จริงโอบล้อม ลู่เจียวรู้สึกซาบซึ้งใจที่แม่เฒ่าฟูยื่นมือช่วยเหลือในเวลาที่ยากลำบาก และแม้ตัวของเธอในร่างนี้จะเพิ่งเจอลุงเฉินกับป้าโจวเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็แสดงความมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อกัน
ทุกคนนั่งพักในห้องโถงของบ้านและลู่เจียวได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่เฒ่าฟูและลุงเฉิน เรื่องราวหลายอย่างที่ไม่เคยรู้ได้ถูกเปิดเผยในระหว่างการสนทนา เธอได้รับรู้ถึงความรักที่แม่เฒ่าฟูมีต่อสามี และทุกคำพูดของแม่เฒ่าฟูช่วยเติมเต็มช่องว่างในความทรงจำที่ขาดหายไปของลู่เจียวอีกด้วย
"อาเจียว อย่ากังวลเลยนะลูก" แม่เฒ่าฟูจับมือเธอไว้แน่น มือเหี่ยวย่นให้ความอบอุ่นที่ลู่เจียวไม่ได้สัมผัสมานาน "ที่นี่อาจจะคับแคบไปหน่อย แต่เราก็อยู่กันแบบครอบครัว"
แม้ว่าจะผ่านความยากลำบากมา แต่การได้มาที่บ้านแม่เฒ่าฟูและเจอคนในครอบครัวที่รักและใส่ใจกัน มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจและมีกำลังใจมากขึ้นที่จะสู้ต่อไป
ช่วงเย็นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลู่เจียวช่วยป้าโจวเตรียมอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินข้าวด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น หลังอาหาร แม่เฒ่าฟูปรุงยาสมุนไพรให้กัวหยางดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เขาดูเหนื่อยล้ามาก ทุกคนจึงตกลงกันว่าควรเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อพักผ่อน
แม่เฒ่าฟูใจดีจัดที่นอนให้ในห้องเล็ก ๆ ข้างห้องครัว ห้องคับแคบแต่เรียบง่าย ทั้งสี่คนนอนข้างกัน ซีซวน และชิงอี ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหม่ที่ซื้อมาจากตลาดมือสอง แม้ข้าวของเครื่องใช้จะกองอยู่ตรงมุมห้องเพราะไม่มีพื้นที่มากนัก แต่ลู่เจียวก็ไม่คิดที่จะบ่นอะไร บ้านแม่เฒ่าฟูเองก็ไม่ได้มีฐานะ และการที่แม่เฒ่าฟูช่วยพวกเธอให้มีที่ซุกหัวนอนก็ดีเท่าไรแล้ว
ในความสงบของยามค่ำคืน ลู่เจียวคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวัน และอดดีใจไม่ได้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซ่อมบ้านหรือปลูกผักตามแผนที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าได้ทำไปแล้ว วันนี้คงจะเจ็บใจมากกว่านี้แน่ ๆ เมื่อคิดถึงการที่ถูกไล่ออกจากบ้านโดยไม่คาดคิดแบบนี้ มันยิ่งทำให้ลู่เจียวตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิต
คืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของลูกเป็นดั่งบทเพลงกล่อมใจ ลู่เจียวหันไปมองสามีที่นอนอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเขายังคงแสดงร่องรอยความเจ็บปวดจากบาดแผล แต่ลึกลงไปในดวงตาที่ปิดสนิทนั้น เขามีความทุกข์และความกังวลมากมายที่สะสมอยู่ในใจ เขาเพิ่งกลับมาหลังจากไปทำงานในเมืองใหญ่ถึงสามปี เพียงเพื่อพบว่าไม่มีบ้านให้กลับ
ปัญหามากมายรออยู่ข้างหน้า และยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เรื่องการรักษาของสามี หรือแม้แต่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย
เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างห้องเล็กๆ พร้อมกับแสงจันทร์ที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างสาดส่องมาบนใบหน้าของซีซวนและชิงอี เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีความคล้ายคลึงกับกัวหยาง โดยเฉพาะรูปจมูกและคิ้ว แต่รอยยิ้มและแก้มของพวกเขากลับเหมือนลู่เจียว
ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยคืนนี้ เธอกับลูกก็มีกัวหยางในบ้านเล็กๆ ที่แสนอบอุ่นของแม่เฒ่าฟู
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?