ตอนเช้าเสียงรถยนต์ดังขึ้นที่หน้าบ้าน เป็นคนขับรถเช่าคนเดิมที่ลุงเฉินใช้ประจำ เขามาพร้อมกับรถคันใหญ่กว่าปกติ เนื่องจากวันนี้ลู่เจียวต้องย้ายบ้านและขนข้าวของทั้งหมดไปยังที่อยู่ใหม่ในเมือง เธอ แม่เฒ่าฟู ซีซวน และชิงอีช่วยกันขนของไปที่รถทีละชิ้น แม้จะไม่ได้มีของมากนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
เมื่อทุกอย่างพร้อม รถเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้านช้าๆ ลู่เจียวมองวิวทิวทัศน์สองข้างทางที่คุ้นเคยเลือนหายไปด้านหลัง ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลผสมปนเปกัน ราวกับการเดินทางครั้งนี้คือการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวัง แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็สำคัญกับครอบครัวของเธอมาก
ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงย่านที่พักในเมือง เจ้าของบ้านเช่ายืนรออยู่ที่หน้าตึก ทันทีที่รถจอด ลู่เจียวรีบลงจากรถไปทักทายเขา
"สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่รอพวกเรา" ลู่เจียวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"เถ้าแก่เนี้ยเตียวมาจัดการรับรองให้คุณลู่เรียบร้อยแล้วครับ ผมพร้อมมอบกุญแจให้เลย" เขากล่าวพลางส่งกุญแจห้องเช่าให้ ลู่เจียวรับกุญแจมาถือไว้ ก่อนขอบคุณเตียวอ้ายหมิ่นในใจ
ทุกคนช่วยกันขนของขึ้นไปยังห้องใหม่อย่างรวดเร็ว ห้องเช่าอยู่บนชั้นสอง ไม่ไกลจากห้องของลุงเฉินและป้าโจว เป็นห้องที่มีขนาดเหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา มีสองห้องนอน ห้องน้ำในตัวที่แยกห้องอาบน้ำออกต่างหาก พร้อมด้วยระเบียงเล็กๆ สำหรับตากผ้า
ลู่เจียวเหลือบมองครัวซึ่งถือว่าทันสมัยกว่าที่เคยใช้ในบ้านเดิม มีทั้งเตาแก๊สและเตาถ่านให้เลือกใช้ตามความสะดวก แต่เตาแก๊สต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้เตาแก๊สดีหรือไม่ จึงเลือกที่จะเก็บไว้พิจารณาภายหลัง
เมื่อขนของเสร็จเรียบร้อย ลู่เจียวยิ้มและขอบคุณคนขับรถพร้อมหยิบเงินสินน้ำใจเล็กน้อยมอบให้ "ขอบคุณมากค่ะ ถ้าไม่มีคุณช่วย พวกเราคงไม่ไหวแน่ๆ"
คนขับรถรับเงินไปอย่างยิ้มแย้มและพยักหน้ากล่าวลา ลู่เจียวกับแม่เฒ่าฟูช่วยกันจัดของเข้าที่ เด็กๆ ช่วยกันเช็ดถูบ้านใหม่อย่างสนุกสนาน ข้าวของถูกจัดเรียงในห้องนอนและห้องครัวอย่างเป็นระเบียบ เตียงนอนทั้งสองห้องกว้างขวางพอที่จะนอนได้สบาย
กว่าทุกอย่างจะเข้าที่และลงตัวก็เย็นพอดี ลุงเฉินและป้าโจวกลับมาจากโรงงาน เมื่อเข้ามาเห็นแม่เฒ่าฟูอยู่ในห้องก็ตกใจเล็กน้อย
"แม่มาอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?" ลุงเฉินถามพลางมองแม่เฒ่าฟูที่นั่งยิ้มอยู่ตรงมุมห้อง
"อาเจียวชวนแม่มาช่วยดูแลหลานๆ และก็เผื่อช่วยดูแลอาหยางด้วยน่ะ" แม่เฒ่าฟูอธิบายเสียงเรียบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
ป้าโจวพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองลู่เจียว "ดีจ้ะ แบบนี้ถ้ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันง่ายๆ ครอบครัวเดียวกันอยู่ใกล้ๆ กันแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ"
ทุกคนตกลงกันว่าจะฉลองเล็กๆ สำหรับการขึ้นบ้านใหม่ ลุงเฉินกับป้าโจวช่วยกันเตรียมอาหารง่ายๆ จานหลักเป็นปีกไก่นึ่งสมุนไพรที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล ซีซวนกับชิงอีตื่นเต้นมาก ทั้งคู่มองดูจานอาหารด้วยสายตาเปี่ยมความสุข
ครอบครัวนั่งล้อมวงกันรอบโต๊ะเล็กๆ แบ่งปันอาหารกันอย่างอบอุ่น ซีซวนและชิงอีกินอย่างเอร็ดอร่อย ทุกคนหัวเราะพูดคุยกันด้วยความสุข ลืมความเหนื่อยล้าจากการย้ายบ้านไปชั่วขณะ
"แม่คะ หนูชอบไก่นึ่งมากเลยค่ะ" ชิงอีกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง
ซีซวนพยักหน้าเห็นด้วย "อร่อยจริงๆ ครับแม่"
เธอมองลูกทั้งสองคนด้วยความอิ่มใจ อดคิดไม่ได้ว่า แม้ชีวิตจะยังมีปัญหาที่ยากลำบาก แต่การได้อยู่กับครอบครัวที่รักและสนับสนุนก็ทำให้มีพลังที่จะก้าวต่อไป
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เด็กๆ ก็เข้านอนอย่างมีความสุขในห้องนอนใหม่ ลู่เจียวห่มผ้าให้พวกเขาและจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนปิดประตูห้อง เมื่อแน่ใจว่าลูกๆ หลับสนิทแล้ว เธอจึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะในห้องนั่งเล่น ขณะที่แม่เฒ่าฟู ลุงเฉิน และป้าโจวนั่งคุยกันเบาๆ
ลู่เจียวถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อหันมาสนใจเงินในมือที่เหลืออยู่ เธอเริ่มนับเงินด้วยความกังวลหลังจากใช้จ่ายหลายอย่างในช่วงนี้ จากเงินทั้งหมดที่มี จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปหนึ่งเดือนที่หกสิบหยวน ให้สินน้ำใจคนขับรถเช่าไปเล็กน้อย และจ่ายค่าของใช้จำเป็นสำหรับการย้ายบ้าน รวมแล้วเงินที่เหลืออยู่ตอนนี้มีเพียงประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบหยวน
จำนวนนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายค่ารักษาของกัวหยางอีกสองสัปดาห์ ที่ต้องการเงินอีกสองร้อยแปดสิบหยวน และเงินนี้ยังต้องจ่ายเป็นค่าวัตถุดิบในการทำอาหารไปขายอีก หากจะทำเผือกทรงเครื่องไปขาย ต้นทุนก็ต้องเพิ่มขึ้น เพราะเธอไม่สามารถไปขุดเอาเผือกมาจากบนเขาได้อีกแล้ว
ลู่เจียวมองเงินในมือด้วยความหนักใจ ค่ารักษากัวหยางเป็นสิ่งสำคัญ เธอจะต้องหาเงินมาให้ได้ การย้ายเข้าเมืองและการเริ่มต้นใหม่ยังมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกหลายอย่าง
ลุงเฉินที่สังเกตเห็นสีหน้าของหลานสะใภ้เอ่ยขึ้นเบาๆ "อาเจียว อย่าเพิ่งเครียดมากนักเลย พวกเรายังช่วยกันหาเงินได้อีก"
ป้าโจวพยักหน้าเห็นด้วย "ใช่จ้ะ เราค่อยๆ คิดหาทางไปด้วยกันก่อน ยังพอมีเวลา"
คำพูดของลุงเฉินและป้าโจวทำให้ลู่เจียวรู้สึกดีขึ้น เธอพยักหน้าและยิ้มบางๆ "ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเราตลอดมานะคะ"
แม่เฒ่าฟูที่นั่งเงียบอยู่นานก็ลูบหลังเธอเบาๆ "พวกเราก็มาสู้ไปด้วยกันนะ ยายจะช่วยเลี้ยงหลานให้อย่างเต็มที่ อาเจียวจะได้มีแรงไปหาเงินมาจ่ายค่ารักษาอาหยาง ยายก็คงช่วยได้เท่านี้แหละ"
ลู่เจียวพยักหน้า "ค่ะ ฉันจะไม่ยอมแพ้ จะหาทางให้พี่หยางได้รักษาตัวจนหายดีค่ะ"
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?