ตอนที่ 1. หมาป่าแห่งบอสตัน

เวลาเที่ยงคืนกว่าของคืนวันศุกร์ เสียงวุ่นวาย รวมทั้งสัญญาณของรถพยาบาลที่กำลังพาคนเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้นิโคลัส เกรย์ หรือหมอเกรย์ ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลที่ขอย้ายตนเองมาประจำการและเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบจอดรถและตรงไปยังโรงพยาบาลด้วยความกังวล

หมอหนุ่มอายุสามสิบสามปี สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร เขามีนัยน์ตาสีเขียวมรกต ที่สาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอด้วยกันหรือพยาบาล ต่างก็หลงไหลนัยน์ตาสีเขียวสวยคู่นี้

และเพราะเขาเป็นหมอที่ยังคงสถานะโสด แถมไม่สนใจที่จะมีความรัก ทำให้เขาได้รับฉายา The Wolf แห่งโรงพยาบาลนี้

เกรย์เร่งฝีเท้าของตนเองให้ไวมากขึ้น หลังจากที่ได้รับข้อความรายงานพร้อมขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าพยาบาลให้เข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์ฉุกเฉินในวันนี้ 

ปกติแล้วเขามักจะเข้าเวรในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์

แต่เพราะต้องเดินทางไปเยี่ยมบิดาอีกเมืองหนึ่งจึงทำให้เขาลางานไปหนึ่งวัน

  “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีคนเจ็บมากขนาดนี้” เขาถามพยาบาลที่กำลังช่วยนักฉุกเฉินการแพทย์ [1] ย้ายคนเจ็บลงนอนบนเตียง

“ขอบคุณพระเจ้าที่หมอมาช่วยวันนี้ ไม่งั้นพวกเราแย่แน่เลยค่ะ พวกแกงก์รถซิ่งน่ะสิค่ะ แข่งกันแล้วเกิดอุบัติเหตุห้าคันรวด ทำให้ตอนนี้หมอไม่พอค่ะ” พยาบาลคนนั้นตอบก่อนจะรีบเข็นคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินไป

หมอเกรย์กำลังจะหันหลังตามเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แต่เสียงกรีดร้องของคนที่อยู่บริเวณนั้นทำให้เขาต้องหันกลับมามอง

“ห้ามช่วยมัน มันต้องตาย มันทำให้พี่กูตาย มันต้องตายตามพี่กู” เสียงตะโกนออกมาจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างกายมีเลือดเปรอะเปื้อนเป็นหย่อมๆ เขาถือมีดที่ใบมียาวราวหนึ่งฟุต กวัดแกว่งไปทั่ว ใกล้ ๆ กันมีพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนกำลังพยายามช่วยกันพูดให้เด็กหนุ่มคนนั้นวางมีดในมือลง

ขณะที่ชายถือมีดยืนขวางบริเวณหน้ารถพยาบาลที่กำลังเตรียมนำร่างคนเจ็บที่เหลือลงมาเพื่อส่งห้องฉุกเฉิน นักฉุกเฉินการแพทย์สองคนต่างยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับตัวไปไหน เพราะกลัวว่าเด็กหนุ่มจะกวัดแกว่งมีดในมือมาโดนตัวเอง

เกรย์เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไปทันที 

“เฮ้ นายจะทำอะไร” หมอหนุ่มส่งเสียงทักออกไป

“หลบไป กูจะแทงมัน มันต้องตาย” เด็กหนุ่มตะโกนด้วยออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“นายใจเย็นก่อน คนเจ็บต้องได้รับการรักษาด่วน นายฆ่าเขาไม่ได้ ไม่งั้นนายต้องติดคุก” เกรย์พยายามโน้มน้าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“กูไม่สน พี่กูตายไปแล้ว มันก็ต้องตายเหมือนพี่กู” เด็กหนุ่มพูดไปร้องไห้ไป เขาเอามือข้างที่ว่างขยี้ศีรษะตนเอง 

เกรย์ยกมือให้สัญญาณกับพนักงานรักษาความปลอดภัยให้อยู่เฉย ๆ เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มคนนั้น 

“นายชื่ออะไร หมอชื่อเกรย์ ทำงานที่นี่มาสามปีแล้ว พี่ชายนายคงไม่ดีใจแน่ ๆ ที่น้องชายต้องติดคุก เมื่อก่อนหมอเคยสูญเสียคนสำคัญไปเหมือนกัน แต่รู้ไหม เพราะการสูญเสียครั้งนั้นทำให้หมอเป็นหมอได้ทุกวันนี้ นายคิดว่ามันคุ้มไหมกับการเอาอนาคตของนายไปจบลงที่คุก” หมอหนุ่มเกลี้ยกล่อม เท้าของเขาค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เด็กหนุ่มที่ตอนนี้เดินวนไปมาตรงหน้ารถพยาบาลยังบ่นพึมพำไม่หยุด เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเผลอ เขาก็เข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว ใช้มือทั้งสองข้างจับมือเด็กหนุ่มชูขึ้นไปบนฟ้า  ยื้อยุดฉุดกันไปมาอยู่นาน 

ฉึก!!

เสียงที่ดังออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง 

เด็กหนุ่มปล่อยมีดในมือตนเองทันที หมอเกรย์ยกมือซ้ายมาจับที่สีข้างด้านซ้ายของตนเองที่ตอนนี้เลือดสีแดงสดไหลออกมาเปื้อนชุดหมอสีเขียวเป็นวงใหญ่

“ขอโทษ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั่งใจ” เด็กหนุ่มละล่ำละลักเอ่ยออกมา และรีบเข้ามาช่วยหมอเกรย์ห้ามเลือด พนักงานรักษาความปลอดภัยจึงรีบจับตัวเขาไว้ และก็พอดีกับที่รถตำรวจมาถึงโรงพยาบาล ตำรวจจึงเข้ามาจับตัวเด็กหนุ่มไป

“อย่าทำอะไรเขา ขอผมคุยกับเขาก่อน” หมอเกรย์รีบบอก

“หมอไปทำแผลก่อนเถอะครับ ถ้าหมออยากคุยกับเด็กนี่ พรุ่งนี้ค่อยไปหาเขาที่สถานีตำรวจก็ได้” ตำรวจบอก เขาพยักหน้ายอมรับและรีบเดินไปที่รถฉุกเฉิน

“เอ้า! รีบนำคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินสิ มัวรออะไรอยู่” เกรย์บอกกับนักฉุกเฉินการแพทย์ที่ยังคงเผลอยืนเหม่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงของเกรย์ทำให้พวกเขาสองคนได้สติ รีบเข็นคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินทันที

เกรย์เดินกลับไปที่ห้องฉุกเฉิน เลือดที่เปื้อนบนเสื้อที่สวมอยู่ขยายวงกว้างขึ้นทุกที

“โอ้! พระเจ้า! หมอเกรย์ เกิดอะไรขึ้นคะ” หมอลินดาที่ประจำห้องฉุกเฉินอีกคนเดินปรี่เข้ามาหา เธอเพิ่งเสร็จสิ้นจากการผ่าตัดคนเจ็บคนแรกที่ถูกส่งตัวเข้ามาก่อน ทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหมอเกรย์

“ถูกแทงน่ะ ทำแผลนิดหน่อยน่าจะไหว” หมอหนุ่มวินิจฉัยตนเองเสร็จสรรพ

“มาค่ะ มาตรงนี้ฉันจะทำแผลให้คุณก่อน เลือดออกเยอะแบบนี้ยังมาทำเก่งอีก” ลินดารีบประคองหมอหนุ่มไปนอนลงบนเตียง

“ลินดา ผมว่าคุณไปช่วยในห้องผ่าตัดเถอะ ผมไหว ส่งพยาบาลมาทำแผลให้ผมก็พอ คนเจ็บยังมีอีกเยอะ ผมไม่เป็นไร” หมอเกรย์หันไปบอกเพื่อนร่วมงาน

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่ นี่ถือเป็นคำสั่ง”

“ค่ะ หัวหน้า” ลินดาเดินออกไปก่อนจะบอกให้พยาบาลมาช่วยหมอหนุ่ม

โชคดีที่แผลไม่ลึกมาก แต่ต้องเย็บแผล หมอหนุ่มให้พยาบาลช่วยเย็บแผลบริเวณสีข้าง ใช้เวลาไปนานพอสมควร

“หมอเกรย์คะ คนเจ็บที่อาการไม่มาก ไม่ต้องผ่าตัด ทยอยเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินหลายคนเลยค่ะ หมออยู่ห้องผ่าตัดกันหมด พยาบาลไม่พอ เราจะทำไงดีคะ” ระหว่างที่ทำแผลใกล้เสร็จ พยาบาลอีกคนก็มาถามเขาด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ไหม” เขาถาม

“คงไม่ได้ค่ะ เด็กรถซิ่งพวกนั้นไม่น่าจะมีประกันสุขภาพ โรงพยาบาลอื่นคงไม่รับ หมอเกรย์ก็รู้นี่คะ”

“งั้นเดี๋ยวผมออกไปดู ขอเวลาสิบนาที” เขาบอกพยาบาลคนนั้นให้ออกไปดูแลคนเจ็บไปก่อน

“คุณเร่งมือหน่อย ผมต้องไปดูคนเจ็บข้างนอก” หมอเกรย์บอกให้พยาบาลเร่งมือและฉีดยาแก้ปวดให้เขาหนึ่งเข็ม

ในฐานะของหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน แผลแค่นี้เขาทนไหว เด็กข้างนอกนั้นสิที่น่าเป็นห่วง เขาไม่อยากให้ใครต้องสูญเสียเช่นเดียวกับเขา

กว่าจะจัดการคนเจ็บจนเสร็จเรียบร้อยก็ล่วงเข้าสู่เช้าวันใหม่ ทั้งหมอและพยาบาลของแผนกฉุกเฉินต่างอ่อนล้าไปตาม ๆ กัน หมอเกรย์ต้องรีบนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัวเพราะรู้สึกหน้ามืดขึ้นมากระทันหัน

“หมอคะ โอเคไหม” เรย์ พยาบาลคนหนึ่งรีบเข้ามาถามและช่วยประคองเขาให้นั่งลง

“ผมโอเค แค่หน้ามืดนิดหน่อย” 

“นี่ไม่หน่อยแล้วละค่ะ หมอเป็นคนเจ็บเหมือนกัน ตอนนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ฉันว่าหมอไปพักก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าหมอล้มอีกคน อีอาร์ต้องแย่แน่ค่ะ” เธอบอกอย่างเป็นห่วง 

“ผมรอหมอรอบเช้ามาก่อนแล้วกัน จะได้ฝากเคสคนไข้สามสี่คนที่น่าเป็นห่วง ผมจะไปพักสักหน่อยที่ห้องพักนะ หมอเวรเช้ามา ไปตามผมด้วย” เขาสั่ง

“งั้นฉันจะไปเอาโกโก้ร้อน ๆ มาให้นะคะ”

“ขอบคุณ” เขาตอบก่อนจะลุกขึ้นและค่อย ๆ เดินไปที่ห้องพักแพทย์ซึ่งอยู่ไม่ไกล

“เฮ้ เรย์” พยาบาลอีกคนเอ่ยเรียกเพื่อน

“อ้าว มอลลี่ มีอะไร?” เรย์ตอบรับขณะเดินไปที่ห้องพักที่มีครัวเล็ก ๆ ในนั้น

“ทำไมหมอเกรย์ถึงสนใจพวกแกงก์ซิ่งพวกนั้นด้วย แถมยังไม่ยอมไปพักทั้งที่ตนเองบาดเจ็บ ยอมอยู่ช่วยจนอ่วมขนาดนี้” มอลลี่ถามด้วยความสงสัย

“เธอมาใหม่เลยยังไม่รู้อะไร หมอเกรย์น่ะ ก่อนที่จะมาเป็นหมอที่นี่ แกเคยเกเรอยู่กับแกงก์ซิ่งมาก่อน จนคนที่แกรักเหมือนพี่ชายต้องมาตายเพราะถูกคู่อริทำร้าย ทำให้แกเปลี่ยนมาตั้งใจเรียนหมอ เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาเสียคนที่รักไปเหมือนแก หมอเกรย์เลยเลือกอยู่อีอาร์กะดึก”

“วีรกรรมในสามปีที่หมอเกรย์ทำงานที่นี่ เล่าไปสามวันก็ไม่จบ แกเป็นหมอที่เก่งและถึกมาก ไม่งั้นคงไม่ได้เป็นหัวหน้าและได้ฉายาว่า ‘หมาป่าแห่งบอสตัน’ ทั้งที่อายุน้อยแบบนี้หรอก”

“แล้วหมอเกรย์มีแฟนยัง” มอลลี่ถาม

“ไม่มีหรอก แกเป็นหมาป่าจำศีล แต่ก็เป็นขวัญใจสาว ๆ ทั้งโรงพยาบาล แหม! ใครจะไม่สนใจ ทั้งหล่อ รวย แถมเป็นหมอศัลย์มือหนึ่งของบอสตัน อนาคตนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย อุ้ย! ตายแล้ว! มัวแต่คุยเพลิน มอลลี่ ฉันขอตัวก่อนนะ หมอเกรย์รอโกโก้อยู่” เรย์รีบบอกหลังจากนึกขึ้นได้ว่ามัวแต่คุยเพลิน

เกรย์ได้รับคำสั่งจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้พักสามวันเนื่องจากบาดแผลที่เขาได้รับ เขาจึงกลับห้องพักและนอนหลับไปจนถึงดึกของคืนนั้น เพราะหักโหมช่วยคนเจ็บเมื่อคืนวานจึงทำให้บาดแผลอักเสบ เขารู้สึกตัวว่าเป็นไข้ต่ำ ๆ จึงรีบกินยาแก้ปวด แล้วนอนพัก

เช้าวันรุ่งขึ้นเกรย์ไปที่สถานีตำรวจ เขาต้องการคุยกับเด็กหนุ่มคนนั้น ลึก ๆ แล้วเขามั่นใจว่าเด็กหนุ่มไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่ตกใจเมื่อเผลอแทงเข้าที่สีข้างของเขา แต่กว่าจะได้เจอผู้ต้องหาคนนั้นก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ตอนนี้เกรย์นั่งอยู่ในห้องสำหรับเยี่ยมผู้ต้องหา

“หวัดดี” เกรย์ทักทายเด็กหนุ่ม

“หวัดดีครับ” เด็กหนุ่มขานรับ

“เป็นไงบ้าง นายโอเคไหม”

“พอไหวครับ” เสียงที่ตอบกลับมาแผ่วเบา ไร้ซึ่งความมั่นใจ

“หมอเสียใจด้วยนะเรื่องพี่ชาย” 

“ขอบคุณครับ”

“แล้วจะทำไงต่อ”

“ก็คงขึ้นศาล แล้วจะเป็นไงต่อ ผมก็คิดไม่ออก” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก

“เธออายุยังน้อย ยังมีเวลาเริ่มต้นใหม่ได้ อย่าให้พี่ชายเธอต้องตายเปล่า พี่เธอคงไม่อยากให้น้องต้องมาหมดอนาคตในคุกหรอก เธอว่าไหม” 

“หมอมีสิทธิ์อะไรมาสอนผม หมอก็พูดได้สิ หมอไม่ได้มีชีวิตเหมือนพวกเรา หมอทำงานดี มีเกียรติ แล้วหมอจะมาเข้าใจอะไรพวกเรา” เด็กหนุ่มพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ

“ทำไมหมอจะไม่มีสิทธิ์สอน เธอรู้ไหม ก่อนที่หมอจะมาเป็นหมอเช่นทุกวันนี้ หมอเคยผ่านจุดที่เธอเป็นอยู่ แต่ตั้งแต่วันที่หมอต้องเสียคนที่รักและเคารพ คนที่เป็นทุกอย่างของหมอ คนที่ยอมรับ เชื่อมั่น และปกป้องหมอ คนที่แม้ตัวเองกำลังจะตายแต่ก็ยังเป็นห่วงหมอ คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดกับหมอคือให้หมอเริ่มต้นใหม่ อย่าอยู่ที่ตรงนั้นอีก”

“การสูญเสียในวันนั้นเป็นแรงผลักดันให้หมออยู่ตรงนี้ในวันนี้ หมอรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่เลวร้ายจนแก้ไขไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยั้งมือไว้ตอนที่พลาดแทงหมอหรอก จริงไหม เชื่อหมอ ถ้าเธอติดคุก หลังออกจากคุกมาแล้ว ให้เริ่มต้นใหม่”

“ถ้าใครไม่ต้อนรับ เธอไปหาหมอ แล้วเธอจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ แต่เธอจะตัดสินใจยังไง หมอบังคับไม่ได้ แต่หมอจะรอเธอ” พูดเสร็จแล้ว เกรย์ก็มองเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไป

เชิงอรรถ

[1] นักฉุกเฉินการแพทย์ หรือ Paramedic หนึ่งในทีมกู้ชีพขั้นสูง เป็นคนที่ทำงานนอกโรงพยาบาล เน้นการรักษาคนไข้นอกโรงพยาบาล ณ จุดเกิดเหตุ หรือบางส่วนอยู่ในส่วนรับแจ้งเหตุ และ สั่งการ

ความต่างของ Paramedic และอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ หรือทีมกู้ภัยคือ Paramedic เรียนมาเฉพาะทาง เน้นการช่วยเหลือทางแพทย์ขั้นสูงเป็นหลัก ส่วนอาสาฉุกเฉินการแพทย์และกู้ภัยเป็นการช่วยเหลือขั้นพื้นฐาน ทำหน้าที่ช่วย Paramedic และปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ