“ไท่เว่ย์ข้าสวี่กงเหมย ขออภัยที่ล่วงเกิน” ถึงแม้ซุ่มเสียงที่เปล่งออกมาจะมาจากความไม่ตั้งใจสักเท่าไรนัก ด้วยคิดว่านางแค่ยืนอยู่บนต้นไม้เงื้อก้านธนูของนาง แล้วเขานั่นล่ะที่ปีนขึ้นมาหักธนูของนาง เป็นเขาด้วยซ้ำที่ต้องขอโทษ แต่ถ้าหากนางทำกริยาไม่ดีต่อเขา ท่านพ่อเกิดรู้ขึ้นมาก็อาจจะใช้เงื่อนไขข้อนี้เข้าอ้างไม่ยอมทำธนูอันใหม่ให้นางเป็นแน่
“ข้าไม่ถือสา” จางหย่งตอบรับคำขอโทษด้วยน้ำเสียงเย็น
“ขอบคุณไท่เว่ย์” หลี่หลิวอวี่รีบประสานมือก้มหัวลงคำนับ พลางก็เหลือบตามองเห็นศิษย์น้องของตนยืนคอแข็งมองไปทางอื่น จึงรีบวางฝ่ามือกดศีรษะของเด็กสาวโน้มลงมาเสียด้วยกัน
“ถ้าเช่นนั้น ขอเชิญไท่เว่ย์” เด็กหนุ่มก้าวขาออกเดินนำหน้า ตามด้วยจางหย่ง เสิ่นเฉิง ทิ้งท้ายด้วยคนที่เดินไปก็มองทอดอาลัยคันธนูที่หักในมือไป
“นี่...ข้าทำคันธนูเก่งนะ ให้ข้าทำให้อีกเป็นสิบอันก็ได้” กงเหมยเหลือบตามองคนที่เดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งด้วยแววตาประหลาดอันเต็มไปด้วยคำถาม “ข้า...เสิ่นเฉิง เป็นองค์รักษ์ของไท่เว่ย์” องครักษ์หนุ่มรีบแนะนำตัวเองให้กับกงเหมยได้รู้ชื่อแซ่ ทว่าเด็กสาวก็ทำเพียงพยักหน้ารับรู้และไม่ได้ตอบรับคันธนูหลายสิบอันที่เขาว่า
…
ระยะทางสี่เค่อกับอีกหนึ่งก้านธูปไม่เพียงพอให้คนทั้งสี่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินเท้ามายังจวนหมื่นพิษ
“ข้าหยางเจ๋อ คารวะไท่เว่ย์” ชายหนุ่มร่างสันทัดประสานมือคำนับบุรุษร่างกายกำยำทันทีที่หลี่หลิวอวี่นำเขาก้าวพ้นธรณีประตูจวนมา ก่อนที่จะเหลือบตามองเด็กสาวที่แสดงสีหน้าบึ้งตึงจนผิดสังเกต ในมือกำเอาคันธนูรูปทรงผิดแผกจากปกติไว้แน่น
“เชิญท่านทางนี้ขอรับ” หยางเจ๋อผายมือเชื้อเชิญจางหย่งให้เดินไปยังจวนหลัก สถานที่ซึ่งลี่อินใช้เป็นจวนรักษาผู้ไข้
“ท่านอาจารย์ขอรับ ไท่เว่ย์มาถึงแล้วขอรับ” หยางเจ๋อเดินนำหน้าเข้าไปกระซิบลงข้างหูลี่อิน ใบหน้าเหี่ยวย่นพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่หยางเจ๋อจะส่งสัญญาณให้ศิษย์น้องคนรองพาไท่เว่ย์พร้อมองครักษ์ของเขาเข้ามา
“ข้าเซวียนจางหย่งคารวะปรมาจารย์ลี่อิน” จางหย่งก้มศีรษะลงคำนับชายอาวุโสตรงหน้าพร้อมกับเสิ่นเฉิง “ข้าเสิ่นเฉิงคารวะท่านปรมาจารย์” กงเหมยปรายตามองชายหนุ่มที่ดูจะเอาแต่เดินตามตอนนี้ดูเป็นการเป็นงานขึ้นราวกับคนละคน ก่อนที่ประตูสองฝั่งจะปิดลงด้วยมือของหยางเจ๋อ
“ท่านพี่ ท่านจะรีบปิดประตูทำไม ข้าอยากดูท่านพ่อตรวจเขา แข็งแรงราวกับม้าป่าเยี่ยงนี้จะเจ็บป่วยได้ก็คงจะเป็นแต่เพียงโรคสำออยเท่านั้น” กงเหมยเอ่ยตำหนิคนที่หักธนูของนางเป็นสายยาว ก่อนที่หลี่หลิวอวี่จะใช้ฝ่ามือปิดลงกับริมฝีปากที่ขยับไม่ถูกเวลาของนาง พร้อมกับทำเสียง ‘ชู่’ ห้ามปรามไม่ให้นางพูด
“ศิษย์พี่ทำอะไรเนี่ย...!” เด็กสาวปัดฝ่ามือที่ยกขึ้นมาปิดปากของนาง
“ท่านเป็นถึงไท่เว่ย์ เจ้าไม่กลัวอาญาบ้างหรือไร? พูดออกไปเช่นนั้น หัวกระเด็นเอาง่าย ๆ เลยนะ” กงเหมยมองขวางพลางก็ค้อนให้กับคนหลังประตูอย่างไม่ชอบใจสักเท่าไร
“ก็ข้าไม่ชอบเขานิ เกลียดเขาเสียด้วยซ้ำ” น้ำเสียงปั้นปึ่งของนางทำให้หลี่หลิวอวี่มองกลอกลูกตากลับไปข้างบน
“เจ้าไปเกลียดเขาด้วยเรื่องอันใดอาเหมย” หยางเจ๋อที่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ เอ่ยถามเมื่อนึกถึงสายตาชิงชังของศิษย์น้องที่มีต่อไท่เว่ย์
“เขาหักคันธนูอันโปรดของข้าท่านพี่ หักด้วยมือเดียว ข้าบอกให้พี่รองหักขาเขา พี่รองกลับขอโทษเขา ข้าไม่ชอบใจเลยเจ้าค่ะ ข้าเกลียดเขา” หยางเจ๋อได้ยินก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พานให้สีหน้าของเด็กสาวบูดบึ้งกันไปยกใหญ่
ในขณะที่หน้าประตูมีเรื่องถกเถียงกันอย่างสนุกสนาน หลังประตูก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าด้านหน้าจวน
…
“ท่านช่างละม้ายกั๋วกงยิ่งนัก หากตอนนั้นเขาหนุ่มเท่าท่านในตอนนี้ ข้าก็คงคิดว่าเขาได้พบยาอายุวัฒนะอย่างที่เขาเคยกล่าวทิ้งท้ายไว้กับข้าก่อนที่จะจากไปแล้วเป็นแน่” ซุ่มเสียงเนิบนาบเอ่ยพูด นัยน์ตามองลึกเข้าไปยังใบหน้าของชายหนุ่ม
“ตั่วฟางซื่อ ตั้งแต่จำความได้ข้าก็ไม่เคยได้เห็นหน้าของท่านพ่อเลยเพียงสักครั้ง ทว่าภาพเขียนก็หามีบันทึกไว้ไม่ ข้าได้แต่เฝ้ามองเงาผ่านแต่ผืนน้ำแล้วได้แต่คิดแคลงใจ แต่พระกรุณาของฝ่าบาทและไทเฮาทำให้ข้าเติบโตขึ้นท่ามกลางความรัก” จางหย่งพูดน้ำเสียงเรียบ แฝงไว้ซึ่งความปวดร้าวอย่างที่ลี่อินสัมผัสได้ไม่ยาก
“ข้าขออภัยไท่เว่ย์ ข้าที่ไม่เคยได้รู้เรื่องราวนี้มาก่อน จึงทำให้ท่านกังวลใจ” ชายอาวุโสพูด ก่อนที่จะเอ่ยเรียกหยางเจ๋อเข้ามาในจวน
“อาเจ๋อ เจ้ามาเป็นลูกมือช่วยข้า ข้าจะตรวจร่างกายไท่เว่ย์”
“ขอรับท่านอาจารย์” หยางเจ๋อขานรับอย่างว่องไว ก่อนที่จะพูดทิ้งท้ายไว้กับอาเหมยและหลี่หลิวอวี่ผู้เป็นศิษย์น้องของเขา “ความรู้สึกเช่นนั้นเขาเรียกว่า โกรธ เค้าไม่เรียกว่าเกลียดหรอก เจ้าแค่โกรธเดี๋ยวก็หาย” หยางเจ๋อพูดจบก็หายเข้าจวนไป
ทิ้งให้เด็กสาวพึมพำกับตัวเองด้วยความคิดหัวชนฝาโดยมีหลี่หลิวอวี่อยู่ข้าง “ข้ารู้จักหรอกน่า ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด นั่นแหละ ท่านนั่นแหละท่านพี่ที่ดูคนไม่เป็น”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?