หลังจากมื้ออาหาร จางหย่งตั้งตาคอยการมาของตั่วฟางซื่อด้วยใจระทึก เมื่อนึกถึงเข็มแหลมพวกนั้นปักลงบนกายก็ขนลุกซู่ชูชันไปทั้งตัว
“หนาวเหรอขอรับไท่เว่ย์” เสิ่นเฉิงรู้ว่าอาการที่คนตรงหน้ากำลังเป็นหาได้มาจากอากาศไม่ แต่คนตัวโตกลัวเข็มจนขนลุกต่างหาก ถึงแม้จะเป็นถึงไท่เว่ย์ก็หาจะข้ามผ่านความกลัวที่ฝังลึกในจิตใจไปได้
ไม่นานเกินรอ ตั่วฟางซื่อก็ปรากฏกายพร้อมกับหยางเจ๋อ เสิ่นเฉิงกระวีกระวาดเปิดประตูชานออกต้อนรับ
คนตัวโตใจสั่นด้วยรู้ว่าคนทั้งสองนี้มีลิ่มแหลมที่เขาไม่ไว้ใจมาด้วย ทว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้ถอดใจทั้งที่อยากถอดจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้
“ให้ไท่เว่ย์ใส่ชุดนี้ทุกครั้งที่ฝังเข็มนะขอรับ” หยางเจ๋อยื่นห่อผ้าสีขาวสะอาดมากให้เสิ่นเฉิงรับไป ก่อนที่เขาจะคลี่ห่อผ้าออกแล้วนำชุดออกมาส่งให้ไท่เว่ย์ได้เปลี่ยนใส่ จากนั้นจางหย่งก็กลับมานั่งลงบนตั่งโดยทอดสายตาคมมองมุ่งไปข้างนอกหน้าต่างอย่างไม่หันมาเหลียวมองโต๊ะเบื้องหลัง ซึ่งตอนนี้หยางเจ๋อได้นำห่อผ้าที่ห่อหุ้มลิ่มแหลมขนาดต่างกันสองถึงสามขนาดเลยออกมาเรียงรายกันเพื่อตระเตรียมการรักษา
“เชิญไท่เว่ย์นอนราบลงขอรับ ทำตัวสบาย ๆ” น้ำเสียงแผ่วเบาทำเอาชายหนุ่มตัวโตสะดุ้งตัวโหยง แล้วรีบทำตามในทันทีที่ได้สติ
จากนั้นมือเหี่ยวย่นก็เปิดเสื้อออกจนเห็นแผ่นอกกว้างอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น ดวงตาฝ้าทอดมองก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างครุ่นคิด “กล้ามเนื้อแน่นขนาดนี้เข็มจะลงลึกถึงจุดหรือไม่นะ” คำพึมพำสายหนึ่งของลี่อินทำเอาจางหย่งร้อนวาบไปทั้งตัว เผลอตาเหลือบมองขนาดของลิ่มบนโต๊ะ พลันก็เบิกตาวาวด้วยหัวใจในอกสั่นจนไม่มองสู้ลิ่มเล็กแหลมพวกนั้น จึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“รีบรักษาเถอะตั่วฟางซื่อ” ซุ่มเสียงเข้มแข็งเด็ดขาดออกปากสั่งทั้งที่เบือนหน้าหนี
“ขอรับ”ลี่อินพยักหน้ารับ จากนั้นเขาจึงเริ่มวางมือคลำลงหาจุดซฺวีหลี่ ตรงบริเวณใต้หัวนมข้างซ้าย เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของจงชี่โดยดูจากจังหวะการเต้น จากนั้นจึงเริ่มที่จะใช้เข็มแต่ละขนาดลนเปลวไฟแค่พอร้อนแล้วฝังลงยังจุดถันจง (膻中) ตรงกลางอก เพื่อรักษาปอด ลำคอและกระตุ้นการหายใจ อีกส่วนไปยังหัวใจและซานเจียวเพื่อส่งไปทั่วทั้งร่างกาย โดยไปทางหัวใจจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทางซานเจียว และจะลงล่างไปยังตันเถียน (丹田) คือ จุดชี่ไห่ (气海) เสริมเหวียนชี่และจากชี่ไห่ส่งลงขาทางเส้นเท้าเส้าหยางหมิง เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบหายใจ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย เป็นการช่วยเสริมระบบให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
คนตัวโตนอนนิ่งให้เข็มปักอยู่เช่นนั้นกว่าหนึ่งเค่อ ก่อนที่จะถูกนำออกแล้วเช็ดสมานผิวหนังด้วยสมุนไพรที่สกัดได้จากเสวี่ยเหลียนกว่อ
“เสร็จแล้วขอรับไท่เว่ย์ รู้สึกเช่นไรบ้างขอรับ” ชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนตั่ง ครั้นก็ยืดแขนขาออกไปข้างหน้า ทั้งก็เอียงคอไปซ้ายขวา ก่อนที่จะออกปากว่า “เบาตัวดี”
ใบหน้าคมเข้มอมยิ้มแต่น้อยครั้นก็หันมาพูดทางผู้ให้การรักษาพร้อมกับประสานมือ “ขอบคุณตั่วฟางซื่อ ข้ารู้สึกสบายตัวขึ้นมากทีเดียว จากนี้ไปข้าเป็นหนี้ท่าน”
“หามิได้ขอรับไท่เว่ย์ เป็นหน้าที่ของฟางซื่อทุกคนที่ต้องรักษาผู้ไข้จนสุดความสามารถขอรับ” จางหย่งพยักหน้าสองสามครั้ง ก่อนที่หันไปหาเสิ่นเฉิงพร้อมทั้งยังออกท่าทางกระฉับกระเฉงอยู่ไม่เลิก จนเสิ่นเฉิงต้องพยักหน้า ออกปากว่า “ข้ารับรู้แล้วขอรับไท่เว่ย์!”
“การรักษาแบบฝังเข็มจะทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ หรือทั้งหมด 10 ครั้ง ภายใน 1 เดือนขอรับ จะสลับกับการขับเคลื่อนปราณด้วยไท่จี๋เฉฺวียน และในขณะเดียวกันท่านยังคงต้องดื่มสมุนไพรต่อเนื่องกันจนกว่าพิษที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับเคลื่อนออกจนหมด” น้ำเสียงนุ่มของชายอาวุโสกล่าว ก่อนที่จะเอ่ยปากลากลับจวน
…
“ไท่เว่ย์แข็งแรงอยู่แล้ว น่าจะพ้นพิษไข้ได้ในเร็ววันนะขอรับท่านอาจารย์” หยางเจ๋อเอ่ยตามความคิดของตนเองระหว่างทางเดินกลับ
“พิษจากดอกหมื่นพิษเข้าลึกเข้าสู่ไขกระดูกเป็นระยะเวลานาน มิใช่ง่ายที่จะรักษาด้วยขนานใดขนานหนึ่ง ตัวยาสมุนไพรที่ต้องดื่มก็ต้องถูกปรับเปลี่ยน อีกทั้งข้าวปลาอาหารก็ต้องเข้ากับการไหลเวียนของระบบชี่ จวนเราต้องรับรองเขาอีกนานทีเดียวล่ะหยางเจ๋อ เจ้าจงทำตัวให้คุ้นชินเสียเถิด ข้ารู้ว่าเจ้ารักในพื้นที่ของตนเอง ทว่าที่นี่เป็นจวนพยาบาลคนแปลกหน้ามักแวะเวียนเพื่อมารักษาเสมอ เช่นนั้นเจ้าจงทำใจยอมรับเสียเถิด อย่างน้อยก็เพื่อตัวเจ้าเองศิษย์ข้า” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยสั่งสอนลูกศิษย์ เพราะตามนิสัยของหยางเจ๋อแล้วเขามักเข้ากับผู้คนได้ยากกว่าผู้เป็นศิษย์น้องเช่นหลี่หลิวอวี่ที่มีจิตใจเป็นมิตรต่อผู้อื่นเสมอ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?