ตอนที่ 10 เล่นของสูง

ภรันภพจะรู้ตัวไหมว่าสายตาของเขากำลังมีปัญหา เจ้านายท่านนี้ปิดตายหัวใจมาแล้วเจ็ดปี ทุกวันคืนทุ่มเทเวลาให้กับงาน มีช่วงสองปีหลังที่เขาประสบความสำเร็จแล้วค่อยเจียดมาใส่ใจให้ความสำคัญแก่ลูกชาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือต่อให้มีผู้หญิงสวยโดดเด่นเข้าคิวกันอยากเป็นภรรยาคนใหม่ของภรันภพมากแค่ไหน เจ้านายหนุ่มก็ไม่ชายตาแล แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครไม่ทราบ ก็แค่ครูกระจอกๆ ธรรมดา หน้าตาสวยแล้วมีประโยชน์อะไร?

สถานะไม่ทัดเทียมไม่พอ ยังเหมือนจะเป็นตัวถ่วงความเจริญของภรันภพมากกว่า เปรียบเทียบกับเธอยังสู้ไม่ไหวเลย เอาแค่ข้อแตกต่างที่ว่าเธอช่วยเลี้ยงน้องภีมมาตลอดหลายปีก็กินขาดทิ้งห่างหล่อนไม่เห็นฝุ่นแล้ว ถ้าคุณผู้ชายไม่เอาสาวไฮโซมาทำเมีย ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดก็คือเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้น

ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่ดุจดาวครุ่นคิดเพ้อพก ล่วงเลยมาถึงสิบแปดนาฬิกาก็หมดเวลาสำหรับสร้างสรรค์ผลงาน เด็กๆ ทุกคนเก็บอุปกรณ์เครื่องมือวาดภาพ ไม่รอให้ลูกชายเอ่ยปากขอภรันภพก็จูงมือน้องภีมเดินไปหาจารวี

เขารอจังหวะหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาจึงคุยด้วย “น้องภีมอยากไปเลี้ยงข้าวขอบคุณ”

คนโดนชวนย่นคิ้วก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาทรงหยดน้ำทั้งเรียวทั้งน่ารักหยีโค้ง “เด็กดี วันนี้คุณครูนัดกับเพื่อนไว้แล้วน่ะสิ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ไว้วันหลังเปลี่ยนให้คุณครูเลี้ยงหนูบ้างดีกว่า กลับบ้านดีๆนะ เจอกันวันจันทร์”

“กลับบ้านดีๆ คืนนี้ถ้าเบื่อก็โทรมาแต่ห้ามเกินสามทุ่มเพราะพี่จาดีไม่ให้จอมนอนดึก” จอมทัพเห็นสีหน้าภูวฤทธิ์ผิดหวังก็เห็นใจจึงชวนให้ติดต่อหากัน ครั้นเพื่อนใหม่พยักหน้าตกลงเขาก็โล่งอก แต่ก็แอบเสียดายนิดๆ ที่พลาดของอร่อย

เด็กๆ คุยกันภรันภพฟังอยู่เงียบๆ จนจบ กระนั้นเขาก็ยังไม่พาลูกชายกลับทันที “มีนัดสำคัญเหรอ?”

เขารู้สึกสงสารลูกหน่อยๆ จึงลองถามดูอีกรอบ ถ้าไม่รีบมากก็หวังว่าเธอจะตามใจเจ้าตัวเล็กบ้านเขาสักหน่อย

จารวีมุมปากกระตุกสีหน้าเริ่มบ่งบอกว่าอึดอัด เลี้ยงข้าวขอบคุณอะไรนักหนาสองสามครั้ง ครั้งเดียวก็เกินพอ แล้วเธอก็พึ่งจะสังเกตว่าภรันภพพูดจาเป็นทางการน้อยลง เมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นยังมีหางเสียงทำห่างเหินอยู่เลย

“ใช่ค่ะ เป็นงานวันเกิดของเพื่อนสนิทฉัน” วันนี้เป็นวันเกิดของยุวดี พวกเธอมีเวลาก็จะไปสนุกด้วยกันบ้าง

“ไปกี่โมง ถ้าไม่รีบก็ไปกินข้าวก่อนได้” ขณะพูดชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกตะหงิดสักนิดว่ามีตรงไหนผิดปกติ

แต่คุณครูสาวหัวอุ่นขึ้นมาหน่อยๆ เอาอีกแล้วสิ! คุณพ่อท่านนี้กำลังอาการเก่ากำเริบ เริ่มจะเป็นมนุษย์โลกหมุนรอบตัวเองอีกแล้ว ก็ไม่ทราบว่าเขาจะมาอะไรกับเธอนักหนา จะเลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไร ไม่กลัวคนอื่นเข้าใจผิดหรือไง?

“ไปก่อนสองทุ่มค่ะ แต่เดี๋ยวทุ่มครึ่งฉันก็ต้องแต่งตัวออกจากบ้านแล้ว”

“ตอนนี้พึ่งจะสิบแปดนาฬิกา ยังมีเวลา ไปเถอะ รถจอดอยู่ข้างนอก”

เหลือเวลาหนึ่งชั่วโมงไม่ถึงกับต้องรีบร้อน แต่สาวๆ แต่งตัวไปเที่ยวกลางคืนทีไม่ได้สวมเสื้อผ้าก็ออกไปเตร็ดเตร่ได้เลย ต้องแต่งหน้าทำผมบลาๆ เธอเองก็รักสวยรักงามอยู่นะ นี่เขายังจะเบียดเบียนไม่ยอมให้ได้ประทินโฉม

ขณะสองคนซักไซ้ไล่เลียงกัน ไม่มีใครสังเกตเห็นสีหน้าแข็งทื่อของดุจดาวทางด้านหลัง หล่อนรับกระเป๋ากับอุปกรณ์วาดภาพของน้องภีมไปถือ ทำเหมือนตัวเองเป็นแม่ของเด็กน้อย แต่กลับต้องมายืนรอฟังภรันภพกึ่งชวนกึ่งบังคับหญิงอื่นให้ไปรับประทานอาหารด้วย ความริษยาทำเอาดวงตาหล่อนแทบจะลุกไหม้ เพียงห้าวันภรันภพก็โดนหลอกล่อแล้ว

ที่ร้านอาหาร สุดท้ายจารวีก็มาเพราะจอมเผด็จการภรันภพไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ ร้านใหม่วันนี้เป็นร้านหม่าล่า หม้อหยินหยาง จารวีกับน้องชายชอบกินเผ็ด ส่วนสองพ่อลูกแน่นอนว่ากินไม่ได้จึงแบ่งเป็นน้ำซุปเห็ดกับซุปหม่าล่านรก ดุจดาวไม่ได้ติดตามมาด้วย ภรันภพให้หล่อนกลับไปก่อน เวลานี้จึงมีแค่พวกเขาสี่คนตามเคย

“อร่อยไหม ไว้คราวหน้าพวกเราลองพาแม่มากินด้วย” จารวีเช็ดปากที่เลอะพริกจนแดงให้น้องชาย

ด้านข้างกันภูวฤทธิ์ที่ลองกินเผ็ดบ้างหน้าแดงก่ำ จารวีรีบขอนมอีกแก้วมาให้เขาดื่มพลางอมยิ้มขัน

“เดี๋ยวพ่อหนูโทรศัพท์เสร็จกลับมาต้องตกใจแน่” เธอปล่อยให้เขาลองกิน ไม่รู้จะโดนดุไปด้วยหรือเปล่า

ภูวฤทธิ์ยกแก้วนมดื่มอึกๆ ให้เรียบร้อยก่อนปะป๊ากลับมา เขาเห็นจอมทัพเอร็ดอร่อยกับหม่าล่าเผ็ดมากเลยอยากลอง ไม่คิดว่ามันจะแสบร้อนจนลวกลิ้นขนาดนี้ แต่ว่าก็อร่อยดีเหมือนกัน

พอภรันภพกลับมาทุกอย่างก็อยู่ในความสงบ ทั้งสามคนช่วยกันรักษาความลับไม่ให้เขารู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น

ครบหนึ่งชั่วโมงถึงได้แยกย้ายกับสองพ่อลูกสำเร็จ เมื่อกลับมาถึงบ้านทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กลิ่นหม่าล่า จารวีไม่ได้กินเยอะเพราะต้องเตรียมท้องไปกินต่อกับเพื่อนจึงได้อาบน้ำทันที ตอนเธอลงมาแม่ก็ได้ถามขึ้น

“ใครมาส่งเหรอจาดี” ธาราเห็นรถยนต์คันนี้สามครั้งแล้ว ครั้งแรกครั้งสองก็คือช่วงต้นสัปดาห์ เมื่อเช้าไปจ่ายตลาดได้ยินพ่อค้าคนหนึ่งถามเธอว่าเจ้าของรถเป็นใคร คนในหมู่บ้านนี้ชอบติดตามชีวิตคนอื่นเป็นกิจจะลักษณะ เรียกหยาบหน่อยก็คือชอบสอดรู้สอดเห็น โดยเฉพาะเมื่อมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับลูกสาว ผู้ชายในหมู่บ้านล้วนอยากสืบเสาะข่าวกันทั้งนั้น

เธอก็จะไม่อะไรด้วยหรอก ถ้าพ่อค้าไม่บอกมาว่ารถยนต์คันนั้นมีมูลค่าสูงมาก เป็นรถหรูที่ไม่ได้พบเห็นทั่วไป คันละหลายสิบล้าน คนขับต้องไม่รวยธรรมดา เธอเองก็ใคร่รู้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงมาส่งลูกๆ ของเธอ

จารวีไม่ปกปิด เธอเล่าเรื่องตอนจอมทัพช่วยภูวฤทธิ์ให้มารดาฟัง เล่าจนจบก็พบว่ามารดายิ้มมุมปากแปลกๆ

“จาจะไปสายแล้วแม่ คืนนี้จาไม่กลับบ้านจะค้างกับยุ ล็อกบ้านช่องให้ดีๆ ล่ะ เดี๋ยวขากลับซื้อขนมมาฝาก”

ไม่รอให้มารดาซักไซ้จารวีก็สวมรองเท้าออกจากบ้านไป พอดีกับที่เนตรชนกขับรถมารับ ธารามาแอบส่องดู พอเห็นว่าเป็นเพื่อนของลูกสาวก็วางใจลง แต่ก็อดสงสัยในตัวเจ้าของรถหรูไม่ได้

ภรันภพคนนี้ต้องคิดไม่ซื่อกับยัยหนูแน่ๆ

สองทุ่มที่ผับใหญ่เปิดเพลงเสียงดัง สามสาวสลัดคราบคุณครูเจี๋ยมเจี้ยมเรียบร้อยแต่งตัวชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปเที่ยวกันตามประสาสาวโสดเปิดโหมดให้จีบ เนื่องจากช่วงเรียนมหาวิทยาลัยทำงานยุ่งหัวใจเลยยังว่าง พูดไปแทบไม่มีใครเชื่อว่าพวกเธอไม่เคยมีแฟน แต่นั่นก็คือความจริง ทั้งจารวี เนตรชนกและยุวดี จนป่านนี้ยังไม่เจอคนถูกใจสักที

“มีแฟนไปทำไมในเมื่อมีเพื่อนก็สนุกอยู่แล้ว พวกเราอายุยังน้อยไม่ต้องรีบ ฉันรักพวกแกมากนะ” เจ้าของวันเกิดเริ่มเพ้อคล้องแขนกอดคอเพื่อนสาวทั้งสอง ไม่บ่อยนักจะมีเวลาออกมาเที่ยว พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งที เธอกะจะดื่มให้หัวทิ่มเลย

“ฮาฮ่า ดูสิยัยจาดี ยัยยุเมาแล้ว วันเกิดครบยี่สิบสามปีนี่แหละที่นางจะได้ผัว”

“ไม่ๆ ฉันไม่เอาผัว พวกแกใครมีผัวก่อนคนนั้นต้องเลี้ยงมื้อใหญ่เพื่อนเป็นการชดใช้” ยุวดีแน่ใจว่าเธอไม่แพ้แน่

จารวีเริ่มหน้าแดงแล้วเช่นกัน “ยัยยุนี่แหละจะได้เลี้ยงเพื่อน นางมีผู้มาจีบเยอะจะตาย ที่แคมป์ก็ตั้งหลายคน”

“แหมๆ ทำมาพูดดี มีผู้มาจีบเยอะแค่ไหนก็ไม่เท่าของแกคนเดียวหรอกจ้ะจาดี ผู้ชายที่แคมป์เทียบคุณภรันภพม่ายด้ายยยย”

“นั่นสิ เขากำลังจีบแกแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่พาไปเลี้ยงข้าวบ่อยๆ หรอก ฟันธง! คนนี้แหละผัวแก”

จารวียกแก้วเหล้ากรอกปากเพื่อน “หุบปากไปซะ ผัวเผลออะไร เขาจีบฉันที่ไหน เขาชวนกินข้าวเพราะน้องภีมนู้น”

“แล้วถ้าเขาจีบแกขึ้นมาล่ะ แกจะเล่นด้วยหรือว่าไม่เล่น”

“เอ่อ…” จารวีตกอยู่ในภวังค์มึนงง คนอย่างภรันภพจะมาจีบเธอเนี่ยนะ ระดับเขาหากต้องมีเมียใหม่ก็คงฐานะใกล้เคียงกัน เธอเป็นแค่เด็กไม่กล้าเล่นของสูงหรอก ไม่กล้าคิดไปถึงขั้นนั้นเด็ดขาด

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ