ใครแข็งแกร่งคนนั้นก็อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ทุกสังคมเหมือนกันไม่เว้นแม้แต่พวกคนรวย เหนือฟ้ายังมีฟ้า ใช้อำนาจรังแกคนตามใจชอบเป็นอย่างไรทุกคนในที่นั้นได้ประจักษ์แก่สายตาแล้ว เพราะเรื่องวิวาทของเด็กๆ ลุกลามไปถึงขั้นยกเลิกความร่วมมือทางธุรกิจ ภรันภพก็คือคนที่ไม่ควรไปมีเรื่อง ทว่าวันนี้มีอยู่หนึ่งคนที่พองขนใส่เขาไปแล้วถึงสองครั้ง
จารวีเงียบปากลดการมีตัวตนให้มากที่สุด เขาตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์โลกหมุนรอบตัวเองที่เธอจะต่อกร เขาน่ากลัวเกินไป
ทางภรันภพคงมาดสุขุมก่อนจะพูดกับผู้อำนวยการโครงการ “ผมให้ทุนเอง เดี๋ยวเลขาจะมาจัดการ ขาดเท่าไหร่ให้เพิ่มเป็นสองเท่า ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เพิกเฉยบกพร่อง ใครรับผิดชอบตรงนี้ก็ให้ออกไปซะ ผมไม่อยากให้คนห่วยแตกมาดูแล”
“ครับคุณภรัน ผมจะจัดการเปลี่ยนสตาฟที่รับผิดชอบจุดนี้และจะทำเรื่องงบสนับสนุนแคมป์ส่งให้เร็วที่สุดครับ”
คนที่เดิมไม่อยากยุ่งกลัวติดร่างแหต่างพากันหน้าถอดสี พวกเขานึกถึงหน้าที่ตัวเองตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว
ถ้ารู้ว่าเรื่องจะจบหักมุม พวกเขาคงยื่นมือไปแยกเด็กๆ แล้วเอาความดีความชอบด้วย
บรรยากาศคืนสู่ความสงบ จารวียังมีอคติหลงเหลือในใจเพราะเรื่องราวก่อนหน้าจึงไม่ได้แสดงท่าทีซาบซึ้งนักหนาที่เขาไม่หน้ามืดตามัวไล่เธอกับน้องออกไป เขาทำก็เพื่อลูกชายตนเองเหมือนกัน ฉะนั้นถือว่าไม่ติดค้าง
“ขอบคุณนะจ๊ะเด็กดี” จารวีกล่าวกับเด็กชายตาแป๋วที่มองมายังเธอ แต่ไม่พูดกับพ่อเด็กสักคำก็พาน้องชายเดินไป
วันนี้เกิดเรื่องไม่หยุดหย่อนดูแล้วน่าจะไม่ใช่วันดี เธออยากพาจอมทัพกลับไปพักผ่อนที่บ้าน แต่น้องชายบอกว่าตัวเองไหว เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย แค่เด็กๆ ตีกันไม่มีทางรุนแรงเท่าผู้ใหญ่ จารวีจึงแต่งเนื้อแต่งตัวให้เจ้าจอมแสบใหม่แล้วปล่อยเขาไปวาดภาพของตนเองต่อ
ส่วนเธอเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงงานที่ได้รับมอบหมาย รุ่นพี่ซึ่งเป็นหัวหน้าสตาฟกลุ่มแจ้งว่าให้เธอไปรับผิดชอบกลุ่มที่สี่ นั่นคือกลุ่มที่มีน้องชายกับเด็กน้อยหน้าตาบ้องแบ้ว แถมเลื่อนให้เธอขึ้นเป็นหัวหน้าด้วย
พักเที่ยงเพื่อนสาวสองคนรู้เข้าต่างก็ยินดี เพราะจารวีเป็นครูใหม่ไม่มีเส้นสายอะไร เธอไปอยู่กับครูคนอื่นในกลุ่มแรกซึ่งมีแต่พรรคพวกโรงเรียนเดียวกันจึงไม่ค่อยได้อยู่ชี้แนะเด็กๆ วาดภาพ กลับโดนใช้ไปทำอย่างอื่นที่ไม่จำเป็น พวกเธอมารู้ทีหลังว่ามันเป็นอย่างนี้ยิ่งโมโห ดีว่าโชคเข้าข้าง ในที่สุดจารวีก็หลุดพ้นการเป็นมือเป็นเท้าแล้ว
“ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี จาดีเอ๊ย! ฉันว่าแกกับคุณภรันเป็นบุพเพสันนิวาสกันแน่ ไม่งั้นไม่เทียววนเวียนมาเกี่ยวข้องกันไม่เลิกแบบนี้” เนตรชนกเริ่มจินตนาการถึงเรื่องราวในนิยาย ประธานเผด็จการกับคุณครูสาว นี่มันบทคลาสสิก
“บุพเพอาละวาดสิไม่ว่า ตั้งแต่เจอเขาฉันนี่ซวยซ้ำซ้อนไม่เลิก” ให้คิดว่าเป็นพรหมลิขิต จารวีรับไม่ได้อย่างแรง
“คิกๆ ก็ไม่แน่นะ ในนิยายก็เริ่มจากไม่ถูกกันก่อนแล้วค่อยมีจุดเปลี่ยนให้ตกหลุมรัก เขาหล่อและรวยขนาดนั้น แกใจแข็งไม่ลุ่มหลงไหวเหรอ ฉันว่าผู้หญิงแทบทั้งหมดในหอประชุมนี้อยากเป็นแม่เลี้ยงน้องภีมใจจะขาดแล้ว”
“ยกเว้นฉันไว้คนหนึ่งจ้ะ” ไม่ใช่เธอไม่ชอบเด็กน้อยน่ารักคนนั้น แต่เธอไม่ชอบพ่อของเด็กน้อย แม่เลี้ยงอะไรเหลวไหลที่สุด
เพื่อนสาวพากันหัวเราะเย้าพลางคาดเดาอนาคตไปต่างๆ นาๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าบริเวณนั้นมีกลุ่มครูสาวจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังได้แอบฟังและนึกหมั่นไส้ความมโนของพวกเธอ
“ฟังสิ บ้าผู้ชายจนสมองกลับแล้วมั้ง คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงฝันเฟื่องเกินตัว คุณภรันเขาคงจะชายตาแลอยู่หรอก”
“นี่ถ้าไม่เป็นเพราะน้องชายหล่อนช่วยคุณชายน้อยหัวแก้วหัวแหวนของคุณภรันไว้ มีเหรอหล่อนจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าวิทยากรประจำฐานที่สี่ โชคดีเฉยๆ ก็ยังกล้าใฝ่สูง”
“เฮอะ! ก็ยังดีกว่าใครบางคนละเนอะ เด็กตีกันยังไม่มีปัญญาห้าม สุดท้ายก็โดนไล่ออกจากแคมป์” ยุวดีบ่นขึ้นลอยๆ
“นี่ยุวดี เธอหมายความว่าไง” คุณครูสาวในกลุ่มด้านหลังรู้จักยุวดีจึงได้ถามตรงๆ
“ไม่รู้สิ หนูพูดกับพี่แก้วเหรอคะ เมื่อกี้เหมือนจะไม่มีชื่อพี่สักหน่อยเลยนะ”
“เธอ!” กาบแก้วสอนโรงเรียนเดียวกับยุวดี สู้รบกันมาตลอดเพราะยุวดีมาทีหลังแต่โดดเด่นกว่า เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่ารุ่นน้องน่าขัดหูขัดตาคนนี้กำลังว่าเพื่อนของเธอซึ่งอยู่ในกลุ่มที่โดนปลดออก ไม่มีชื่อนั่นก็ยังเจตนาหาเรื่อง
“อะไรคะ? อย่าลืมนะคะว่าเพื่อนพี่ออกไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าพี่กินปูนร้อนท้องมาหาเรื่องหนูอีก หนูไม่รับประกันนะ”
กาบแก้วรู้ว่างานนี้สำคัญหล่อนจึงจำต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ไม่ให้มีชะตากรรมเหมือนเพื่อน อีกอย่างยุวดีมีมิตรสหายที่กำลังได้รับอานิสงค์ความดีความชอบ ไม่คุ้มที่จะเอาตัวลงไปเกลือกกลั้ว
หลังรับประทานอาหารกลางวัน จอมทัพเห็นจารวีมาประจำอยู่กลุ่มที่สี่ก็ดีใจรีบไปหาเธอ “พี่จาดี มาได้ยังไงครับ”
“พี่มารับผิดชอบดูกลุ่มของพวกเราน่ะสิ เฮ้อ! เจ้าจอมแสบ ครั้งนี้ถึงแม้ว่าเราจะมีเรื่องวิวาทเพราะความถูกต้อง แต่พี่เคยสอนแล้วใช่ไหมว่าความรุนแรงมันไม่ใช่ทางออกเดียวของปัญหา ไม่ใช่สิ่งแรกที่ควรทำ มีเรื่องต้องมาบอกพี่เดี๋ยวพี่จะจัดการให้เอง ต่อไปถ้าเลี่ยงลงไม้ลงมือได้ก็เลี่ยง เข้าใจไหม?”
“ครับ” จอมทัพรับปากพี่สาวแต่สมองคิดไปแล้วว่าหากเขาไปฟ้องเธอ พี่จะต้องเล่นใหญ่กว่าเป็นสองเท่า คงไม่ใช่แค่เด็กตีกัน จะกลายเป็นพี่กับพ่อแม่ของอีกฝ่ายแทน พี่สาวเขาเหมือนมีเหตุผล แต่พออารมณ์ขึ้นก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ปะ ฉะ ดะ แหลก จนแม่ค้าร้างตลาดยังต้องยกธงขาวมาแล้ว
“อืม! เด็กดี ไปวาดต่อเถอะ เลิกแคมป์แล้วจะพาไปกินของอร่อยๆ ก่อนกลับบ้าน” จารวีลูบผมนุ่มฟูของน้องชายอย่างเอ็นดู เธอได้เลื่อนตำแหน่งตั้งแต่วันแรกมันดีมาก ทว่าก็มีเรื่องให้ไม่สบายใจอยู่เช่นเดียวกัน
คนที่วิวาทด้วยวันนี้แต่ละท่านไม่ใช่ธรรมดาเลย มันจะไม่เป็นไรจริงเหรอ? เธอรักความยุติธรรม แทบจะรับไม่ได้เมื่อโดนใครก็ตามเอาเปรียบ ทว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วก็ผ่านเลยไป เธอล่วงเกินคนรวยห้าครอบครัวรวมถึงภรันภพ เหล่าพวกคนมีเงินที่เปี่ยมอำนาจบดขยี้คนทั่วไปอย่างเธอได้ง่ายดายเหมือนบี้มด
อุตส่าห์เรียนจบได้งานมั่นคงเงินเดือนสูงทำ อุตส่าห์ยินดีที่เส้นทางชีวิตเริ่มต้นไม่เลว กลับต้องมาเจอตอใหญ่เข้า
“เฮ้อ!!”
หญิงสาวถอนหายใจจากนั้นเริ่มรวบรวมสมาธิ ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้ ระหว่างนี้ก็อาศัยความสงบสยบคลื่นลม น้องชายเธอออกหน้าช่วยลูกชายเขา ก็หวังว่าจะพออาศัยบารมีของเขาคุ้มกะลาหัวได้บ้าง ไม่น่าจะแย่เกินไปหรอกมั้ง?
กิจกรรมช่วงบ่ายดำเนินไปจนถึงสิบแปดนาฬิกา จารวีช่วยแนะนำเด็กน้อยหกขวบคนหนึ่งเรื่องไอเดียที่เขาอยากวาดเสร็จก็ประกาศให้เด็กๆ ฐานที่สี่เริ่มเก็บของเตรียมตัวกลับ ผู้ปกครองนั่งรอรับบุตรหลานอยู่รอบนอกที่กั้น ถึงเวลาก็ทยอยออกจากหอประชุมใหญ่ หัวหน้ากลุ่มอย่างจารวีขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน จากนั้นก็เริ่มเก็บของ
“พี่จาดี จอมมาแล้วครับ” น้องชายเก็บอุปกรณ์วาดภาพลงในกล่องเรียบร้อยแล้วเดินมาพร้อมส่งเสียงสดใส
จารวีมองไปก็เห็นว่าเจ้าตัวดีพาคนมาด้วยสองคน เป็นเด็กหน้าตาบ้องแบ้วผิวขาวเหมือนไข่ต้มกับผู้ใหญ่ซึ่งแผ่กลิ่นอายเย็นสุดขั้วเหมือนกับโรงน้ำแข็งเคลื่อนที่ สองคนนี้เป็นพ่อลูกกันจริงดิ๊!
“ปะป๊า” ภูวฤทธิ์ตัวน้อยเขย่ามือของบิดา ทำสายตาทวงบางสิ่งบางอย่าง
ภรันภพโดนลูกเร่งเร้าก็หันไปพูดกับจารวี “วันนี้น้องชายของคุณปกป้องน้องภีม เพื่อตอบแทนน้องภีมอยากเลี้ยงข้าวคุณกับน้องสักมื้อ”
ไม่ง่ายเลยที่ลูกชายจะเปิดใจพบปะกับคนนอก เขามีนิสัยเก็บตัวเงียบไม่ค่อยพูด กับพ่อแท้ๆ ยังนับคำได้ แต่วันนี้อยากชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอกันไปกินข้าว ไม่ตามใจก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
“ไปสิคะ” จารวีไม่เล่นตัว เธอก็มีเหตุผลให้รีบตกลงปลงใจ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?