ตอนที่ 12 โดนล่วงเกินก็ยังไม่ถือสา

“เธอจะร้ายกับฉัน? ฮึๆ ล้อเล่นอะไรอยู่” เขาก็อยากลองดูว่าเธอจะร้ายกับเขายังไง?

นอกจากปากคอเราะร้ายไม่เห็นว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะมีฤทธิ์เดชอะไรอีก เสียงหัวเราะหยันทำให้จารวีเริ่มอารมณ์เดือดแข่งกับอุณหภูมิแอลกอฮอล์ในร่างกาย วงแขนเรียวออกแรงดึงต้นคอชายหนุ่ม พลิกรวดเดียวให้เขาล้มลงไปนอน ภรันภพอึ้ง เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่แต่กลับโดนเด็กสาวหน้าแดงกดอยู่บนเตียง เมื่อครู่เพราะตั้งตัวต่อต้านเธอไม่ทันใช่ไหม?

“คิดว่าฉันไม่กล้าทำคุณเหรอ อย่าคิดจะรังแกฉันเด็ดขาด ฉันไม่ยอมให้ใครกดอยู่ข้างล่างแน่นอน”

จารวีไม่ยอมจริงๆ ถึงขั้นพลิกตัวมาคร่อมภรันภพแล้วจับข้อมือเขาตรึงเอาไว้ เล่นซะชายหนุ่มมาดขรึมเปี่ยมภูมิฐานเสียอาการ สีหน้าเย็นชาแปรเปลี่ยนคล้ายทั้งตกใจระคนมีกระแสพลังงานบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ปะทุอยู่ใต้สะดือ

“จาดี นี่เธอกำลังจะทำอะไร เธอคิดจะใช้กำลังขืนใจฉันเหรอ?จะข่มเหงฉัน? เธอรับผิดชอบไหวแน่นะ?”

หญิงสาวคละเคล้าด้วยกลิ่นเหล้าราคาถูกโน้มลงมาใกล้ใบหน้าหล่อเหลา ใกล้มากเสียจนลมหายใจจ่อรดผิวแก้ม

ภรันภพไม่คาดเธอจะเอาจริง จึงคิดจะยกมือผลักออกแต่แล้วเขากลับนอนนิ่งไม่ได้ขยับมือตามที่คิด จวนเมื่อศีรษะผมยาวสลวยโงนเงนตกลงมา เกิดความเงียบขึ้นทันที เนิ่นนานเขาถึงค่อยผ่อนปรนลมหายใจเฮือกใหญ่พลิกเอาแม่ตัวดีออกไป ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งลูบหน้าเรียกสติก่อนจะถามตัวเอง เมื่อครู่นี้เขาเป็นอะไร รู้สึกผิดหวังเพราะยัยเด็กเจ้าปัญหาไม่ได้ล่วงเกินตนงั้นเหรอ?

“จาดี ตื่นมาพรุ่งนี้หวังว่าเธอจะจำการกระทำของตัวเองได้นะ”

เช้าวันใหม่ค่อนไปทางสายโด่งพระอาทิตย์สาดแสงจ้า เสียงนกแว่วมาแผ่วเบา ไม่มีเสียงรถขายของหรือเสียงน้องชายกับแม่คุยกัน ในที่สุดจารวีก็งัวเงียลืมตาตื่น หัวเธอปวดหนึบๆ ราวกับมันกำลังแยกผ่าเป็นสองซีก ท้องไส้ปั่นป่วนชวนให้อยากอาเจียน แต่ทว่าอาการเหล่านั้นกลับเป็นเรื่องรองเมื่อจารวีมองไปรอบๆ

“ที่ไหนกันเนี่ย?” ไม่ใช่คอนโดฯ ของยุวดี ทำไมเธอถึงมาฟื้นอยู่ในห้องนอนของใครก็ไม่รู้ เมื่อคืนจำได้แค่ว่าดื่มจนเมา นอกจากนั้นก็เลือนรางไม่ปะติดปะต่อ หรือว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว

ก่อนอื่นจารวีเปิดผ้าห่มดูว่าเธอนอนเปลือยอยู่หรือเปล่า พอพบว่าตนสวมเดรสกระโปรงสั้นสีดำตัวเดิมของเมื่อวาน ไม่มีร่องรอยถูกถอดก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง ยังดีที่รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ เธอก็ไม่ใช่พวกหัวโบราณคร่ำครึแต่อย่างใด ไม่ได้สนจะซิงหรือไม่ซิง ทว่าการมีอะไรกับคนแปลกหน้าเสี่ยงต่อผลเสียที่จะตามมาหลายอย่าง ที่เธอกลัวที่สุดคือโรคและการแอบถ่ายแบล็คเมล์ พวกผู้หญิงตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้มักจะโดนคนชั่วคุกคามอย่างนั้น

ประตูห้องถูกเคาะขึ้นตอนนี้เอง เดิมจารวีคิดว่าเป็นชายโฉดสักคนมาข่มขู่เธอ กลับกลายเป็นว่าคนที่มาคือเด็กน้อย

“อ๊ะ! น้องภีม” ยังไม่ทันที่จะได้คุยกัน ภูวฤทธิ์ก็งับปิดประตูฉึบ สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวบนเตียงนอน

ไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมประคองแก้วน้ำดื่มและยายื่นให้จารวี “คุณครูครับ กินยาแก้ปวดหัวครับ”

“อ๋อจ้ะ…เด็กดี คุณครูขอบคุณหนูมากเลยนะ” จารวีรับเม็ดยามายัดใส่ปากตามด้วยดื่มน้ำลงไป กลิ่นเหล้าจางลงหน่อย แต่สภาพครึ่งผีครึ่งคนของเธอไม่น่าดูเลย เหมือนกำลังกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับอนาคตของชาติ

ทั้งใจหนึ่งก็ไม่อยากเดาต่อว่าที่นี่ที่ไหน ถ้ามีเด็กน้อยคนนี้จะหมายความอะไรได้อีกนอกจากว่าเป็นบ้านของภรันภพ ภูวฤทธิ์ยังคงจับจ้องมาที่เธอ คล้ายว่าเขามีคำถาม

“อะแฮ่ม! แค่กๆ คือว่าคุณครูก็ไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยๆ หรอกนะจ๊ะ แต่เมื่อวานเป็นวันเกิดของคุณครูยุก็เลยดื่มมากไป”

“เข้าใจได้ครับ ปะป๊าก็ดื่มเหล้าบ้างเหมือนกัน เป็นผู้ใหญ่แล้วดื่มได้”

“ฮาฮ่า ใช้จ้ะ คุณครูโตแล้วดื่มได้ ไว้หนูอายุครบยี่สิบปีค่อยลองดื่มนะ ตอนนี้หนูยังเด็ก ดื่มนมให้ตัวสูงๆ ก่อน”

ภูวฤทธิ์รับคำ เด็กน้อยวิ่งออกจากห้องอีกครั้ง กลับมาคราวนี้เขาเอาผ้าเย็นมาให้จารวี เธอโดนปรนนิบัติดูแลอย่างใส่ใจก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี กระนั้นก็บีบแก้มสีชมพูอ่อนของเด็กชายเบาๆ

“เฮ้อ! น้อมภีม หนูน่ารักเกินไปแล้ว ถ้าคุณครูมีลูกก็อยากได้น่ารักๆ แบบหนูสักคน”

เจ้าจอมแสบที่บ้านก็น่ารักดีอยู่ แต่ไม่ได้นุ่มนิ่มน่ากอดเหมือนน้องภีม เจ้าจอมทัพเป็นลูกหมาน้อยที่กำลังซน ต่อหน้ากระดิกหาง ลับหลังแอบสร้างเรื่องจนปวดหัว จะว่านิสัยเหมือนพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่ สงสัยจะได้มาจากเธอเอง ส่วนน้องภีมเหมือนกระต่ายเชื่องๆ ตัวหนึ่ง มองดูดีๆ แล้วก็แอบน่าสงสารอยู่บ้าง ชวนให้อยากปกป้องทะนุถนอม

“ถ้างั้นคุณครูก็มาเป็นแม่ของน้องภีมสิครับ”

“แค่กๆ วะ…ว่าไงนะ แค่ก!” จารวีสำลักน้ำลายหน้าดำหน้าแดง จู่ๆ เด็กน้อยตัวเท่าเมี่ยงคนนี้พูดจาอะไร

ครั้นมองไปยังทิศทางหนึ่งก็ต้องหน้าเจื่อนอับอายกว่าเดิม เพราะมีผู้ชายตัวสูงกำลังกอดอกพิงขอบประตูมองมา

“มะ…ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” จารวีกลัวเขาจะเข้าใจผิด หญิงสาวละล้ำละลักรีบแก้ตัว

“อาบน้ำเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้ลงมากินข้าว” ภรันภพไม่ซักไซ้ให้มากความก็พาลูกชายออกจากห้องให้จารวีทำธุระ

เขามองเจ้าลูกชายตัวน้อยระหว่างลงบันไดไปข้างล่าง อดไม่ได้ที่จะถาม “ลูกชอบคุณครูจาดีมากเลยเหรอ?”

ภูวฤทธิ์พยักหน้าตอบว่า “ครับ ชอบคุณครูสวยแล้วก็ใจดี จอมทัพมีพี่สาวที่ดีมาก ภีมก็อยากได้พี่สาวแบบนี้ แต่คุณครูอยากมีลูกน่ารักเหมือนภีมสักคน งั้นภีมก็จะให้คุณครูเป็นแม่ของภีมแทน”

ความคิดของลูกชายทำเอาภรันภพเกือบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เจ็ดปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักครั้งที่น้องภีมจะเป็นแบบนี้ เจอกันเพียงไม่นานกลับมีอิทธิพลต่อลูกชายของเขามากกว่าพ่อแท้ๆ เสียอีก หล่อนทำได้ยังไง?

ด้านจารวีหลังอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดวอร์มซึ่งน่าจะพึ่งซื้อมาใหม่ก็ลงมาด้านล่างไปร่วมรับประทานอาหารเช้ากับสองพ่อลูก เธอพึ่งจะได้เช็คโทรศัพท์และเข้าใจความเป็นมาทั้งหมด เมื่อคืนภรันภพไปรับเธอกลับมา แต่ทำไมเขาถึงไปรับล่ะ?

ชายหนุ่มมือถือไอแพดกำลังอ่านข่าวบางอย่างอยู่ พอจารวีมาแม่บ้านก็นำอาหารขึ้นโต๊ะ เป็นข้าวต้มกับเครื่องเคียง

“อยากกินอะไรก็บอกมาได้ เดี๋ยวจะให้แม่ครัวทำให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกินแค่นี้ก็พอแล้ว เอ่อ…คือว่าเมื่อคืน ทำไมคุณถึงไปรับฉันล่ะคะ”

เป็นน้องภีมที่ตอบคำถามแทน “ดึกแล้วแต่คุณครูยังไม่กลับบ้าน ภีมกับจอมทัพเป็นห่วง ปะป๊าก็เลยไปดูให้ กลัวคุณครูจะนอนข้างถนน นอนข้างถนนไม่ปลอดภัย ถ้าคุณครูดื่มเหล้าเมาก็มานอนที่บ้านนี้ดีกว่า”

อา นี่สินะสาเหตุที่ภรันภพโผล่ไปรับเธอแถมยังทำให้เนตรชนกส่งข้อความมาไต่สวนยืดยาว เพราะเด็กๆ นี่เอง

ภรันภพยังคงมองจอไอแพดแต่ไม่ได้อ่านตัวอักษรบนหน้าจอสักคำ เขากำลังรอว่าเธอจะถามเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่าแต่จารวีก็ไม่ได้ถาม เอาแต่คุยกับลูกชายของเขาเรื่องไปเที่ยวเล่นที่บ้านของเธอวันหยุดนี้

“ถ้าพ่อของหนูอนุญาตก็ไปได้จ้ะ” ทุกอย่างต้องอยู่ในการตัดสินใจของผู้ปกครอง ปกติเธอไม่ค่อยอยากยุ่งกับพวกคนต่างชนชั้นเพราะยิ่งใหญ่โตปัญหายิ่งจัดการยาก แต่ลูกชายเขาน่ารักมาก เธอเลยลองถามดูก่อน

“อนุญาต สองวันนี้ฝากเขาไว้กับเธอ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอด ตอนเย็นฉันจะไปรับกลับเอง”

“รับทราบค่ะ” พ่อเขาอนุญาตขนาดนี้ยังจะปฏิเสธยังไงได้อีก

“เมื่อคืนเธอเมามาก ใครหิ้วไปไหนก็ไปกับเขาหมด ถ้าเจอคนไม่ดีป่านนี้เกิดเรื่องแล้ว ทีหลังก็ดื่มให้มันพอดี”

โดนดุเสียดื้อๆ จารวีกัดช้อนข้าวต้มลอบบ่นในใจ ทำตัวเหมือนพ่อเราอีกคนซะแล้ว

ภรันภพละสายตาจากจอไอแพดมองไปยังเธอ จารวีชะงักแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว รู้สึกว่าสายตาคมกริบของเขามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

แล้วจะมองทำไม? หรือหน้าเธอมีอะไรติดอยู่ ข้องใจก็เอ่ยปากมาเลยสิคะ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ