ตอนที่ 1 ความทรงจำที่แตกสลาย

ความว่างเปล่า... คือสิ่งแรกที่เจียงซินรับรู้ได้ มันเป็นสภาวะที่นิ่งสนิทจนน่าประหลาด ไม่มีการเคลื่อนไหวของอากาศจากเครื่องปรับอากาศ ไม่มีความสั่นสะเทือนจากการจราจรบนถนน ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกถึงการมีอยู่ของโลกภายนอก มีเพียงจังหวะการหายใจของเธอเองที่แผ่วเบา

จากนั้น... ความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามา มันเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่ขมับทั้งสองข้าง ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วจนเหมือนมีใครบางคนกำลังใช้คีมเหล็กบีบกะโหลกศีรษะของเธอเอาไว้ ความรู้สึกปวดตุบ ๆ แล่นพล่านไปทั่วจนทำให้สติพร่าเลือน

เปลือกตาของเธอหนักอึ้งราวกับถูกทับด้วยหินสองก้อน แต่เธอก็รวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีพยายามฝืนเปิดมันขึ้นช้า ๆ

ภาพแรกที่ปรากฏในม่านสายตาที่ยังคงพร่ามัวคือคานไม้สีดำสนิทที่พาดผ่านอยู่เหนือศีรษะ บนคานไม้นั้นเต็มไปด้วยหยากไย่และร่องรอยการกัดกินของปลวก เมื่อไล่สายตาที่ปรับโฟกัสได้ดีขึ้นต่อไป ก็พบกับหลังคาที่ทำจากดินและฟางอัดแน่น ซึ่งมีรอยแตกร้าวและผุพังอยู่หลายแห่ง ช่องโหว่เหล่านั้นทำให้มองเห็นฝุ่นละอองขนาดเล็กนับล้านลอยคว้างอยู่ในอากาศที่นิ่งสงัด

นี่มันที่ไหนกัน? โรงแรมธีมบ้านโบราณที่ไหนจัดฉากได้สมจริงขนาดนี้?

คำถามนั้นผุดขึ้นในใจ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คำตอบ คลื่นความทรงจำสองสายที่ไม่เข้ากันอย่างรุนแรงก็ปะทะเข้าใส่สมองของเธออย่างจัง

ภาพแรกคือภาพของห้องทำงานกระจกรอบด้านบนชั้น 52 ของตึกระฟ้าใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ บนโต๊ะทำงานไม้มะฮอกกานีขัดมันวาวมีคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปรุ่นล่าสุดเปิดหน้าจอแสดงกราฟตลาดหุ้นที่ดิ่งลงเหว เอกสารวิเคราะห์วิกฤตการณ์กองทุนนับสิบแฟ้มกองระเกะระกะ ในฐานะ "เจียงซิน" ผู้จัดการฝ่ายบริหารจัดการวิกฤตวัย 32 ปี การประชุมที่ไม่มีที่สิ้นสุด และสัมผัสเย็นเฉียบของชุดสูทแบรนด์เนม คือโลกทั้งใบของเธอ

แต่แล้วภาพความศิวิไลซ์นั้นก็ถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ...

ภาพที่สองซ้อนทับเข้ามาอย่างรุนแรงจนน่าเวียนหัว มันคือภาพของทุ่งนาสีเขียวขจีที่แผ่ไปไกลสุดลูกหูลูกตาในชนบทห่างไกล เด็กสาวร่างผอมบางในเสื้อผ้าผ้าฝ้ายสีซีดจางกำลังก้มหน้าดำนาอย่างขะมักเขม้น สัมผัสของโคลนเย็น ๆ ที่เฉอะแฉะอยู่ระหว่างนิ้วเท้า ภาพของพ่อผู้ซื่อสัตย์กำลังไถนาอยู่ไม่ไกล และแม่ผู้ใจดีที่กำลังโบกมือเรียกให้กลับไปกินข้าวกลางวัน... ก่อนที่ภาพความสุขเรียบง่ายทั้งหมดจะถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน... ภาพของรถไถที่พลิกคว่ำทับร่างของคนที่เธอรัก... และทุกอย่างก็ดับวูบลงสู่ความมืดมิดที่ไร้ที่สิ้นสุด

"อึก!"

เจียงซินยกมือกุมขมับ ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นจนเธอต้องกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่นเพื่อข่มความรู้สึกเอาไว้ สมองของเธอเหมือนกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ข้อมูลจากสองชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว กำลังต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ในหัวของเธออย่างดุเดือด

เธอเป็นใครกันแน่? ผู้จัดการฝ่ายบริหารจัดการวิกฤตจากปี 2024 ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือเด็กสาวชาวนาจากปี 1985 ที่เพิ่งสูญเสียพ่อแม่ไป?

หลังจากนอนนิ่งปล่อยให้พายุข้อมูลในหัวค่อย ๆ สงบลงไปนานหลายนาที ในที่สุดเธอก็ค่อย ๆ ใช้ข้อศอกยันร่างที่สั่นเทาของตัวเองลุกขึ้นนั่ง แผ่นหลังของเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นและความหยาบกระด้างของแผ่นไม้ที่ใช้ทำเตียง มันไม่ใช่ที่นอนเมมโมรี่โฟมราคาเรือนแสนที่เธอคุ้นเคยอย่างแน่นอน

เธอสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างละเอียดและเชื่องช้า มือที่ยกขึ้นมาดูนั้นผอมบางจนเห็นข้อกระดูกปูดโปนอย่างชัดเจน ผิวหยาบกร้านมีรอยด้านจากการทำงานหนัก เล็บขบดำมีเศษดินติดอยู่ เมื่อก้มมองลำตัวก็พบว่าตัวเองสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่ทำจากผ้าฝ้ายเก่า ๆ ซึ่งถูกซักมานับครั้งไม่ถ้วนจนสีซีดจางและมีรอยปะชุนอยู่สองสามแห่ง เนื้อผ้าที่แข็งกระด้างเสียดสีกับผิวจนรู้สึกระคายเคือง ร่างกายนี้อ่อนแอ เปราะบาง และขาดสารอาหารอย่างรุนแรง มันคือร่างกายของเด็กสาวชาวนาวัย 18 ปี ไม่ใช่ร่างกายของผู้บริหารหญิงที่เข้าคลาสพิลาทิสทุกสัปดาห์

ความจริงอันโหดร้ายเริ่มกัดกินเข้ามาในใจทีละน้อย

เจียงซินสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามรวบรวมสติและใช้ทักษะ "การประเมินสถานการณ์" ที่เป็นเหมือนสัญชาตญาณที่สองของเธอ เอาล่ะ...

ข้อเท็จจริงข้อที่หนึ่ง : เธอยังมีชีวิตอยู่

ข้อเท็จจริงข้อที่สอง : เธอไม่ได้อยู่ในร่างเดิม

ข้อเท็จจริงข้อที่สาม : ดูเหมือนว่าเธอจะ "ทะลุมิติ" มาอยู่ในร่างของเด็กสาวคนหนึ่งในยุคอดีต ซึ่งน่าจะเป็นประเทศจีนช่วงปี 1980s ตามความทรงจำที่ยังคงสับสนของร่างนี้

เธอค่อย ๆ หย่อนเท้าลงจากเตียง พื้นดินอัดแน่นที่เย็นชืดใต้ฝ่าเท้าส่งความรู้สึกแปลกประหลาดและเป็นจริงอย่างที่สุดมาให้ ห้องที่เธออยู่มีขนาดเล็กมาก นอกจากเตียงไม้ที่เธอนอนอยู่แล้ว ก็มีเพียงโต๊ะไม้เก่า ๆ หนึ่งตัวกับเก้าอี้ที่ขาโยกเยกอีกสองตัว บนโต๊ะมีถ้วยชามดินเผาบิ่น ๆ วางคว่ำอยู่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ที่บ่งบอกถึงความทันสมัย ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีอะไรทั้งนั้น

เธอมองไปรอบ ๆ บ้านอย่างช้า ๆ มันเป็นบ้านดินชั้นเดียวขนาดกะทัดรัด ผนังทำจากดินเหนียวผสมฟางอัดแน่น มีรอยแตกร้าวอยู่หลายแห่ง บ้านถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนง่าย ๆ คือส่วนที่เธอนอนอยู่ซึ่งน่าจะเป็นทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นในตัว กับอีกส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปซึ่งกั้นด้วยม่านผ้าป่านเก่า ๆ และน่าจะเป็นห้องครัว

ทุกอย่างที่เห็น... ความยากจน ความขาดแคลน ความล้าหลัง... มันตอกย้ำความจริงที่ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และไม่ใช่การจัดฉากถ่ายทำรายการทีวี

เจียงซินเดินโซเซไปที่อ่างดินเผาใบเล็กซึ่งตั้งอยู่ที่มุมห้อง ในอ่างมีน้ำใส ๆ นิ่ง ๆ อยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง เธอค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองเงาสะท้อนบนผิวน้ำ

ภาพที่ปรากฏคือใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวสีน้ำผึ้งจาง ๆ ที่ควรจะดูสุขภาพดีกลับซีดเซียว ดวงตากลมโตสีดำขลับที่ควรจะสดใสกลับฉายแววสับสนและเหนื่อยล้า ริมฝีปากแห้งผากจนแตกเป็นขุย ผมยาวสีดำสนิทถูกมัดรวบไว้ที่ท้ายทอยอย่างลวก ๆ มีปอยผมหลุดลุ่ยลงมาปรกหน้าผากและข้างแก้มที่ตอบลง

นี่คือ "เจียงซิน" เจ้าของร่างคนปัจจุบัน

และในวินาทีที่เธอยอมรับความจริงข้อนี้ ความทรงจำสุดท้ายของเด็กสาวก็ไหลบ่าเข้ามาในหัวอีกครั้ง... ภาพของพ่อกับแม่ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถไถพลิกคว่ำเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง การร้องไห้จนหมดสติ และความเจ็บปวดที่ศีรษะจากการล้มฟาดพื้น...

ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของเจียงซินคนเดิมได้แตกสลายไปพร้อมกับความโศกเศร้า และนั่นคือโอกาสที่ทำให้เธอ... เจียงซินจากอนาคต ได้เข้ามาแทนที่

เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ในอากาศมีความชื้นที่สัมผัสได้ มันคือความรู้สึกของ "ความจริง" ใหม่ที่เธอต้องเผชิญ

ในฐานะผู้จัดการวิกฤต สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเจอปัญหาคือ "ยอมรับสถานการณ์" และ "ประเมินทรัพยากร" ที่มีอยู่ ตอนนี้สถานการณ์คือเธอกลายเป็นเด็กสาวกำพร้ายากจนในยุค 80s ส่วนทรัพยากร...

เจียงซินลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาที่เคยสับสนวุ่นวายเริ่มสงบนิ่งลง ความเยือกเย็นและความเฉียบคมของนักแก้ปัญหาเริ่มเข้ามาแทนที่ความตื่นตระหนก

ทรัพยากรที่เธอมีตอนนี้ คือความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดจากชีวิตในศตวรรษที่ 21

และนั่น... อาจจะเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลกใบนี้ก็เป็นได้

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ