หลังจากที่จางกุ้ยฟางและลูกชายจากไป บ้านทั้งหลังก็กลับคืนสู่สภาวะที่เงียบสงบอีกครั้ง แต่ในใจของเจียงซินกลับไม่สงบลงเลยแม้แต่น้อย การเผชิญหน้าเมื่อครู่เป็นเหมือนการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ มันตอกย้ำให้เธอตระหนักว่าเวลาของเธอมีจำกัดอย่างยิ่งยวด
เธอรู้ดีว่าคนอย่างป้าจางกุ้ยฟางไม่มีทางยอมรามือไปง่าย ๆ การล่าถอยในวันนี้เป็นเพียงการกลับไปตั้งหลักเพื่อหาทางโจมตีครั้งใหม่ที่ร้ายกาจกว่าเดิมเท่านั้น หากเธอไม่สามารถสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้ตัวเองและน้องชายได้โดยเร็วที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาสองคนพี่น้องก็จะต้องถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี
และเกราะป้องกันที่ว่านั้นก็คือ "เงิน"
เจียงซินเดินกลับไปที่โต๊ะไม้เก่า ๆ หยิบเงินสองหยวนเจ็ดสิบห้าเฟินที่เหลือขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง เงินจำนวนนี้อาจจะดูเยอะสำหรับเด็กสาวชาวนาคนหนึ่ง แต่สำหรับสถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่ มันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน ค่ารักษาพยาบาลของเจียงห่าว ค่าอาหารที่ดีกว่ามันเทศต้ม ไหนจะหนี้อีกห้าหยวนที่ต้องหาไปคืนป้าเพื่อตัดปัญหา เงินก้อนนี้ไม่เพียงพออย่างแน่นอน
เธอต้องหาเงินเพิ่ม และต้องหาให้ได้เดี๋ยวนี้
ความคิดของเธอวิ่งวนกลับไปที่แผนการที่วางไว้... การเข้าป่าหลังบ้านเพื่อหาของป่ามาขาย มันเป็นทางเลือกเดียวที่เธอมีในตอนนี้ หมู่บ้านชิงซานตั้งอยู่ติดกับตีนเขา ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญของชาวบ้านมาหลายชั่วอายุคน ในความทรงจำของร่างเดิม เธอเคยตามพ่อเข้าไปเก็บฟืนและหาผักป่าอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงบริเวณชายป่าที่ไม่ลึกมากนัก
แต่การจะหาของป่าธรรมดา ๆ อย่างฟืนหรือผักป่าไปขาย คงจะได้เงินมาเพียงน้อยนิด ไม่ทันการณ์แน่ เธอต้องการอะไรที่ "พิเศษ" กว่านั้น อะไรบางอย่างที่มีราคาและเป็นที่ต้องการของตลาด
และนั่นคือจุดที่เธอต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ
เธอจะเสี่ยงดวงเดินสุ่มหาไปเรื่อย ๆ หรือจะยอม "ลงทุน" กับเจ้าระบบขี้งกนั่นอีกครั้ง?
ความคิดสองสายต่อสู้กันอย่างหนักในหัวของเธอ ด้านหนึ่งคือความไม่ไว้วางใจและความเจ็บใจที่ถูกขูดรีด ระบบนี้ทั้งกวนประสาทและหน้าเลือด การจ่ายเงินให้มันอีกครั้งเหมือนเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ แต่อีกด้านหนึ่งคือเหตุผลของนักบริหารจัดการวิกฤต... เวลาคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามากพอที่จะไปลองผิดลองถูก การจ่ายเงินเพื่อซื้อ "ข้อมูล" ที่แม่นยำและลดความเสี่ยง คือการลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุด
[ในที่สุดก็คิดได้ซะทีนะ]
เสียงของระบบดังขึ้นมาในหัวราวกับรู้ทันความคิดของเธอ
เจียงซินเมินคำพูดเยาะเย้ยนั้นไป เธอกำลังจดจ่ออยู่กับการคำนวณความคุ้มค่า "ข้อมูลระดับหนึ่งราคาเท่าไหร่?" เธอถามกลับไปในใจ
[ข้อมูลระดับหนึ่ง หรือ "คำใบ้เบื้องต้น" มีหลายราคา ขึ้นอยู่กับความเฉพาะเจาะจงของคำถาม] ระบบตอบกลับมาอย่างเป็นงานเป็นการ [ยิ่งคำถามกว้าง ค่าบริการก็ยิ่งถูก แต่ข้อมูลที่ได้ก็จะกว้างตามไปด้วย แต่ถ้าคำถามเฉพาะเจาะจงมากพอ ค่าบริการก็จะสูงขึ้น แต่ข้อมูลที่ได้ก็จะแม่นยำและมีประโยชน์มากกว่า]
นี่คือกับดักทางธุรกิจดี ๆ นี่เอง เจียงซินคิด เธอเข้าใจกลไกนี้ในทันที ระบบกำลังบีบให้เธอต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุด
เอาล่ะ ในเมื่อต้องจ่าย เธอก็ต้องตั้งคำถามให้คุ้มค่ากับเงินทุกเฟินที่เสียไป
เจียงซินใช้เวลาครู่หนึ่งในการกลั่นกรองคำถามที่ดีที่สุด เธอไม่ได้ถามว่า "จะหาเงินได้ยังไง?" เพราะนั่นเป็นคำถามที่กว้างเกินไปและอาจจะได้คำตอบที่ไร้ประโยชน์กลับมา เธอต้องจำกัดขอบเขตของคำถามให้แคบและตรงเป้าหมายที่สุด
"ในพื้นที่ภูเขาชิงซาน ณ เวลานี้" เธอเริ่มเรียบเรียงคำถามในใจ "มีทรัพยากรอะไรที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุด และยังไม่เป็นที่รู้จักหรือถูกมองข้ามโดยชาวบ้านในปัจจุบัน?"
มันเป็นคำถามที่ซับซ้อนและรัดกุมอย่างยิ่ง เป็นการใช้ทักษะการวิเคราะห์จากชาติก่อนมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ
[...คำถามน่าสนใจ] ระบบเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังประมวลผล [การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลเศรษฐศาสตร์ในอนาคตแบบนี้... ถือเป็นข้อมูลระดับหนึ่งกึ่งระดับสอง ค่าบริการอยู่ที่ ห้าสิบเฟิน]
ห้าสิบเฟิน!
เกือบหนึ่งในห้าของเงินทั้งหมดที่เธอมี! มันเป็นราคาที่สูงจนน่าใจหาย แต่เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ที่จะได้ข้อมูลล้ำค่ากลับมา... มันก็คุ้มที่จะเสี่ยง
"ตกลง ฉันจ่าย" เธอตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
เหรียญห้าสิบเฟินในมือของเธอสลายกลายเป็นละอองแล้วหายวับไปทันที
[ขอบคุณที่ใช้บริการ... กำลังประมวลผลข้อมูล... ติ๊ง! การวิเคราะห์เสร็จสมบูรณ์]
ข้อมูลชุดใหม่ไหลเข้ามาในหัวของเธอ
[คำตอบ : เห็ดเหม่ากู (Hericium erinaceus)]
[ชื่อสามัญในอนาคต : เห็ดหัวลิง, เห็ดยามาบูชิทาเกะ]
[ข้อมูลปัจจุบัน : ชาวบ้านในพื้นที่รู้จักในชื่อ "เห็ดขนขาว" มองว่าเป็นเห็ดที่กินไม่ได้เพราะมีรูปร่างประหลาดและไม่มีใครเคยกินมาก่อน]
[มูลค่าในอนาคต : เป็นเห็ดที่มีสรรพคุณทางยาสูงและมีรสชาติดี เป็นที่ต้องการของตลาดภัตตาคารระดับสูงและวงการแพทย์แผนจีน]
[คำใบ้ตำแหน่ง : เจริญเติบโตบนลำต้นของต้นโอ๊กแก่ที่ตายแล้ว โดยเฉพาะในบริเวณที่ชื้นแฉะและไม่ค่อยมีใครเข้าไปถึง เช่น หุบเขาทางลาดชันฝั่งทิศเหนือของภูเขาชิงซาน]
ข้อมูลที่ได้รับทำให้ดวงตาของเจียงซินเป็นประกายขึ้นมาทันที!
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ! ข้อมูลที่ใช้ประโยชน์จาก "ช่องว่างของกาลเวลา" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชาวบ้านมองข้ามมันไปเพราะความไม่รู้ แต่นี่คือ "ขุมทรัพย์" ที่รอให้เธอไปค้นพบ
[เป็นข้อมูลที่คุ้มค่ากับราคาใช่ไหมล่ะ?] ระบบเอ่ยขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
เจียงซินไม่ได้ตอบกลับไป เธอกำลังจดจ่ออยู่กับการวางแผนขั้นต่อไป เธอมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ตอนนี้คือขั้นตอนของการลงมือปฏิบัติ
เธอเดินไปตรวจดูอาการของเจียงห่าวอีกครั้ง เขายังคงหลับอยู่และตัวก็ไม่ร้อนเท่าเดิมแล้ว เธอเติมน้ำในถ้วยใบเล็กวางไว้ข้างเตียงเผื่อว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วหิวน้ำ
จากนั้นเธอก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเข้าป่า เธอไม่มีเครื่องมือที่ดีนัก สิ่งที่พอจะใช้ได้ก็คือตะกร้าสานเก่า ๆ ที่มุมหนึ่งของบ้านที่มันเริ่มเปื่อยและพังแล้ว แต่ก็ยังพอใช้งานได้ และมีดทำครัวขึ้นสนิมเล่มเดิมที่เธอใช้เมื่องัดแผ่นอิฐ เธอนำมันไปลับกับหินหลังบ้านพอให้มีความคมเพิ่มขึ้นมาบ้าง
เธอเปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าที่เก่าและทนทานที่สุดเท่าที่มี มัดผมยาวรวบเก็บอย่างแน่นหนาเพื่อความคล่องตัว ก่อนจะออกเดินทาง เธอหันกลับไปมองน้องชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงอีกครั้ง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"รอพี่นะอาห่าว พี่จะรีบกลับมา" เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ
แล้วเธอก็ก้าวเท้าออกจากบ้านดินหลังเล็ก มุ่งหน้าไปยังภูเขาชิงซานที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง... สมรภูมิแรกของเธอในการต่อสู้กับโชคชะตา
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?