ตอนที่ 19. การ์ดวันแม่

ผ่านไปสามปี ตอนนี้ไอเดนกับอาเบลอายุได้สามขวบกว่าแล้ว

เด็กชายทั้งสองได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งอยู่ใกล้ละแวกบ้าน เพราะฟ้าณดาเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่ดี แล้วยังไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมากนัก

“คุณแม่มาแล้ว”

เสียงนั้นเป็นของไอเดนที่นั่งมองหน้าต่างอย่างใจจดจ่อ รอเวลาที่ฟ้าณดาจะปรากฏตัวตรงหน้าประตู

ส่วนอาเบล เมื่อได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งไปบอกครูประจำชั้นทันที “คุณครูครับ คุณแม่มาแล้ว”

“โอเคค่า งั้นน้องไอเดนกับอาเบลสะพายกระเป๋าให้เรียบร้อย”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

เด็กชายทั้งสองตอบอย่างพร้อมเพรียง ท่าทางนั้นทำให้คุณครูสาวขำออกมาเบา ๆ

เธอคงรู้สึกเอ็นดูไอเดนและอาเบลมาก เพราะเด็กชายทั้งสองคนพูดรู้เรื่อง แล้วยังดูรู้ว่าแม่อย่างฟ้าณดาสอนมาดีมาก เพราะในบรรดาเด็กอนุบาลทุกคน ทั้งสองคนจะเข้าใจสิ่งที่ครูสอนมากที่สุด ไม่งี่เง่างอแงมากเท่าไร

เมื่อฟ้าณดาเดินมารออยู่หน้าห้องแล้ว คุณครูก็พาไอเดนกับอาเบลมาส่งถึงมือคุณแม่ ให้ฟ้าณดาย่อตัวลงมาคุยกับลูกชายทั้งสองที่วิ่งเข้ามากอดเธอ

“วันนี้เป็นเด็กดีไหมครับไอเดน อาเบล”

“ผมเป็นเด็กดีตลอดเลยครับ” ไอเดนพูดอย่างภูมิใจ เขาเป็นแฝดพี่ที่ช่างพูดช่างคุยมาก

ส่วนแฝดน้องอย่างอาเบล เพียงยืนก้มหน้าอมยิ้ม “คุณครูบอกว่าผมเป็นเด็กดีน่ารักครับ”

เทียบกันแล้วอาเบลจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไอเดน และถ้าได้รับคำชมเขาก็จะเขินมาก

ฟ้าณดายิ้มพลางหอมแก้มลูก ๆ ก่อนยืนขึ้นคุยกับคุณครู “ขอบคุณที่ช่วยดูแลเด็ก ๆ นะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ทั้งน้องไอเดนแล้วก็น้องอาเบลเป็นเด็กดีมาก พูดไม่ยาก สอนอะไรก็เข้าใจหมดเลยค่ะ”

ได้ยินคุณครูรายงานแบบนี้เหมือนทุกวัน ฟ้าณดาก็อมยิ้ม ก่อนพาลูก ๆ ของเธอสวัสดีคุณครูและกลับบ้านพร้อมกัน โดยเรียกรถจากแอปพลิเคชันมารับเหมือนเดิม

ฟ้าณดามองว่าการซื้อรถอาจเพิ่มภาระให้เธอมากเกินไป ไหนจะต้องไปเรียนขับรถอีก ฉะนั้นการใช้บริการรถสาธารณะอาจจะสะดวกกว่า และละแวกบ้านเช่าของเธอก็เป็นย่านที่ไม่ได้กันดารอะไรมาก มีบริการขนส่งสาธารณะเข้าถึงเกือบทุกรูปแบบอยู่แล้ว

“คุณแม่ครับ วันนี้ไม่มีงานอะไรใช่ไหมครับ?” ไอเดนถาม

“หมายถึงงานถ่ายแบบใช่ไหมลูก?” ฟ้าณดาถามกลับ และเมื่อเห็นสองแฝดพยักหน้า เธอก็นึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ไม่มีจ้ะ มีอีกทีวันเสาร์หน้านู่นเลย”

เด็กน้อยทั้งสองได้เข้าวงการถ่ายแบบถ่ายโฆษณามาตั้งแต่เกิด เรียกว่าพอจำความได้ก็เห็นกองถ่ายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

การให้เด็กทำงานตั้งแต่ยังเล็กแบบนี้ บางคนก็มองว่าฟ้าณดาเอาลูกมาหากิน แต่เธอมองว่านี่เป็นการปูทางสร้างอาชีพให้ลูก ๆ ของเธอมากกว่า เงินที่ได้มาเธอก็เปิดบัญชีแยกไว้ให้เด็กน้อยทั้งสองเลย ไม่ได้เก็บเอาไว้เอง ยังบอกพวกเขาเสมอว่าเงินส่วนนี้เอามาเป็นเงินเก็บสำรองให้พวกเขาใช้ตอนโต เพราะอนาคตไม่แน่นอน

ทั้งไอเดนและอาเบลก็เข้าใจ เด็กน้อยเห็นแม่ลำบากมาก แต่ก็ยังไม่เคยบ่นเลยว่าเธอเหนื่อย ด้วยความรู้เรื่อง เลยทำให้พวกเขาตั้งใจว่าจะเป็นเด็กดี แม่จะได้หายเหนื่อยไวขึ้น

“แล้ววันนี้น้าแนทกับน้าจีจี้อยู่บ้านไหมครับ?”

“อยู่จ้ะ”

เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเริ่มโต นัทธมลก็ไม่ได้อยู่ดูแลฟ้าณดาเกือบทุกวันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอกลับไปใช้ชีวิต ทำงานเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์เหมือนเดิม แต่ก็มีแวะเวียนมาหาสามแม่ลูกบ่อย ๆ พร้อมกับจีจี้ที่บางครั้งแม้ไม่มีงานแต่ก็ยังแวะมาเล่นกับหลาน ๆ เพราะความรักความเอ็นดูประหนึ่งคนในครอบครัว

วันนี้จีจี้กับนัทธมลก็มาอยู่ที่บ้านพอดี พวกเธอมาเยี่ยมหาหลาน ๆ น่ะ

ฟ้าณดาชวนลูกคุย ถามถึงเรื่องการบ้าน วันนี้คุณครูสอนอะไรบ้างที่โรงเรียน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้าบ้านแล้ว

“เด็ก ๆ คิดถึงน้าจีจี้ไหม~”

หลังจากเธอจ่ายเงินค่าโดยสารเสร็จและเปิดประตูลงรถ ก็พบว่าจีจี้กับนัทธมลมายืนรอรับอยู่ ทั้งไอเดนและอาเบลก็วิ่งไปกอดทั้งคู่พร้อมตอบเป็นเสียงเดียวกัน

“คิดถึงครับ”

พวกเด็ก ๆ ชอบเล่นกับจีจี้และนัทธมลมาก เพราะทั้งคู่ใจดีเช่นเดียวกับแม่ของพวกเขา

ท่าทางน่ารักของเด็กชายเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้น้าสาวทั้งสอง ก่อนฟ้าณดาเดินตามมาแล้วก็ชวนทุกคนเข้าบ้านกัน

“วันนี้มีการบ้านวิชาภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ?”

ผู้เป็นแม่ถาม เด็กชายทั้งสองก็พยักหน้า เปิดกระเป๋าหยิบหนังสือออกมากางให้เธอช่วยสอน

“อ๊ะ! ขออัดคลิปไว้ก่อนนะ” นัทธมลว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ไอเดนครับ อาเบลครับ น้าขอถ่ายคลิปไปลงในเพจนะ”

แน่นอนว่าเมื่อเด็ก ๆ เริ่มรู้เรื่องแล้ว เธอก็จะขออนุญาตพวกเขาก่อน เผื่อว่าถ้าเด็ก ๆ ไม่เต็มใจก็จะได้ไม่เอาไปลง

ซึ่งไอเดนกับอาเบลก็เต็มใจทุกครั้ง เพราะเมื่อนัทธมลเอาคลิปหรือรูปภาพของพวกเขาไปลงในเพจแล้ว ก็จะมาเล่าให้ฟังว่ามีคนคอมเมนต์ชื่นชม ยังทำให้มีคนสนใจป้อนงานให้ด้วย แม่ของพวกเขาจะได้ไม่ลำบากมากนัก

ทั้งไอเดนและอาเบลมีจิตสำนึกดีอย่างที่บอก คิดว่าอะไรที่ทำแล้วลดภาระให้แม่ของพวกเขาได้ ก็จะทำทั้งหมด

บรรยากาศการอัดคลิปวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นเหมือนเคย เพราะนอกจากฟ้าณดาจะสอนลูกแล้ว ทั้งนัทธมลและจีจี้ก็ช่วยด้วย เป็นคลิปที่นอกจากดูเพลินแล้วยังมีความตลกนิด ๆ เมื่อจีจี้ปล่อยมุขออกมา ทำไอเดนและอาเบลขำกันกลิ้งอีก เมื่อเอาไปลงในเพจแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจะมีแต่คนเข้ามากดไลค์ให้เต็มไปหมด

การบ้านของเด็กชายเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ฟ้าณดาลงมือเข้าครัวทำอาหารเย็น ระหว่างนั้นจีจี้ก็พาไอเดนกับอาเบลไปอาบน้ำ ส่วนนัทธมล เธอรีบตัดคลิปแล้วโพสต์ลงเหมือนเดิม

กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ค่ำมืดพอดี แต่ไม่ทันที่จีจี้กับนัทธมลจะกลับ สองแฝดตัวน้อยก็รั้งข้อมือของทั้งคู่เอาไว้

“น้าแนทกับน้าจีจี้นั่งอยู่ก่อนได้ไหมครับ ผมมีอะไรจะให้”

ทั้งคู่ดูแปลกใจไม่น้อยที่ได้ยินอย่างนั้น แล้วก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา เลยไปนั่งที่โซฟา เช่นกัน ฟ้าณดาก็โดนบอกให้นั่งลงตรงกลางระหว่างจีจี้กับนัทธมล

ก่อนที่ไอเดนและอาเบลจะเดินไปเปิดกระเป๋านักเรียน หยิบการ์ดที่พวกเขาตั้งใจวาดและระบายสีออกมาทั้งหมดสี่ใบ

เริ่มจากสองใบแรก ทั้งไอเดนและอาเบลมอบให้ฟ้าณดาผู้เป็นแม่ก่อน

“เพราะว่าวันนี้เป็นวันแม่ คุณครูเลยบอกให้ทุกคนวาดการ์ดเซอร์ไพรส์คุณแม่ครับ”

ได้ยินแบบนี้ฟ้าณดาก็น้ำตาคลอเบ้า เธอเปิดการ์ดที่ลูกชายทั้งสองคนตั้งใจวาดให้แล้วก็อมยิ้ม “ขอบคุณครับ แม่จะเก็บไว้อย่างดีเลย”

ทั้งไอเดนและอาเบลยิ้มกว้างก่อนที่ทั้งคู่จะแยกกันไปนั่งตรงหน้าจีจี้และนัทธมล โดยไอเดนเป็นคนมอบการ์ดใบหนึ่งให้จีจี้ อาเบลมอบการ์ดอีกใบให้นัทธมล

“น้าจีจี้กับน้าแนทก็ดูแลผมกับน้องมาเหมือนกัน ผมเลยอยากทำการ์ดให้ครับ” ไอเดนบอกจีจี้แบบนั้น ทำให้สาวถึกอย่างเธอถึงกับต้องเสียน้ำตา

“น้าไม่เคยเป็นแม่คนเลย นี่เป็นการ์ดใบแรกที่น้าได้ น้าจะเก็บไว้ให้ดีที่สุดนะครับ”

“น้าด้วยจ้ะ” คราวนี้เป็นนัทธมลที่รับการ์ดมาจากอาเบลแล้วยิ้มปลื้มปริ่ม อาเบลก็ถามต่อ “น้าแนทชอบการ์ดมากไหมครับ?”

“ชอบมากเลย น้าจะเอาไปใส่กรอบติดฝาบ้านเลยจ้ะ”

นัทธมลคงซึ้งมาก เพราะเธอเองก็มีส่วนช่วยเลี้ยงดูสองแฝดมาตั้งแต่ยังไม่ทันเกิดจริง ๆ

ความรักของเด็กมันบริสุทธิ์ใสซื่อเสียจนทำหัวใจทุกคนพองฟูเลยทีเดียว..

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ