ฟ้าณดานั่งมองตั๋วเครื่องบินในมือด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกว่าเส้นทางอนาคตอันรุ่งโรจน์กำลังรออยู่แล่นผ่านความคิดของเธอ ตั๋วใบนี้ไม่ใช่แค่แผ่นกระดาษธรรมดา แต่เป็นประตูสู่โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของตัวเอง
บริษัท Star Entertainment ไม่เพียงแต่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเดินทางไปศึกษาดูงานที่บริษัทแม่ในประเทศอังกฤษเป็นระยะเวลาสามเดือน แต่ยังรวมถึงค่าที่พักตลอดระยะเวลานั้นด้วย นี่เป็นโอกาสที่แทบจะหาไม่ได้สำหรับพนักงานใหม่อย่างเธอ
แม้ว่าฟ้าณดาจะเติบโตมาในฐานะเด็กกำพร้า ชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนมาตลอด แต่ด้วยความขยันและพรสวรรค์ ทำให้เธอมีเงินเก็บก้อนหนึ่งติดตัว เธอตั้งใจว่าจะใช้เงินเก็บนี้ในช่วงที่อยู่ประเทศอังกฤษ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
"ไปกันเถอะฟ้า" เสียงของณิชา เพื่อนร่วมงานที่แสนตื่นเต้น ดึงฟ้าณดาออกจากภวังค์ความคิด
"อื้อ" ฟ้าณดาตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหานัทธมล เพื่อนรักที่คอยให้กำลังใจเธอเสมอ
แนท: safe flight จ้า~ อย่าลืมถ่ายรูปมาอวดเยอะ ๆ นะแก
ข้อความอวยพรจากเพื่อนรักทำให้ฟ้าณดายิ้มกว้างขึ้น เธอรู้สึกอบอุ่นใจที่มีคนคอยเป็นกำลังใจให้
การมีคนรอบตัวน่ารักมันก็ดีอย่างนี้แหละ!
หลังจากเดินทางนานกว่าสิบสี่ชั่วโมง ในที่สุดฟ้าณดาและคณะก็ได้เหยียบแผ่นดินประเทศอังกฤษ อากาศหนาวเย็นต้อนรับพวกเขาทันทีที่ก้าวออกจากสนามบิน
"หนาวใช่เล่นเลยนะเนี่ย" ณิชาพูดเสียงสั่น ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดฟ้าณดา ซุกมือเข้าไปในเสื้อโค้ทของเพื่อน "ฉันจะแข็งตายแล้ว"
"อย่าเวอร์น่ะยัยชา" ฟ้าณดาส่ายหัวให้เพื่อนที่ตื่นเต้นจนแสดงอาการเกินจริง แต่ก็อดยิ้มไม่ได้
"โถ่~ ไม่ตื่นเต้นได้ยังไง นี่ครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ออกนอกประเทศ แล้วยังมาไกลถึงนี่อีก" ณิชาทำหน้ามุ่ยอย่างน่ารัก ก่อนจะหันไปสนใจกลุ่มพนักงานจาก star entertainment ที่มาด้วยกัน
นำทีมโดยรองหัวหน้าแผนกอย่าง ‘ศรัณย์’ ชายหนุ่มหน้าตาดีอายุสามสิบสองปี เป็นคนพาพนักงานสาขาประเทศไทยมาแทนอรอุมา
ความจริงเรื่องนี้อรอุมาควรมารับผิดชอบด้วยตัวเอง แต่เพราะความที่เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่สามารถจะทิ้งลูกมาทำงานไกล ๆ ซึ่งกินเวลานานถึงสามเดือนได้ เลยต้องส่งศรัณย์ที่ไม่มีภาระอะไรมาแทน
แน่นอนว่าศรัณย์ไม่มีแฟน... แต่หากเป็นผู้หญิงที่เขาหมายตาไว้ก็ไม่แน่
"เดี๋ยวพี่จะพาไปที่พักนะ เด็ก ๆ อย่าแตกแถวกันล่ะ"
คำพูดที่ฟังดูเหมือนคุณพ่อพาลูกๆ มาเที่ยวนอกบ้านทำให้ทุกคนอดขำไม่ได้ ณิชารีบแซวทันที "พี่ศรัณย์คะ ทุกคนโตแล้วนะคะ อย่าพูดเหมือนเป็นครูอนุบาลพานักเรียนมาทัศนศึกษาอย่างนั้นสิ"
ศรัณย์ยิ้มแห้งๆ "โทษที ๆ พี่ลืมตัว"
นิยามคำว่า ‘ผู้ชายอบอุ่น’ น่ะ คงเหมาะกับพี่ศรัณย์ที่สุดแล้ว
นั่นคือความคิดของเหล่ารุ่นน้องที่ทำงาน โดยเฉพาะรุ่นน้องผู้หญิงที่นอกจากจะมองเขาด้วยสายตาปลาบปลื้มชื่นชมแล้ว บางคนยังแอบมีความรู้สึกดีเกินกว่าที่รุ่นพี่รุ่นน้องควรจะมีให้กันด้วย
แต่เพราะความที่ศรัณย์วางตัวดีเสมอ เลยไม่มีข่าวฉาวอะไรเกี่ยวกับเขาเลย
“ฟ้า เดี๋ยวพอเอาของไปเก็บในที่พักแล้ว เราออกไปเดินเล่นกันนะ”
ณิชาหันมาชวน ฟ้าณดาก็พยักหน้าตอบรับ “อื้อ เอาสิ”
ทั้งคู่เดินคุยกันไป แต่เพราะไม่ทันสังเกตพื้นให้ดี ฟ้าณดาจึงสะดุดหินเข้า
“ว้าย!”
เธอร้องตกใจ ทว่าโชคดีที่หลังจากนั้นไม่มีเสียงโครมครามเกิดขึ้น เพราะแขนเล็กถูกคว้าเอาไว้ได้ทัน
คนที่ช่วยเธอเอาไว้ก็คือศรัณย์
"ไม่เจ็บนะน้องฟ้า" เขาถามอย่างเป็นห่วง
ฟ้าณดารู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบยืนให้มั่นคง "ขอบคุณมากนะคะพี่ศรัณย์"
"ด้วยความยินดีครับ" ศรัณย์ตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ท่าทางอ่อนโยนที่เขาปฏิบัติต่อผู้หญิง ทำให้ศรัณย์ยิ่งดูดีขึ้นไปอีกหลายเท่าในสายตาของฟ้าณดาและณิชา
เมื่อศรัณย์เดินห่างออกไป ณิชาถึงกับต้องกระทุ้งศอกใส่เพื่อนเบา ๆ พร้อมกับกระซิบกับฟ้าณดา "ฉันบอกแล้วไงว่าพี่ศรัณย์ต้องมีซัมติง"
ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมาสามเดือน ใคร ๆ ต่างก็สังเกตได้ว่าศรัณย์ดูแลเอาใจใส่ฟ้าณดามากเป็นพิเศษ ดูคล้ายว่าเขาน่าจะมีใจให้รุ่นน้องสาวที่อายุห่างกันถึงสิบปีคนนี้
ตอนนี้ฟ้าณดาพึ่งจะอายุยี่สิบสองปีเท่านั้น เรียกว่าเธอทั้งเด็ก ทั้งซื่อ ดูน่าทะนุถนอมจนผู้ชายหลายคนในบริษัทอยากเข้ามาทำความรู้จักเต็มไปหมด น่าเสียดายที่หญิงสาวเป็นพวกแอบบ้างาน ไม่ให้โอกาสใครได้เข้ามาอยู่ในใจทั้งนั้น เลยกลายเป็นโสดมาตั้งแต่เกิดอย่างนี้ ทั้งที่ฟ้าณดาจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว
"แกอย่าคิดมากเลยยัยชา พี่เขาก็ดีกับทุกคน" ฟ้าณดาตอบปัดพลางหลบสายตา
“จ้า~ ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ”
แม้ฟ้าณดาจะรู้สึกว่าศรัณย์ดูแลเธอเป็นพิเศษ แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใคร อย่างไรก็ตาม เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า หากเขารอได้ สักวันหนึ่งเธออาจจะยอมเปิดใจให้เขาก็ได้
ความคิดเรื่องนี้หมุนวนไปจนกระทั่งรู้ตัวอีกที ฟ้าณดาและเหล่าพนักงานร่วมบริษัทก็มายืนอยู่หน้าที่พักซึ่งเป็นโรงแรมระดับสี่ดาว
“หรูชะมัด!” ณิชาเบิกตาค้างตอนเดินเข้ามาในโรงแรมตกแต่งสไตล์วินเทจนิด ๆ ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนบรรดาแขกเป็นผู้ดีเก่าเจ้าของแมนชั่น อะไรทำนองนั้น
ทางผู้บริหารของ star entertainment มีวิสัยทัศน์กว้างไกล จึงให้ความสำคัญกับการลงทุนในแรงงานคน หรือก็คือพนักงานนั่นเอง แบบนี้ใครจะไม่อยากทำงานให้กันล่ะ
หลังจากได้คีย์การ์ดเข้าห้องมาเรียบร้อย ฟ้าณดาก็จัดการข้าวของของตัวเอง ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูเรียก “ยัยฟ้า เร็ว ๆ เข้า”
"เสร็จแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ" ฟ้าณดาตอบพลางส่ายหน้าเบาๆ ให้เพื่อนที่กระตือรือร้นเหลือเกิน
จากนี้เดาได้เลยว่าเงินเก็บที่พยายามสะสมมาตลอดคงได้ละลายเป็นน้ำ ทั้งพิพิธภัณฑ์เอย ทั้งย่านไนท์คลับเอย มีแต่ที่น่าสนใจเต็มไปหมด
แต่ฟ้าณดาไม่เครียดหรอก เพราะถึงอย่างไรวันข้างหน้าเธอเชื่อวันจะหาเงินมาได้เรื่อย ๆ แบบไม่ขาดสาย เพราะได้ทำงานในบริษัทนี้นี่แหละ
“ฟ้า แกว่าฉันจะหาแฟนที่นี่ได้ไหม”
เสียงของณิชายังดังเจื้อยแจ้ว ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์ดีมากเลยพูดไปเรื่อย หรือเพราะตั้งใจอยากมีความรักกับหนุ่มต่างชาติจริง ๆ
“ก็..ถ้าพยายามเสาะหา คงจะเจอสักคนละมั้ง”
ฟ้าณดาไม่มั่นใจ เธอไม่ประสีประสากับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สักเท่าไร
“อืม.. ส่วนแกก็มีพี่ศรัณย์อยู่แล้ว แต่ไม่แน่ว่าคนที่บริษัทแม่อาจจะมีใครหมายตาแกอีกก็ได้” ณิชายังแซวไม่เลิก ฟ้าณดาก็ต้องส่ายหน้าหน่ายใจกว่าเดิม
“แกเลิกชงสักที ตอนนี้ฉันไม่อยากมีใครทั้งนั้นแหละ”
“พวกที่ไม่อยากมีใครนี่แหละ เขาว่าส่วนมากมีแฟนก่อนเพื่อนทุกที”จะให้เลิกชงน่ะ ณิชาทำไม่ได้หรอก เธอเป็นหญิงสาวที่มีความสดใสเป็นทุนเดิม เรื่องแบบนี้มีหรือจะพลาด
“แล้วแต่แกเลย”
สุดท้ายฟ้าณดาก็ต้องปล่อยเพื่อนไป อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความรำคาญใจให้เธอมากขนาดนั้น อีกอย่างคือเธอรู้ว่าณิชาไม่ใช่คนมีพิษมีภัยอะไร
นาน ๆ จะคุยเรื่องสัพเพเหระกับคนอื่นบ้างก็ไม่นับว่าเสียหายอะไรนี่นา
ตลอดสามเดือนที่อยู่ในอังกฤษ ฟ้าณดาได้เรียนรู้และเปิดประสบการณ์มากมาย เธอได้เห็นว่าโลกนี้กว้างใหญ่แค่ไหน และผู้คนก็มีความหลากหลายมากเพียงใด แม้จะต้องปรับตัวมาก แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เธอมีกำลังใจและตั้งปณิธานมุ่งมั่นกับสายอาชีพที่เลือก
ฟ้าณดาตั้งใจว่าสักวันหนึ่ง เธอจะต้องมีชื่อเสียงในวงการนี้ให้ได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็นะ...
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?