ตอนที่ 14. เริ่มปรับตัว

“ไหนคุณแม่มือใหม่ วันนี้ทำเมนูอะไรเอ่ย~”

เสียงเจื้อยแจ้วของคนนำเสนอหน้ากล้องก็คือนัทธมล ตอนนี้เธอมาที่หอของฟ้าณดาเพื่อถ่ายคลิปทำขนม ก่อนจะนำไปตัดต่อแล้วก็อัพลงช่องของเธอ

ฟ้าณดามีชื่อเสียงมากขึ้น นอกจากจะมีลูกค้ามาสั่งขนมในเพจของเธอไม่ขาดแล้ว ช่องของนัทธมลเองก็มีแฟนคลับติดตามเพิ่มขึ้นเช่นกัน

แต่ไม่ใช่ว่าฟ้าณดามาเกาะเพื่อนดังหรอก เพราะขนมของเธอเองก็อร่อยมากอยู่แล้ว อีกทั้งพวกแฟนคลับยังพูดกันอีกว่าเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่สวยมาก โดยเฉพาะพวกผู้ชายนี่มีแต่คนอยากส่งกำลังใจให้เต็มไปหมด

นัทธมลถือกล้องอัดคลิปต่อไป ส่วนฟ้าณดาก็ทำขนมของเธอ มีหันมาพูดแล้วก็ยิ้มให้กล้องบ้าง แต่เพราะนิสัยที่เป็นคนค่อนข้างขี้อายเลยทำให้เธอไม่ได้พูดอะไรเยอะ ส่วนใหญ่คนที่ดำเนินรายการหลักคือเจ้าของช่องนั่นแหละ

“จากคลิปที่แล้ว มีคนคอมเมนต์ถามเยอะมากเลยว่ายัยฟ้าท้องโตมากทั้งที่พึ่งจะสามดือนแท้ ๆ แถมยัยฟ้ายังบอกว่าแพ้ท้องหนักมาก เมื่อสัปดาห์ก่อนคุณหมอนัดไปอัลตร้าซาวด์พอดี ก็เลยได้รู้ว่าในท้องของเพื่อนนัทตอนนี้มีหนูน้อยอยู่ตั้งสองคนแน่ะ”

นัทธมลร่ายเสียยืดยาว ท่าทางของเธอดูตื่นเต้นเสียอย่างกับเป็นคุณแม่เองอย่างนั้น

ส่วนฟ้าณดา เธอเพียงส่งยิ้มเล็ก ๆ ให้กล้องตามประสาคนพูดน้อย

“คุณหมอบอกว่าเดือนหน้าเราคงจะได้รู้เพศของเด็ก ๆ แล้วใช่ไหมฟ้า”

“อื้ม ระหว่างนี้พวกเราก็เริ่มจะคิดเรื่องชื่อลูกเอาไว้บ้างแล้วล่ะค่ะ”

“แล้วไว้แนทจะพามาดูชีวิตประจำวันของคุณแม่สุดสวยใหม่นะคะทุกคน เจอกันคลิปหน้าค่ะ บ๊ายบาย~”

นัทธมลกดปิดกล้องเรียบร้อย ก่อนจะนำอุปกรณ์ทั้งหมดไปเก็บเข้าที่เข้าทาง แล้วก็มาช่วยฟ้าณดาแพ็คขนมต่อ เตรียมจะเอาไปส่งพรุ่งนี้เช้า

“แนท แกไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะ แค่แพ็คของเท่านี้ไว้เดี๋ยวฉันทำต่อเองก็ได้”

“ได้ไงล่ะ ฉันบอกแล้วว่าจะช่วยก็ต้องช่วยสิ”

นัทธมลยืนกราน เพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนต้องหักโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำ

จะว่าไป..เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฟ้าณดานอนดึกอยู่หรือเปล่า

“ฟ้า แกนอนเป็นเวลาหรือเปล่าช่วงนี้”

“ก็ต้องเป็นเวลาอยู่แล้วสิ” ฟาณดาตอบพลางหัวเราะเบาๆ ยังหลบสายตาอีก นัทธมลถึงรู้ทัน ต้องถอนหายใจใส่เพื่อนหนึ่งที “แกนอนดึกทุกวันอีกล่ะสิ”

เพราะว่าตอนนี้ฟ้าณดาไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท star entertainment แล้ว แต่เธอยังรับงานจากหัวหน้าคนเก่าอยู่ เมื่อเสร็จจากทำขนมจึงต้องมานั่งปั่นงานออกแบบและเร่งส่งให้ทันตามเดดไลน์

ฟ้าณดานิ่งไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมรับ “ก็แหม ช่วงนี้งานมันเยอะนี่ ทำไงได้ล่ะ”

“งานเยอะยังไงก็ต้องพักบ้างยัยฟ้า เห็นใจเจ้าแฝดหน่อย” นัทธมลว่าแล้วก็ยื่นมือไปลูบหน้าท้องที่พองกว่าปกติของเพื่อน ก่อนจะทำน้ำเสียงสงสารเอ็นดู “เจ้าหนูทั้งสองต้องรู้สึกแย่แน่ ๆ ที่คนเป็นแม่ไม่ดูแลสุขภาพ”

“อย่าเวอร์น่ะยัยแนท ฉันแค่นอนน้อยกว่าปกตินิดหน่อยเอง ส่วนเรื่องอื่นก็ยังดูแลตัวเองดีอยู่ แล้วก็กินอาหารได้เยอะกว่าเมื่อก่อนแล้วด้วย”

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อน ตอนที่แพ้ท้องหนัก ๆ จนต้องออกจากบริษัท ฟ้าณดาแทบกินอะไรไม่ได้เลย เพราะเหม็นจนจะอาเจียนไปหมด เทียบกับตอนนี้สภาพร่างกายของเธอเลยนับว่าดูดีขึ้นมาก

“ยังไงก็ช่าง แกเลิกแพ็คของแล้วไปนั่งเขียนแบบต่อได้แล้ว ฉันจะแพ็คขนมพวกนี้เอง”

“แต่ว่า..”

“ห้ามแต่ ถ้าทำงานเสร็จจะได้มานั่งเลือกชื่อลูกแกกันต่อไง”

นัทธมลเสนอตัวจะทำงานแทน ฟ้าณดาก็ย่อมต้องเกรงใจเป็นธรรมดา แต่ในเมื่อเพื่อนยืนกรานอย่างนั้น เธอก็จะยอมทำตามที่บอกก็ได้

และนับว่าเป็นโชคดีจริง ๆ เพราะวันนี้เป็นเดดไลน์ส่งงานวันสุดท้ายของฟ้าณดา ถ้านัทธมลไม่มาช่วยแพ็คขนม งานอาจจะเสร็จไม่ทันกำหนดก็ได้

เมื่อสองสาวเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็มานั่งอยู่ด้วยกันบนเตียง ฟ้าณดาระบายยิ้มกว้างอีกครั้ง “ขอบคุณนะแนท”

“เปลี่ยนคำขอบคุณของแกเป็นให้ฉันเก็บรูปคุณแม่สุดสวยไปอัพลงโซเชียลดีกว่า”

นัทธมลทำตัวเหมือนเป็นพ่อเด็กจริง ๆ เธอจะคอยเก็บรูปถ่ายพัฒนาการของฟ้าณดาเอาไว้ ทำเอาเพื่อนซึ้งจนร้องไห้เลยทีเดียว

ยิ่งเวลาที่ท้องแบบนี้ อารมณ์ผู้หญิงก็จะยิ่งอ่อนไหวง่าย ฟ้าณดาเลยกลายเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น

“ถ้าไม่มีแก ฉันไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง” เธอว่าน้ำเสียงสะอึกสะอื้น น้ำตาก็เริ่มเอ่อขึ้นมาจนนัทธมลตกใจ ต้องรีบขยับเข้าไปลูบหลังปลอบ

“แกอย่าร้องไห้สิฟ้า ไม่งั้นฉันจะร้องตามนะ”

ไม่รู้เพราะอยู่กับคนท้องมากไปอารมณ์เลยอ่อนไหวเป็นพิเศษด้วยหรือเปล่า ช่วงนี้นัทธมลก็บ่อน้ำตาตื้นเหมือนกัน

สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนรักทั้งสองกอดคอกันร้องไห้อยู่อย่างนั้นนานกว่าครึ่งค่อนชั่วโมง เมื่อร้องจนเหนื่อยนั่นแหละถึงจะหยุดกันไปเอง

“เอาล่ะ ๆ เรามานั่งคิดชื่อลูกของแกรอเอาไว้ดีกว่า” นัทธมลชวนพลางปาดน้ำตา ส่งกระดาษทิชชู่ให้ฟ้าณดาด้วย

“อื้อ” ว่าแล้วฟ้าณดาก็นั่งเสิร์ชชื่อลูกพลางจดเอาไว้ในโทรศัพท์ของเธอ “วันก่อนฉันเจอชื่อน่ารัก ๆ ด้วย สำหรับลูกผู้ชายน่ะ”

“จะว่าไป ฉันสังเกตว่าแกดูจะหาชื่อเด็กผู้ชายเยอะกว่าเด็กผู้หญิงอีกนะ”

ทั้งที่ยังไม่รู้เพศลูกกันแท้ ๆ แต่ฟ้าณดาดูเหมือนจะมีลางสังหรณ์บางอย่าง ทำให้เธอตั้งใจหาชื่อลูกชายมากเป็นพิเศษ

“อืม..ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าลูกน่าจะเป็นเด็กผู้ชายกันทั้งคู่นะ แต่ก็แค่เดา อาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้”

จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่สำคัญหรอก ในเมื่อเป็นลูกของเธอ เธอก็จะเลี้ยงให้ดีที่สุด

“แกว่าชื่อ “ไอเดน” กับ “อาเบล’ ดูน่ารักไหม?” ฟ้าณดาถามความเห็นเพื่อนด้วยดวงตาเปล่งประกาย

“อืม..ก็น่ารักนะ แต่แกจะให้ชื่อฝรั่งจริง ๆ เหรอ?”

นัทธมลไม่มั่นใจเลย ถึงรู้ว่าพ่อของเด็กสองคนนี้จะเป็นหนุ่มอังกฤษก็เถอะ แต่เธอกลับรู้สึกว่าไม่อยากให้เพื่อนไปนึกถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อยากให้มีอะไรที่ต้องจดจำเกี่ยวกับเขาอีก

“อื้อ.. ฉันว่าให้ใช้ชื่อที่ไม่ใช่ภาษาไทยนี่แหละ อย่างน้อยเวลามีใครมาถามเขาจะได้ไม่งงไง”

ว่าพลาง มือขาวเรียวก็ลูบหน้าท้องของตัวเองเบา ๆ คล้ายเธอกำลังพร่ำบอกลูกในท้องไปด้วยอย่างนั้น

“ฉันจำได้ว่าพ่อของเด็กสองคนนี้มีผมและตาสีน้ำตาลทอง...ลูกก็คงออกมาหน้าตาไม่ได้ต่างกันเท่าไร ถ้าหากตั้งชื่อไทยมาก คนอื่นอาจจะมองว่าแปลกก็ได้”

“อืม ถ้างั้นฉันก็ไม่ขัดข้องหรอก”

ในเมื่อเพื่อนคิดอย่างนั้น ก็ให้ตามใจเธอเถอะ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนอุ้มท้องแล้วก็คลอดเองอยู่แล้ว

แต่เห็นท่าทางของฟ้าณดาดูรักใคร่เด็กสองคนที่กำลังจะเกิดขึ้นมามากอย่างนี้ นัทธมลก็ดีใจไปด้วย อย่างน้อยภาพจินตนาการอันเลวร้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงล่ะนะ

ทีแรกนัทธมลแอบคิดว่าชีวิตของสามแม่ลูกต่อจากนี้จะเหมือนในนิยายดราม่าหรือไม่.. แบบที่แม่เกลียดลูกตัวเองเพราะว่าเกิดมาจากความไม่ตั้งใจ แถมยังเกิดมาจากผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก เรียกว่าไม่ได้รู้จักด้วยซ้ำ

แต่ฟ้าณดาไม่ใช่คนจิตใจโหดร้ายขนาดนั้น เธอคิดว่าถึงอย่างไรเด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย คนที่ต้องรับผิดเรื่องที่ทำให้ชีวิตของเธอพลิกผันน่ะ คือคนเป็นพ่อต่างหาก

ค่ำคืนนั้น ทั้งสองทำอาหารง่าย ๆ กินกัน แล้วก็นั่งคิดชื่อลูกแฝดต่อไปเพลิน ๆ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ