ตอนที่ 12. ข้าเป็นเพียงชายที่ผ่านทาง

“เชิญเข้ามาด้านในได้” ชุยเทียนหนิงกล่าวเรียกไต้เว่ยให้เข้ามาภายในเรือนของตนเอง

“ว่านอี้อยู่ด้านในหรือไม่”

“นางรอท่านอยู่ด้านใน” ชุยเทียนหนิงพยายามตอบไต้เว่ยไปตามที่เขาถาม แม้ใจจะไม่อยากบอกเลยก็ตามที

“ท่านเป็นอะไรกับนางหรือ ข้าหวังว่าท่านจะไม่ได้เป็นสามีใหม่ของนางหรอกนะ” ไต้เว่ยเอ่ย เขารู้สึกไม่ถูกชะตากับชายคนนี้อย่างมาก เพียงแค่เห็นหน้าก็รับรู้ได้แล้วว่าต้องคิดไม่ซื่อกับว่านอี้อย่างแน่นอน หากเขามาช้ากว่านี้ มีหวังทั้งภรรยาและบุตรในครรภ์คงโดนคนตรงหน้าแย่งไปเป็นแน่

“ข้าเป็นเพื่อนของนาง” ชุยเทียนหนิงตอบออกไป ภายในใจร้อนรุ่มเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายจงใจหยั่งเชิงตนเอง ความไม่พอใจสุมอกท่วมท้น แต่ชุยเทียนหนิงก็พยายามที่จะใจเย็นลง เพราะการมีเรื่องกับชายคนนี้คงไม่เป็นผลดีกับหานว่านอี้นัก

“เช่นนั้นก็ดี แต่น่าแปลก ชาวบ้านชาวเมืองนั้นลือกันสนั่นว่าท่านคิดจะมายืนแทนที่ตำแหน่งสามีอย่างข้า หวังว่านั่นจะเป็นแค่เพียงเรื่องเข้าใจผิด”

“บางทีท่านอาจเข้าใจอะไรผิด เพราะตอนนี้ท่านเป็นเพียงแค่อดีต หาใช่สามีของนางไม่” ชุยเทียนหนิงตอบ ใช่ สำหรับเขานั้นมันคือเรื่องจริง เขาอยากดูแลหานว่านอี้ด้วยใจที่หวังดีและรักนางดั่งเช่นที่นางเป็น มิได้คิดพิศวาสเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก หานว่านอี้นางเป็นสตรีที่จิตใจดี มีคุณธรรมและเมตตา ทั้งยังรู้จักเกรงอกเกรงใจ

การใช้ชีวิตที่นี่ลำบากกว่าการอยู่กับไต้เว่ย แต่หานว่านอี้ก็ไม่ปริปากบ่น นางมักจะบอกอยู่เสมอด้วยซ้ำว่าขอบคุณชุยเทียนหนิงที่เมตตาช่วยเหลือนาง และนางนั้นชอบที่นี่เพียงใดนั่นทำให้ชุยเทียนหนิงเกิดคิดโลภมากว่าบางทีนางอาจจะอยากอยู่กับเขาตลอดไปก็เป็นได้

“เพียงไม่นานหรอก ข้าเชื่อว่าสำหรับว่านอี้ข้าคงไม่เคยเป็นอดีตดังเช่นที่ท่านว่า” ไต้เว่ยสุดแสนจะทะนงตน เขามั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าตนเองนั้นเพียงแค่ผิดพลาดไปนิดเดียว แน่นอนว่าหานว่านอี้ผู้ใจดีย่อมต้องให้อภัย ความรักที่บ่มเพาะมาช้านานตั้งแต่วัยเยาว์ไม่มีทางถูกแทนที่ได้ด้วยชายแปลกหน้าที่โผล่มาไม่กี่เดือนหรอก

“ถึงแล้ว ข้าขอตัวไปเตรียมน้ำชา” ชุยเทียนหนิงกล่าวเพียงแค่นั้น เขาไม่คิดจะเอ่ยอะไรต่อให้มากความ รีบหาจังหวะเดินออกไปให้พ้นทันทีมิอยากจะอยู่ได้ยินเรื่องบาดใจอันใดทั้งสิ้น แม้ใจจะนึกเป็นห่วงหานว่านอี้อยู่บ้าง

“แม่นมจี้ ข้าขอน้ำชารับแขกที”

“ให้ข้ายกไปเลยหรือไม่เจ้าคะ” จี้เหมยเอ่ยถาม นางรู้สึกห่วงใยจิตใจของอาจารย์ชุยอย่างถึงที่สุด เพราะรู้ดีว่าชุยเทียนหนิงนั้นคิดเช่นไรกับหานว่านอี้

“แม่นมไปพักเถิด ตรงนี้ข้าจัดการเอง”

“แต่ว่า...”

“ข้าไม่เป็นไร นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว ถงถงคงรอแม่นมไปเล่านิทานให้ฟัง” ชุยเทียนหนิงยกถงถงมาเป็นข้ออ้าง อันที่จริงเขาอยากเข้าไปเองมากกว่าเพราะเป็นห่วงหานว่านอี้ ไม่อยากปล่อยให้นางอยู่กับสามีใจร้ายที่กล้าขับไล่ภรรยาท้องออกมาเพียงลำพัง

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นหากมีเรื่องอันใดเรียกใช้ข้าได้ตลอดนะเจ้าคะ ข้าจะอยู่ในห้องนอนกับถงถงอีกสักครู่จนแน่ใจว่านางหลับสนิทแล้ว”

ชุยเทียนหนิงไม่ได้ตอบกลับ เขาเพียงแค่พยักหน้าตอบรับไปเท่านั้น ร่างกำยำเดินถือถาดน้ำชาเข้าไปให้หานว่านอี้และแขกที่ไม่ได้รับเชิญ อีกเพียงนิดเดียวก็ใกล้จะถึงห้องโถงรับรองแล้ว แต่หูของชุยเทียนหนิงกลับได้ยินเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกมาเสียก่อนเขาจึงหยุดฟัง แม้มันจะเป็นการเสียมารยาทแต่ก็อยากจะรู้เช่นกันว่าหานว่านอี้จะตอบตกลงกลับไปกับชายผู้นั้นหรือไม่

“อี้เอ๋อร์ ข้าขอโทษที่ขับไล่เจ้าโดยไร้การตรวจสอบ ขอโทษที่ไม่แม้แต่จะฟังเจ้าอธิบาย ข้าผิดไปแล้ว” ไต้เว่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า

“เจ้าค่ะ” หานว่านอี้ตอบไปเพียงเท่านั้น สีหน้าของนางไร้ซึ่งความโศกเศร้า ทว่ากลับเต็มไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน นั่นเพราะวิญญาณภายในกายหาใช่หานว่านอี้ตัวจริงไม่ นางจึงไร้ซึ่งความผูกพันใด ๆ กับชายผู้นี้ ต่อให้เขานั้นร้องไห้จนจมธรณีหานว่านอี้ก็คิดว่านางคงมิเสียใจ

“เจ้าให้อภัยพี่แล้วกลับไปด้วยกันได้หรือไม่ ลูกของเรานับวันก็ใกล้คลอดขึ้นมาทุกที พี่อยากเลี้ยงดูฟูมฟักให้ความรักความอบอุ่นแก่เขา” ไต้เว่ยเอ่ยถ้อยคำสวยหรูมากมายออกมา แม้นั่นจะมาจากใจจริงแต่หานว่านอี้กลับรู้สึกว่ามันสายเกินแก้ไปเสียแล้ว

“ไฉนท่านจึงได้ออกมาตามหาข้าเล่าเจ้าคะ ในเมื่อยามที่ท่านขับไล่ข้า ท่านมั่นใจเสียเหลือเกินว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกของบุรุษอื่น”

“ข้ารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว ว่าแท้จริงข้าหาได้เป็นหมันไม่ หยูจิวซือเสี้ยมสอนให้พี่หลงมัวเมามองถูกเป็นผิด ไร้ซึ่งการไตร่ตรองที่ถี่ถ้วนกว่านี้ พี่ขอโทษ ช่วยให้อภัยชายผู้โง่เขลาผู้นี้สักคราได้หรือไม่ ถือเสียว่ามันเป็นความผิดพลั้งครั้งแรกของพี่ ตลอดมาพี่ก็ดีกับเจ้าเสมอ อย่าได้รังเกียจรังงอนอันใดกันอีกเลย” คำพูดของไต้เว่ยนั้นช่างเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ ชุยเทียนหนิงที่ได้ยินถึงกับกำหมัดแน่น ใจอยากจะพุ่งตรงเข้าไปขับไล่ชายคนนั้นออกจากเรือนเสียให้พ้น

“พี่รักเจ้านะอี้เอ๋อร์” เมื่อไต้เว่ยเห็นว่าหานว่านอี้ยังคงนั่งเงียบเขาจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครา

“ข้าก็รักท่าน...”

แกร๊ก!

ชุยเทียนหนิงวางถาดน้ำชาลงด้วยมือที่สั่นเทา เขาได้ยินประโยคตอบกลับของหานว่านอี้เต็มสองหู สุดท้ายแล้วนางก็ให้โอกาสคนใจร้ายได้กลับตัวสินะ...

“พวกเจ้าคุยกันตามสบาย ข้าขอตัว” ชุยเทียนหนิงหันหลังแล้วเดินจากไปในทันที เขาไม่อยากอยู่ต่อให้เจ็บปวดใจเล่นอีกแล้ว หากนี่เป็นการตัดสินใจของหานว่านอี้ ชุยเทียนหนิงก็คงไม่มีสิทธิ์อะไรไปขัด เขาคงทะนงตัวและคาดหวังมากเกินไปว่าหานว่านอี้จะมีใจให้ตัวเอง

“ท่านเทียนหนิง!” หานว่านอี้ทำท่าจะลุกตามแต่ก็ถูกไต้เว่ยจับข้อมือเอาไว้

“ไม่ต้องไปตามเขาหรอกอี้เอ๋อร์ ดูเพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าบุรุษผู้นั้นคิดเกินเลยกับเจ้า เจ้ากลับไปกับพี่ดีกว่า” ไต้เว่ยโน้มน้าว หัวใจของไต้เว่ยพองฟูขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินประโยคของหานว่านอี้ แต่ทว่าก็กลับต้องห่อเหี่ยวไปตามเดิมเมื่อนางหันมาเอ่ยกับเขาต่อ

“ท่านอย่าเพิ่งดีใจไปเลยไต้เว่ย ที่ข้าเอ่ยเมื่อครู่ข้าหมายถึงว่าข้ารักท่าน แต่นั่นมันเป็นแค่เพียงอดีตเท่านั้น อดีตที่ผ่านมามันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว ความรู้สึกที่เสียไปของข้าเองก็เช่นกัน ท่านนั้นหมดสิทธิ์ในตัวข้าไปตั้งแต่วันที่ท่านขับไสไล่ส่งทั้งข้าและลูกออกมาจากตระกูลไต้แล้ว”

“แต่...อี้เอ๋อร์ ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

“หากท่านยังมีความรู้สึกดี ๆ กับข้าก็ปล่อยข้าไปตามทางเถิด ตอนนี้หัวใจของข้าเป็นของท่านเทียนหนิงไปแล้ว เป็นเขาที่ดูแลและเอาใจใส่ข้าในยามที่ข้ากับลูกไร้ที่พึ่งพา ข้าเลือกจะพบเจอและพูดคุยกับท่านในครานี้ เพื่ออธิบายให้ท่านได้เข้าใจเท่านั้น ปล่อยเรื่องของเราให้มันเป็นเพียงอดีต และกลับไปเริ่มต้นใหม่กับฮูหยินของท่านเถิด อย่าฝืนใจข้าเลย” หานว่านอี้กล่าว แววตาของนางไร้ซึ่งความอาลัยอาวรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

ทำให้ไต้เว่ยที่ได้เห็นรู้สึกว่านี่ไม่ใช่หานว่านอี้ที่เขารู้จักแล้ว และเริ่มเข้าใจได้ว่าความผิดพลาดของตนเองนั้นมันหนักหนาเกินจะย้อนกลับไปแก้ไข สิ่งผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดของเขาคือความไว้ใจ ทั้งที่มันถูกบ่มเพาะมานานแต่กลับหมดความไว้ใจได้ง่าย ๆ เพียงเพราะลมปากของคนอื่น

“ข้าขอโทษ อี้เอ๋อร์ ข้าไม่มีอะไรจะแก้ตัวกับเจ้า” ไต้เว่ยได้แต่คอตก น้อมรับชะตากรรมของตนเอง เขาจะต้องเสียฮูหยินที่รักและบุตรในครรภ์ของนางไปให้มันเป็นเพียงแค่ความทรงจำ เพราะหัวใจของเขานั้นมันรวนเรไร้ความเที่ยงธรรม

“ท่านกลับไปเถิด ข้าจะให้ท่านป้าจี้ออกไปส่ง ข้าขอตัว” หานว่านอี้ไม่รอฟังคำพูดใด ๆ จากปากของไต้เว่ยอีก ปล่อยให้บุรุษหนุ่มได้ไปตกตะกอนความคิดด้วยตนเอง เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญกับนางจริง ๆ นั้นอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

ชุยเทียนหนิง...นางจะไม่ยอมเสียเขาไปเป็นอันขาด

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ