ตอนที่ 28. ตามดูแล

หลายวันผ่านไป อีธานก็เริ่มจะทำตัวคล้ายสตอล์คเกอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ

นั่นเป็นในความคิดของโนอา เพราะเขาเห็นเพื่อนเอาแต่แอบตามดูความเคลื่อนไหวของสามแม่ลูกไปทุกที่ เรียกว่างานการแทบจะไม่สนใจทำแล้ว

แล้วงานพวกนั้น ใครต้องเป็นคนสะสางแทนล่ะ... ก็โนอาเลขาคนดีคนนี้ไงครับ

ท่านประธานครับ ไม่ทราบว่าจะเลื่อนลูกตามาดูเอกสารตรงนี้ได้หรือยังครับ?”

เสียงของเลขาหนุ่มว่าประชด ขณะจดจ้องไปที่เพื่อนซึ่งตอนนี้เปลี่ยนสถานะเป็นเจ้านายเพราะทั้งคู่อยู่ในที่ทำงาน

อีธานถึงกับสะดุ้งเบา ๆ เพราะเขากำลังใช้สมาธิไปกับการจดจ้องภาพจากกล้องวงจรปิดที่โชว์อยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่

แล้วสิ่งที่เขามองอยู่นั้น จะเป็นอะไรไปได้ หากไม่ใช่ภรรยาคนสวยอย่างฟ้าณดา

วันนี้ฟ้าณดากลับมาที่บริษัทเพื่อเข้าประชุมเรื่องการออกแบบเสื้อผ้าที่จะใช้ในงานแฟชั่นโชว์ครั้งหน้าที่จะจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส

ช่วงนี้ฟ้าณดาได้กลับมาที่ star entertainment บ่อย ๆ เพราะว่าพอลูกเริ่มโต เธอก็ไม่ค่อยได้รับงานแบบ work from home มากนัก

ความจริงอรอุมาก็เห็นใจฟ้าณดาอยู่หรอก แต่เพราะว่าเธอได้รับคำสั่งจากประธานใหญ่มาอีกทีว่าให้ฟ้าณดาเริ่มกลับมาทำงานที่นี่สลับกับทำงานที่บ้าน เวลามีการประชุมแต่ละทีฟ้าณดาเลยต้องมาเข้าร่วมอย่างช่วยไม่ได้

ที่อีธานสั่งอย่างนั้น จุดประสงค์ก็มีเพียงข้อเดียว เขาจะได้แอบดูเธอผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่แทบทุกมุมในตึกแห่งนี้อย่างไรเล่า

เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ

คนนั่งเก้าอี้ประธานกระแอมเบา ๆ ก่อนจะทำเป็นตั้งใจเปิดดูแฟ้มเสนอเอกสารที่โนอาเอามากางไว้ตรงหน้า แต่สุดท้ายดวงตาของเขาก็ยังไม่ละจากจอคอมอยู่ดี

ภาพนี้ทำเอาเลขาหนุ่มต้องถอนหายใจ เอาล่ะ ๆ ถ้านายเริ่มจะอ่านไม่ไหว งั้นฉันจะขออนุญาตเล่ารายละเอียดเอกสารให้ฟังแล้วกัน นายพิจารณายังไงฉันจะเขียนคอมเมนต์ไปตามนั้น

ปกติเลขาก็มีหน้าที่สแกนดูความเรียบร้อยของเอกสารคร่าว ๆ อยู่แล้ว ส่วนเรื่องอำนาจการตัดสินใจน่ะต้องให้เป็นไปตามที่อีธานพอใจอีกที

แต่เดี๋ยวนี้งานของโนอาเริ่มจะมากขึ้น เพราะต้องเป็นคนช่วยประมวลผลทุก ๆ อย่าง เรียกว่านอกจากทำหน้าที่เป็นมือเท้าให้แล้ว ยังต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนหูตาจมูกปากแทนด้วย

แบบนี้จะไม่ให้เหนื่อยใจจนเผลอหลุดมาดเลขากลับมาเป็นเพื่อนธรรมดาได้อย่างไร หากไม่เกรงใจกันยิ่งกว่านี้ โนอาคงจะเผลอด่าอีธานไปหลายยกแล้ว

สุดท้าย กว่าจะเคลียร์งานเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมง ๆ เพราะอีธานไม่มีสมาธิเลย แถมตอนประชุมกับบอร์ดบริหารช่วงบ่าย เขาก็ยังเผลอใจลอยไปจนฟังอะไรแทบไม่รู้เรื่องอีก

กว่าจะหมดวันได้ก็ทำเอาโนอาเหมือนแทบลากเลือดเลยทีเดียว

ขอล่ะ.. ขอให้คุณฟ้าตอบรับความรู้สึกของอีธาน อย่าให้เธอปฏิเสธเขาเลย ไม่อย่างนั้นโนอาคนนี้ต้องได้ตายเพราะโดนงานทับร่างแน่ ๆ

โนอาว่าในใจขณะจัดการเอกสารกองพะเนินที่เพื่อนอ่านทิ้งไว้

ส่วนเจ้าตัวน่ะหรือ..ตอนนี้แอบแวบลงไปข้างล่างเรียบร้อยแล้ว เพราะมองกล้องวงจรปิดไปเห็นว่าหญิงสาวที่ชื่อนัทธมลพาลูกชายฝาแฝดมาส่งที่บริเวณเคาน์เตอร์เซอร์วิสเหมือนเคย

ทางฝั่งของไอเดนกับอาเบล...เมื่อเช้าแม่ของเขาบอกว่าต้องเข้าบริษัท และวันนี้จีจี้กับนัทธมลก็ไม่ว่าง เลยจำเป็นต้องให้ลูกมานั่งรอเหมือนเดิม

ฟ้าณดาบอกกับลูก ๆ ว่าไม่อยากให้พวกเขามาเลย เพราะกลัวว่าจะได้เจอกับคนไม่หวังดี ทำให้ลูก ๆ รู้สึกแย่ แต่มันเป็นเหตุจำเป็น เด็กน้อยทั้งสองก็เข้าใจ

อืม..หิวจัง

ไอเดนเริ่มบ่นขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับเสียงท้องร้องให้น้องชายได้ยิน อาเบลก็หันมาตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน อาเบลก็หิวนิดหน่อย

เด็ก ๆ อยู่ในวัยกำลังโต เวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้ ปกติฟ้าณดาจะต้องรีบพากลับบ้าน และมีอาหารกินเล่นหรือขนมรออยู่เสมอ แต่เพราะวันนี้อยู่ข้างนอก เลยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้กินของว่างตรงเวลา

ด้วยความเป็นเด็กดี พวกเขาจะไม่กล้าบอกพนักงานที่ช่วยดูแล เพราะไม่อยากไปรบกวนการทำงานของใคร

อ้าว! เจอกันอีกแล้ว

เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังเด็ก ๆ ให้ดวงตากลมใสสองคู่เลื่อนไปมอง

ก่อนจะกลายเป็นฉายแววผิดหวังออกมา...เพราะคนที่เข้ามาทักทาย คือคนที่สองแฝดไม่อยากเจอมากที่สุด

ศรัณย์นั่นเอง

แต่ด้วยความที่ฟ้าณดาสอนไอเดนกับอาเบลให้เป็นเด็กมีมารยาท รู้จักไปลามาไหว้ พวกเขาจึงยกมือไหว้ สวัสดีครับลุงศรัณย์

มารอแม่เหรอ?” เขาถาม ไอเดนกับอาเบลก็พยักหน้าตอบแบบไม่ค่อยกล้าสบตามากนัก

แล้วนี่กินอะไรกันมาหรือยัง? อยากให้ลุงพาไปกินขนมเหมือนเดิมไหม

ศรัณย์ย่อเข่าลงมาคุยด้วย ทำให้ไอเดนกับอาเบลตกใจ เผลอก้าวถอยไปก้าวเล็ก ๆ

ท่าทางอย่างนี้บ่งบอกว่าเด็กชายทั้งสองไม่อยากเจอ และไม่อยากเข้าใกล้ศรัณย์สุด ๆ ในใจพวกเขาภาวนาว่าขอให้แม่มาหาเร็ว ๆ หรืออย่างน้อยเป็นใครก็ได้ที่มาพาพวกเขาไปให้ไกลจากชายคนนี้

ไอเดน อาเบล

ในตอนที่ทั้งสามเผชิญหน้ากันนั้นเอง ราวกับว่าสวรรค์จะได้ยินคำขอของเด็กชายทั้งสอง เพราะมีเสียงที่ไม่คุ้นเคยเท่าไรเอ่ยเรียกจากทางด้านหลังศรัณย์อีกที

ทว่าเมื่อชะเง้อมองแล้ว ทั้งไอเดนกับอาเบลก็ต้องเผยรอยยิ้มกว้าง ลุงอีธาน!”

อีธานปรากฏตัวอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และนั่นทำให้ศรัณย์ตกใจเล็กน้อย

เมื่อขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดแล้ว เขาก็ต้องมีเข้าประชุมกับพวกผู้บริหารบ้างเป็นครั้งคราว และมีบางครั้งที่จะได้พบกับท่านประธานใหญ่อย่างอีธานด้วย ถึงแม้จะน้อยครั้งมากแต่เขาก็ยังจำหน้าอีกฝ่ายได้แม่น

คุณอีธาน ยังอยู่ที่เมืองไทยเหรอครับ ผมนึกว่ากลับประเทศอังกฤษไปแล้วเสียอีก

ศรัณย์ทักทายพร้อมส่งรอยยิ้มประจบ อีธานก็ตอบรับเพียงไม่มาก ยังคงมาดนิ่งขรึมอยู่เหมือนเดิม พอดีช่วงนี้งานที่ไทยมีเยอะกว่าที่บริษัทแม่น่ะ

เมื่อก่อนเขาก็มีบินไปบินมาอย่างนี้บ้าง แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าจะมาอยู่นานเป็นพิเศษ นั่นทำให้ศรัณย์นึกแปลกใจ

อีธานไม่ได้สนใจจะคุยกับศรัณย์มากนัก เขาเพียงหันมาสนใจเด็กชายทั้งสองต่อ หิวไหม ลุงจะพาไปทานข้าว

คุณอีธานไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ เด็กสองคนนี้เป็นลูกพนักงาน เดี๋ยวผมดูแลให้เอง

ศรัณย์คงตั้งใจจะประจบคนใหญ่คนโตเหมือนเคย แต่นั่นทำให้อีธานไม่ค่อยพอใจนัก

ไม่เป็นไร ผมอยากอยู่กับเด็ก ๆ อีกอย่าง คุณน่าจะมีงานเหลือให้ทำอยู่นะ

เมื่อเขาเตือนเรื่องงานขึ้นมา ศรัณย์ก็ไม่กล้าที่จะแย้งอะไรต่อ ได้เพียงตอบรับอย่างสุภาพเท่านั้น ครับคุณอีธาน

ส่วนอีธาน เขาย่อเข่าลงมาข้างหนึ่งเพื่อคุยกับลูก ไปหาอะไรกินกับลุงไหม เสร็จแล้วเดี๋ยวลุงพามาส่งที่นี่

ครับ

ไอเดนกับอาเบลไม่ปฏิเสธ ถึงทั้งคู่จะไม่ได้รู้จักอีธานมากนัก แต่ก็ยังรู้สึกดีเวลาอยู่ด้วยมากว่าตอนอยู่กับศรัณย์

ชายหนุ่มร่างสูงจูงมือเด็กน้อยทั้งสองคนละข้างก่อนพาเดินออกจากบริษัท ตอนนั้นไอเดนกับอาเบลก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าทำไมทุกคนถึงมองอีธานอย่างตะลึงอย่างนั้น

คุณลุงอีธานทำงานที่นี่ด้วยเหรอครับ?”

ไอเดนถาม อีธานก็หันมาส่งยิ้มอบอุ่น ใช่ครับ แต่ลุงไม่ค่อยได้เข้ามาหรอก นาน ๆ ทีเวลามีเรื่องสำคัญถึงจะได้มาน่ะ

เหมือนคุณแม่เลยครับ คราวนี้เป็นอาเบลที่ว่าขึ้นมา ยังเงยหน้ามองด้วยแววตาเปล่งประกาย

งั้นเหรอ

อีธานเพียงตอบรับเสียงนุ่มทุ้ม ราวกับว่าเขาไม่ได้รู้เรื่องของฟ้าณดามาก่อน

          แต่ความจริงเขาตามสืบจนรู้หมดทุกอย่างแล้วนั่นแหละ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ