ตอนที่ 1. ชิงทุน

แสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์สาดส่องใบหน้าสวยหวานของ 'ฟ้าณดา ราชพฤกษ์' นักศึกษาปีหนึ่งคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบ เธอจ้องมองประกาศผลการประกวดออกแบบชุดราตรียาวในธีม 'ค่ำคืนแห่งดวงดาว' บนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอย่างตื่นเต้น

"เยส!!" เสียงอุทานดังลั่นห้องพัก ทำเอา 'นัทธมล' หรือ 'แนท' เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ สะดุ้งโหยง

"แกเก่งมากเลยฟ้า!" นัทธมลเอ่ยชมเสียงดัง พลางโน้มตัวมาดูหน้าจอใกล้ๆ

ฟ้าณดายิ้มกว้างด้วยความปลาบปลื้ม ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับเงินรางวัลหนึ่งหมื่นบาท แต่ชุดราตรีที่เธอออกแบบจะถูกนำไปตัดเย็บจริงให้ดาวคณะสวมใส่ในคืนวันประกวด และหากเป็นที่ถูกตาถูกใจ อาจจะทำให้ได้ทุนจากผู้ใหญ่ที่มาชมงานก็ได้

"แกว่าฉันจะได้ทุนไหม?" ฟ้าณดาหันไปถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวซึ่งเรียนอยู่ต่างคณะ น้ำเสียงแฝงความกังวลเล็กน้อย

นัทธมลยิ้มกว้าง "ต้องได้สิ! ถ้าฉันเป็นผู้ใหญ่เข้ามาเห็นงานนี้ คงเซ็นอนุมัติทุนตั้งแต่ยังไม่เอาไปตัดเป็นชุดด้วยซ้ำ"

ฟ้าณดาส่ายหน้าเบาๆ พลางยิ้มน้อยๆ "แกไม่ต้องอวยฉันขนาดนั้นก็ได้นะแนท"

แม้จะเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง แต่ฟ้าณดาก็มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบที่โดดเด่น เธอเติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า และต้องดิ้นรนต่อสู้มาตลอดชีวิตเพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา ความสำเร็จในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญของเธอ

"โถ่ ถ้าฉันไม่อวย แล้วใครจะอวยแกล่ะ" นัทธมลทำหน้ามุ่ย พ่นลมหายใจยาว "แกมั่นใจในตัวเองหน่อยสิฟ้า อุตส่าห์มีพรสวรรค์ทั้งที เป็นฉันนะจะวิ่งไปป่าวประกาศทั่วคณะเลย ว่าฉันคนนี้แหละดาวเด่นมาแรงที่สุดในบรรดาปีหนึ่ง"

“แกก็มั่นเกิน” ฟ้าณดาว่าด้วยสีหน้าหนักใจพลางขำเบา ๆ

นัทธมลเป็นเพื่อนที่มาจากโรงเรียนมัธยมเดียวกันกับฟ้าณดา และเลือกเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ เพราะที่บ้านมีกิจการอยู่แต่เดิม พ่อของเธอยังตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบจะให้นัทธมลไปดูแลสานกิจการของที่บ้านต่อไป

“มันก็ต้องอย่างนั้นแหละถูกแล้ว” นัทธมลยังคงเชิดหน้าว่าต่ออย่างไม่นึกเขิน

ชีวิตของนัทมลสุขสบายมาก เรียกว่าเป็นลูกคุณหนูจริง ๆ แต่ที่ย้ายมาอยู่หอในนี่ก็เพราะติดเพื่อน อยากอยู่กับฟ้าณดาเท่านั้น

กลับกัน เมื่อเทียบแล้วฟ้าณดาไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเท่า จะบอกว่าเป็นขั้วตรงข้ามก็ไม่ผิด เพราะเธอเติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า ก่อนที่จะอายุครบกำหนดที่จะต้องออกจากบ้านเพื่อมาทำมาหากินและดิ้นรนด้วยตัวเอง เธอตะเกียกตะกายเอาตัวเองไปสอบชิงทุนเพื่อให้ได้รับการศึกษาเท่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน และมันเป็นเช่นนี้มาตลอดจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเธอถึงไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าได้นั้น..แม้แต่ตัวฟ้าณดาเองยังไม่ทราบเช่นกัน เพราะตั้งแต่จำความได้ ผู้ดูแลก็บอกว่าเธอโดนเอามาทิ้งไว้หน้าประตูสถานสงเคราะห์ตั้งแต่ยังแบเบาะ

หากถามว่าฟ้าณดารู้สึกเจ็บปวดกับความอาภัพในโชคชะตาของตัวเองหรือไม่.. มันก็มีบ้าง แต่มันไม่ทำให้เธอสิ้นหวังถึงขั้นจะหมดอาลัยตายอยากในชีวิตหรอก ในตัวเธอยังมีเลือดนักสู้อยู่ และเชื่อมั่นด้วยว่าถ้าหากพยายามมากพอ สักวันจะได้มีชีวิตดี ๆ อย่างที่หวัง

"ฟ้า ถ้าแกได้ทุนจาก Star Entertainment สี่ปีต่อจากนี้แกก็สบายแล้ว" นัทธมลพูดพลางนึกภาพอนาคตที่สดใสของเพื่อนรัก

Star Entertainment เป็นบริษัทออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเครื่องประดับชื่อดังระดับโลก ที่มีโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีความสามารถ โดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อเรียนจบจะต้องมาทำงานชดใช้ทุนที่บริษัท

ตั้งแต่ที่ star entertainment มาตั้งบริษัทสาขาที่ประเทศไทย ก็พบว่าพนักงานที่เรียนจบจากสาขาการออกแบบของมหาวิทยาลัยที่ฟ้าณดาเรียนอยู่นั้นมีความสามารถมาก เสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาทำให้แบรนด์กลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แถมยังฮิตติดตลาดอย่างต่อเนื่อง

ทางคู่สามีภรรยาผู้ก่อตั้งอย่าง ‘โอลิเวอร์ ฮาเวนฟอร์ด’ และ ‘ศลิษา ฮาเวนฟอร์ด’ จึงตั้งใจจะลงทุนในคนพวกนี้ รวมถึงทั้งคู่เป็นคนใจบุญ จึงเกิดโครงการสอบชิงทุนการศึกษาขึ้นมา ซึ่งทุนนี้มีเงื่อนไขว่าเมื่อเรียนจบ นักศึกษาจะต้องมาทำงานชดใช้ทุนที่บริษัทนี้ แต่เป็นการทำงานและชดใช้ทุนเพียง 10% จากทุนที่รับมาเท่านั้น เพราะที่จริงแล้ว star entertainment หวังต่อยอดให้นักศึกษาที่ตัวเองลงทุนไปกลับมาทำผลงานและสร้างประโยชน์ให้กับบริษัท อีกทั้งได้สร้างงานให้กับเด็กเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องอีก

ข้อเสนอของผู้ใจบุญเป็นที่สนใจของเหล่านักศึกษาอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่มีโอกาสไม่มากเท่าชาวบ้านอย่างฟ้าณดา

ฟ้าณดารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสครั้งนี้ เธอหวังว่าจะได้รับการคัดเลือกให้ได้รับทุน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่การมีอนาคตที่สดใสในวงการออกแบบแฟชั่น

และเมื่องานประกวดดาวเดือนจบลง ก็ดูเหมือนว่าโชคชะตาตั้งใจมอบทางสว่างให้กับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของฟ้าณดา เพราะงานออกแบบเสื้อผ้าให้ดาวคณะใส่ประกวดเป็นที่จับตามองมาก เรียกว่าคนที่มาดูการประกวดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เสียชื่อสาขาการออกแบบจริง ๆ นอกจากจะตีโจทย์แตกแล้วยังเป็นชุดที่สวยงามโดดเด่นที่สุดอีก

แล้วแบบนี้..มีหรือที่จะไม่เข้าตากรรมการ

ผู้มาร่วมดูการประกวดดาวมหาวิทยาลัย นอกจากจะมีเหล่าอาจารย์แล้ว ยังมีคนจากแผนกออกแบบแฟชั่นของบริษัท star entertainment อีกด้วย และพวกเขาก็ชมกันไม่ขาดปากก่อนจะส่งเรื่องไปให้ผู้มีอำนาจในการอนุมัติทุนการศึกษา

หลังจากนั้นไม่นาน ชื่อของฟ้าณดาก็กลายเป็นที่จับตามองในมหาวิทยาลัย ผู้คนต่างชื่นชมผลงานการออกแบบชุดของเธอว่าโดดเด่นและสวยงามที่สุด

"ฉันบอกแล้วว่าแกต้องได้ทุน!" นัทธมลเป็นคนแรกที่มาร่วมยินดี ถึงขั้นเดินถ่อจากคณะบริหารมาถึงโรงอาหารของคณะศิลปกรรมเลยทีเดียว ทั้งที่จะกลับไปคุยกันที่หอพักก็ได้แท้ๆ

ฟ้าณดายืนอมยิ้มเขินๆ "ขอบใจนะ" เธอพูดเบาๆ

"แกจะมาขอบใจฉันทำไม? ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เป็นแกต่างหากที่พยายามด้วยตัวเองจนคว้าทุนมาได้" นัทธมลพูดพลางหัวเราะ

"ก็...แกเป็นคนคอยให้กำลังใจฉันไง" ฟ้าณดาตอบอย่างจริงใจ

ฟ้าณดาเป็นคนนิสัยอย่างนี้ ไม่ว่าใครมาทำดีด้วย แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ยังให้ความสำคัญ ไม่มองข้าม ไม่ลืมบุญคุณคนต่อให้ตัวเองอยู่ในจุดที่สูงหรือต่ำกว่าก็ตาม เพื่อน ๆ ในคณะถึงไม่มีใครหมั่นไส้ กลับกลายเป็นเอ็นดูความน่ารักของหญิงสาวด้วยซ้ำ

นัทธมลเองก็เช่นกัน และด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี ทำให้เธอยิ่งรู้สึกอยากปกป้องฟ้าณดายิ่งขึ้น

นัทธมลรู้สึกซาบซึ้งใจกับคำพูดของเพื่อน "ไหนๆ วันนี้ก็มีเรื่องดีแล้ว เราไปฉลองกันดีกว่า!" เธอจูงมือฟ้าณดาพาไปที่ลานจอดรถ ตั้งใจจะพาไปกินข้าวในห้างฯ ใกล้กับมหาวิทยาลัย "เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง!"

“ไม่ได้นะแนท ฉันจะให้แกเลี้ยงได้ไง” ฟ้าณดาเอ่ยค้านเสียงดัง

“ได้สิ วันนี้ก็มีเรื่องดีเกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน คุณพ่อพึ่งโทรมาบอกว่าไตรมาสนี้บริษัทคุณพ่อได้กำไรเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แถมโอนเงินมาให้ฉันแล้วด้วย อย่างนี้มันก็ต้องกันฉลองกันหน่อย”

ฟ้าณดาพยายามปฏิเสธ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเจอความตื๊อของนัทธมล สุดท้ายเธอจึงยอมตามเพื่อนไปฉลองความสำเร็จด้วยกัน

เรื่องกำไรที่บริษัทของพ่อนัทธมลจะจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้หรอก แต่ช่างเถอะ ฟ้าณดาคิดว่าในเมื่อเพื่อนของเธอคึกคักร่าเริงเสียจนอยากกินอยากเที่ยวให้สบายใจ งั้นตามน้ำไปหน่อยก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย

มีเพื่อนน่ารักมันก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ..

ขณะที่ทั้งออกจากมหาวิทยาลัยไป ฟ้าณดารู้สึกอบอุ่นใจที่มีเพื่อนที่เข้าใจและคอยสนับสนุนเธอเสมอ เธอหวังว่าความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพที่สดใสในวงการออกแบบแฟชั่น และเธอจะได้สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับตัวเองในอนาคต

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ