หลังจากเหตุการณ์ที่เกือบมีเรื่องกับเพื่อนข้างห้องวันนั้น ฟ้าณดาก็พยายามเสิร์ชหาบ้านเช่าราคาถูก โชคดีที่เมื่อเธอโพสต์คำถามลงไปในเพจแล้ว เหล่าแฟนคลับใจดีก็มาช่วยเธอหาบ้านเช่าด้วย จนในที่สุดก็เจอบ้านราคาน่ารักตั้งอยู่ในทำเลดีหลังหนึ่ง
ฟ้าณดารีบจัดการเก็บของเตรียมย้ายออก แน่นอนว่ามีนัทธมลคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ
ความจริงก่อนหน้าที่ฟ้าณดาจะหาบ้านเช่า นัทธมลก็เคยเสนอไปว่าให้เธอกับลูก ๆ มาอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านชั่วคราวดีไหม แต่ฟ้าณดาเกรงใจพ่อแม่ของนัทธมล เลยเลือกที่จะไปเช่าบ้านอยู่เอง
“จ่ายค่าขนของไปแล้ว แกยังพอมีเงินอยู่ไหมเนี่ยฟ้า”
นัทธมลถามด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าฟ้าณดาไม่มีรถ เธอเลยต้องใช้บริการจากบริษัทรับขนของย้ายบ้าน
แล้วสิ่งที่ได้รับตอบกลับมาก็เป็นเพียงรอยยิ้มที่ดูเศร้านิดๆ “ก็ยังพอมีอยู่นิดหน่อยแหละแนท”
นิดหน่อยที่แปลว่าน้อยจริง ๆ ฟ้าณดายังคิดอยู่เลยว่าช่วงสิ้นเดือนนี้เธออาจจะต้องอดข้าวสักสองสามวันก่อนที่เงินเดือนจะออก
“ฟ้า.. แกอย่าลืมนะว่าตอนนี้แกยังต้องให้นมลูกอยู่ ถ้าไม่มีเงินแล้วต้องบอกฉันนะ ฉันให้ยืมได้”
แล้วคนที่เป็นเพื่อนกันมาตลอดอย่างนัทธมล มีหรือจะดูไม่ออกว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะถ้าไม่มีเงินพอซื้อข้าว ฟ้าณดาก็มักใช้วิธีกินน้ำประทังชีวิตเอาก่อน เป็นแบบนี้มาตลอด กว่านัทธมลจะมารู้ก็เป็นตอนที่ร่างกายเพื่อนแทบไม่ไหวแล้วนั่นแหละ
ช่วงหลังคลอด ร่างกายของคุณแม่ต้องการสารอาหารมาก ถ้าเธอไม่กินข้าวแล้วลูกน้อยทั้งสองจะมีนมกินได้อย่างไร
โดนเพื่อนดุเพราะความเป็นห่วง ฟ้าณดาก็ได้แต่ก้มหน้าเผยยิ้มเศร้า “จริงสิ ฉันนี่เป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้เลย”
“ฉันรู้ว่าแกเป็นพวกไม่ชอบขอความช่วยเหลือ แต่เรื่องนี้สำคัญมากนะฟ้า ไว้แกมีแล้วค่อยเอามาคืนฉันก็ได้”
“อื้ม.. ขอบคุณมากนะแนท”
เพื่อลูกทั้งสองแล้ว ไม่ว่าเรื่องเลวร้ายแค่ไหน ฟ้าณดาก็คิดว่าเธอต้องเอาชนะอุปสรรคและผ่านมันไปอย่างเข้มแข็ง
นี่นับว่าโชคดีขนาดไหนที่เธอมีเพื่อนที่ดีอย่างนัทธมลอยู่ แล้วคนรอบตัวก็ใจดีกับเธอมาก อย่างเช่นอรอุมากับณิชา แล้วก็เหล่าแฟนคลับที่ติดตามเพจของเธอ
ช่วงนี้นัทธมลถ่ายรูปอาเบลกับไอเดนไปลงเพจบ่อย ๆ และก็มีคนที่หลงความน่ารักของสองแฝดจนมากดติดตามกันเพิ่ม แล้วยังมีคนถามถึงขนมของฟ้าณดาด้วย เพราะติดใจในรสชาติ
ชีวิตมันก็แบบนี้ ต้องมีเรื่องที่ดีบ้าง แย่บ้าง ปะปนกันไปเป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ
หลังจากที่ย้ายเข้าบ้านใหม่และจัดการข้าวของเข้าที่ไปแล้วแบบพอประมาณ นัทธมลก็ได้รับสายโทรศัพท์จากจีจี้อีกครั้ง
“ฮัลโหลค่ะเจ๊ มีงานแล้วใช่ไหมเอ่ย~”
เธอรีบกรอกน้ำเสียงตื่นเต้น ยังมีท่าทางกระดี๊กระด๊าให้ฟ้าณดาลุ้นตาม
[ใช่ค่าลูกสาว ถามเพื่อนหล่อนซิว่าสัปดาห์หน้าว่างไหม มีลูกค้าติดต่อเจ๊มา บอกว่าอยากได้นายแบบเด็กน่ารัก ๆ ไปถ่ายแบบแพมเพิส]
“ว่างค่ะ” นัทธมลรีบตอบไปก่อน อย่างน้อยฟ้าณดาก็จะได้มีงานเร็ว ๆ
[ดีเลย แล้วมีรูปตัวอย่างของหนู ๆ ไหม? เจ๊จะส่งให้ลูกค้าพิจารณา]
“มีทั้งเป็นรูปแล้วก็คลิปเลยค่ะเจ๊ เดี๋ยวส่งให้นะ แต่ถ้าจะเอาเยอะ ๆ เจ๊ไปดูดมาจากเพจคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวของยัยฟ้าได้เลย”
[เอานิดเดียวพอย่ะ แค่เอาไปพรีเซนต์กับลูกค้า]
จีจี้ว่าเล่นกับนัทธมล ก่อนจะได้รูปของไอเดนและอาเบลไปดู
[ต๊าย~ เด็กฝรั่ง น่ารักใช่ย่อยนะเนี่ย เจ๊ว่าลูกค้าให้ผ่านชัวร์]
เธอให้กำลังใจนัทธมลอย่างนั้น ซึ่งฟ้าณดาที่นั่งอยู่ข้างกันก็พอจะได้ยิน เธอยิ่งมีกำลังใจจนยิ้มแก้มปริทีเดียว
“ขอบคุณมากนะคะเจ๊ ไว้ถ้าได้งานนะ วันหลังหนูกับเพื่อนจะเอาพวงมาลัยไปไหว้เลย”
[นี่! กะเทยนะยะ ไม่ใช่ผีเจ้าที่ พวงมาลงมาลัยอะไรกัน]
จีจี้ว่าเล่นอย่างนั้น นัทธมลก็หัวเราะร่วนอารมณ์ดีใหญ่ “หนูไม่ได้ว่าเจ๊สักหน่อย หนูจะเอาไปให้เพราะเคารพรักเจ๊ต่างหากล่ะคะ”
[ไม่ต้องมาพิศวาสในตัวฉันเลยย่ะแม่ชะนีน้อย แค่นี้ก่อนนะเจ๊จะไปทำงานละ ไว้คืบหน้าจะโทรหาใหม่จ้า บาย~]
เมื่อจีจี้ตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว นัทธมลก็หันมายิ้มกริ่มกับเพื่อน “เตรียมแจ้งเกิดลูกแกได้เลยยัยฟ้า ฉันกับเจ๊จีจี้จะช่วยดันเอง”
ได้ยินแบบนี้ฟ้าณดาก็ยิ่งใจชื้น แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร เธอก็ได้ยินเสียงลูกร้องดังขึ้นมาเสียก่อน
“แป๊บนึงนะคะเด็กดี หิวนมใช่ไหมเอ่ย” คุณแม่พูดกับลูกด้วยน้ำเสียงหวานหู บ่งบอกถึงอุปนิสัยใจเย็นของเธอ
ขณะนั้น นัทธมลก็นั่งมองฟ้าณดาเอาลูกเข้าเต้ากินนม เท้าคางครุ่นคิด “ไอเดนเนี่ยกินนมเก่งจังเลยนะ ต่อไปต้องตัวโตมากแน่เลย”
“อื้อ ก็ดีแล้วล่ะ ถ้าตัวโต ๆ ก็แสดงว่าแข็งแรงไง”
ไม่มีใครอยากให้ลูกผอมแห้งแรงน้อยหรอก เพราะกลัวว่าจะร่างกายอ่อนแอจนสู้โรคภัยไม่ไหวน่ะ
พักหนึ่งหลังจากที่ไอเดนดูดนมจนอิ่มแล้ว อาเบลก็ร้องขึ้นมาต่อเลย ฟ้าณดาก็ต้องรีบอุ้มแฝดน้องมาเข้าเต้าอีกคน
“อาเบลก็กินเก่งพอกันเลยนะเนี่ย” นัทธมลชม “จะว่าไปแกนี่ก็เก่งนะฟ้า ตัวเล็กแต่มีนมให้ลูกกินตั้งเยอะ”
“เก่งอะไรล่ะ นี่มันเรื่องธรรมชาติหรือเปล่า”
“ไม่นะ ฉันเห็นคุณแม่บางคนก็ไม่มีน้ำนมให้ลูกทั้งที่เป็นช่วงหลังคลอดใหม่ ๆ แท้ ๆ”
คุยไปคุยมา นัทธมลก็จ้องสองเต้าอวบอิ่มของเพื่อน เธอรู้อยู่หรอกว่าฟ้าณดาเป็นคนที่ตัวเล็กแต่หุ่นดี เลยค่อนข้างมีรอบอกใหญ่สะโพกผาย
หลังคลอดลูก ร่างกายของคุณแม่ก็ยังไม่เข้าที่ เลยยังดูอวบอยู่ แต่แบบนี้ก็ดูมีน้ำมีนวล เรียกว่าสวยไปอีกแบบ
“ถ้าฉันมีลูกบ้าง จะสวยเหมือนแกไหมนะ”
“แกไม่ต้องมาแกล้งชมฉันเลย”
สวยอะไรกัน ออกจะโทรมขนาดนี้..
ฟ้าณดามองตัวเองในกระจกทุกวัน เธอย่อมรับรู้เรื่องสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปมากหลังคลอดลูกอยู่แล้ว
“ไม่ได้แกล้งชม ฉันชมจริง ๆ”
นัทธมลยังจ้องอกอิ่มของเพื่อนอยู่แบบนั้น แล้วก็ก้มมองตัวเอง “ถ้าฉันมีลูกบ้าง ก็อยากจะหน้าอกใหญ่ขึ้นแบบนี้”
“มันก็ต้องใหญ่ขึ้นอยู่แล้วไหม”
ว่าไปว่ามาฟ้าณดาก็ต้องส่ายหน้า ไม่รู้เพื่อนจะมาอิจฉาอะไรหุ่นที่พังหลังจากการคลอดลูกนี่
แต่ถึงจะบอกว่าหุ่นพังก็เถอะ ฟ้าณดาก็ยังเป็นคนที่สวยมากอย่างที่นัทธมลบอกจริง ๆ ต่อให้เธอจะพึ่งคลอดลูก แต่ในเพจของเธอก็ยังมีผู้ชายเข้ามาคอมเมนต์อยากรับเป็นพ่อบุญธรรมให้ไอเดนกับอาเบลไม่ขาด เรียกว่าโพสต์อะไรไปก็มีผู้ชายเข้ามาขายขนมจีบกันไม่พักเลยก็ว่าได้
ถ้าผู้ชายที่มันเป็นพ่อของเด็กจริง ๆ ได้รู้เรื่องนี้...จะเป็นอย่างไรกันนะ?
นัทธมลเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา และเพราะความเป็นคนไม่ค่อยระวังปาก เธอเลยเผลอโพล่งออกไปเลย
“ถ้าหากคนที่ทำแกท้องรู้ว่าเขามีลูกแฝดที่น่ารักขนาดนี้ แกว่ามันจะเป็นยังไง?”
คำถามของเธอทำให้ฟ้าณดานิ่งไปเล็กน้อย
นั่นสินะ... ถ้าผู้ชายที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนนั้นรู้เข้า เขาจะทำหน้าแบบไหนกัน?
ใบหน้าหล่อเหลาของฝรั่งผมสีน้ำตาลทอง ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเธอ และยีนนี้ก็ได้ถูกถ่ายทอดมายังลูกน้อยทั้งสองของเธอด้วย มันเลยยิ่งตอกย้ำเรื่องในคืนนั้นเข้าไปใหญ่
“ไม่รู้สิ”
ฟ้าณดาได้เพียงตอบไปแบบนั้น แล้วก็ไม่คิดจะพูดถึงชายคนนั้นอีกเลย
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?