“ไม่ใช่…แต่จะตัดทั้งพวงให้ขาด แล้วเอาไปทำกับข้าวให้นังเมียน้อยกิน อยากได้นักก็จะยกให้เลย ยิ่งรักกันปานจะกลืนกินยิ่งดี จะได้สมปรารถนาทั้งกิน ทั้งกลืน ฮ่าฮ่าฮ่า”
เจียงลี่มี่อึ้ง ไม่คิดว่าคนใจเย็นอย่างอาอี้จะพูดแบบนี้ น่ากลัวกว่าที่คิด
“อาอี้ทำฉันอึ้งนะเนี่ย แอบร้ายด้วย อีกอย่างนะเรื่องนี้มีบางอย่างพิเศษสำหรับฉันด้วย”
“อะไร?” อาอี้สงสัย
“พี่สาวของนางเอกเรื่องนี้นะสิ ชื่อเดียวกับฉันเลย เจียงลี่มี่ ชีวิตเธอก็อาภัพไม่ต่างกับฉันเลย”
“โห..บังเอิญจริง ๆ แล้วเจียงลี่มี่ในเรื่องเด่นมากไหม เป็นถึงพี่สาวนางเอก บทต้องไม่น้อยแน่ ๆ”
“เยอะมาก เด่นมากเลยล่ะ” เจียงลี่มี่พูดไปขำไปกับน้ำเสียงของอาอี้ที่เหมือนจะตื่นเต้นราวกับเป็นชื่อของตัวเอง
“มีกี่บทที่พูดถึง หรือมีบทตลอดทั้งเรื่อง”
“มีตั้งสามบรรทัด เยอะมากเลยใช่มั้ยล่ะ” เจียงลี่มี่อยากรู้ว่าอาอี้จะพูดอะไร เพราะที่เธออ่านนั้น บทเจียงลี่มี่ในนิยายมีแค่สามบรรทัด เรียกว่าเปิดตัวมาก็ตายเลย
“หาาาาา! สามบรรทัด จะบ้าเรอะ นี่มันน้อยยิ่งกว่าบทนำเสียอีก คงไม่ใช่ว่าเปิดตัวมาปุ๊บก็ตายปั๊บอะไรแบบนี้นะ”
อาอี้ค่อนขอด คนเขียนใจร้ายจริง ๆ เขียนมาได้ไงยะ สามบรรทัด น้อยเกินไปไหม นี่มันชื่อดาราดาวรุ่งพุ่งแรง ค่าตัวแพงลิบ กล้าเอาชื่อไปใช้แต่กลับเขียนถึงน้อยขนาดนี้
สำนักพิมพ์อยู่ไหน เธอจะไปเผาทิ้ง บ้านนักเขียนอยู่ไหน เธอจะไปทุบทิ้ง!
“ใจเย็นน่า เขาแต่งเรื่องนี้ตั้งแต่ฉันยังไม่สิบขวบเลยนะ คนแต่งจะไปรู้ได้ไงว่าฉันจะดัง นี่แค่บังเอิญเท่านั้น” เจียงลี่มี่พูดขำๆ อย่างไม่ใส่ใจ
“เหอะ ถ้าคนอื่นที่ตามอ่านอยู่ แล้วเห็นชื่อเธอแค่สามบรรทัด แล้วเป็นพวกขี้อิจฉาคงหัวเราะเยาะเธอไม่หยุดแน่ ไม่ได้ ฉันจะโทรไปหาคนแต่ง บอกแต่งเพิ่มเดี๋ยวนี้ ใส่ไปเลย บท เอาให้เด่นกว่านางเอกไปเลย เพราะเจียงลี่มี่ของฉันต้องเป็นนางเอกเท่านั้น” อาอี้โวยวายไม่หยุด
“อาอี้ใจเย็น ๆ มันก็แค่ชื่อในนิยาย ไม่ส่งผลอะไรกับฉันหรอกน่า”
“แค่ชื่อในนิยายงั้นเหรอ แต่นี่มันชื่อเธอเลยนะ”
อาอี้ยังคงไม่ยอม สำหรับเจียงลี่มี่ ทุกอย่างต้องดีเสมอ อาภัพแค่เรื่องครอบครัวก็พอแล้ว อย่าต้องอาภัพไปถึงนิยายเลย
“โถ่อาอี้...แค่มีชื่อฉันในนิยายเรื่องโปรด ฉันก็ดีใจมากแล้ว คิดดูสิ มีตั้งสามบรรทัดเลยนะ ใครจะโชคดีได้มีชื่อในนิยายเรื่องดังแบบฉันบ้าง”
เจียงลี่มี่พูดอย่างมีความสุข เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำให้เธอมีความสุขแล้ว อย่างน้อยเจียงลี่มี่ในนิยายก็โชคดีกว่าเธอ แม้ร่างกายอ่อนแอและต้องตายแต่แม่กับพ่อของนางก็รักนางที่สุด หากเธอเป็นเจียงลี่มี่คนนี้ เธอต้องมีความสุขมากแน่ๆ ถึงตายก็ไม่เสียดาย
“เฮ้ออออออ !” อาอี้ถอนหายใจออกมา
“อาอี้ วันนี้ฉันถ่ายละครเสร็จแล้ว ปิดกล้องแล้ว ตอนเย็นมีงานฉลอง แต่ฉันคงไม่ไปเพราะมีงานอีเว้นท์อีกที่”
“เธอเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า ฉันจัดตารางคิวงานให้เธอเยอะไปใช่มั้ย” อาอี้พูดอย่างรู้สึกผิด แต่จะให้ทำอย่างไรเพราะทุกงานเป็นงานที่แม่ของเจียงลี่มี่รับไว้ทั้งหมดก่อนจะโยนมาให้เธอจัดคิวงาน แม้จะพยายามยกเลิกไปหลายงาน แต่ตารางก็ยังแน่นมากอยู่ดี
แถมแม่ของเจียงลี่มี่ก็ต่อว่าเธออย่างรุนแรง เมื่อรู้ว่าเธอยกเลิกไปหลายงาน ต่อให้อธิบายเหตุผลว่างานมากไป เจียงลี่มี่จะไม่มีเวลาพัก แต่คนเป็นแม่ก็ไม่ยอม ที่สำคัญคือคิวชนกันเต็มไปหมด ยังไงก็ต้องยกเลิก
“ไม่เหนื่อยเลย สนุกมาก อย่างน้อยงานก็ช่วยให้ฉันไม่โดดเดี่ยว และเป็นที่หลบภัยได้ด้วย” ได้ยินแล้ว อาอี้ก็ต้องถอนหายใจอีกหน
“ลี่มี่ ฉันรักเธอเหมือนน้องสาวนะ ภาวนาให้เธอมีความสุขเสมอ ถ้ามีพรสักข้อที่ขอแล้วเป็นจริง ฉันจะขอให้เธอได้อยู่ในที่ที่ทำให้เธอมีความสุข อย่างเช่นเข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนี้ แล้วไปแก้ไขบทนะ เป็นนางเอกมันเสียเลย ถ้ายังไม่ได้เป็นนางเอก ก็ให้ย้อนกลับไปแก้ไขได้ จนกว่าจะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุข แบบนี้ดีมั้ย” เจียงลี่มี่ได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มกว้าง อาอี้ช่างคิดเหมือนกันแฮะ
“ก็ดีนะ ฉันจะมีชีวิตที่ดีและอายุยืนยาว ไม่ใช่ตัวเด่นสามบรรทัดจบ”
เจียงลี่มี่ นึกถึงความทรงจำในตอนนั้นก็ต้องหัวเราะออกมา ใครจะคิดว่า คำพูดในวันนั้นของอาอี้จะกลายเป็นความจริง เพราะตอนนี้เธอได้มาอยู่ในโลกของนิยาย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก !
การลืมตาตื่นขึ้นมาในครั้งแรกนั้น เป็นความทรงจำที่เธอจำได้ดี ตอนนั้นเธอเพิ่งจะสิบขวบ ยังเป็นเด็กน้อยร่างกายผ่ายผอมเหมือนคนอมโรค ทำให้เธอทั้งตกใจและหวาดกลัว ทุกสิ่งเป็นเรื่องที่เธอไม่เข้าใจ ได้แต่สงสัย
"คุณหนูใหญ่ ท่านฟื้นแล้ว เจ็บตรงไหนบ้างเจ้าคะ ไม่สบายตรงไหน" เธอหันไปมองตามเสียง ก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก อายุราว 10-12 ปี หน้าตาน่ารัก เด็กหญิงเม้มริมฝีปากแน่น ตาบวมแดง มีคราบน้ำตาที่แก้ม จมูกแดงก่ำ กำลังยื่นมือสั่นเทามาจับที่ตัวเธอ
"ทำอะไร" เธอตกใจ ขยับตัวถอยออกจากตรงนั้น ทำให้เด็กหญิงคนนั้นสะดุ้ง ชักมือกลับไป สีหน้าแสดงออกให้เห็นถึงความเสียใจและไม่เข้าใจ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?