“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ พวกเราจะแอบดูเช่นนี้อีกนานหรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวจูถามขึ้น เพราะวันนี้นางกับเจียงลี่มี่พากันมาแอบดูอนุกัวกับเหมยฮวาได้ราวสองชั่วยามแล้ว
“ความอดทนของเจ้านับวันยิ่งน้อยเหมือนความอ่อนเยาว์ของเจ้าที่ลดลง” เจียงลี่มี่พูดหน้าตาเฉย ทำเอาเสี่ยวจูอ้าปากค้าง พูดไม่ออก
สตรีทุกนางมีใครบ้างไม่อยากอ่อนเยาว์และคงความงดงามของตัวเองไว้ กว่าเสี่ยวจูจะหาเสียงตัวเองเจอก็ตอนที่คุณหนูใหญ่ชี้ที่ศีรษะของนาง นางยื่นมือไปคลำก็เจอกับบางสิ่ง เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันคือหนอนตัวอวบอ้วน ด้วยความตกใจจึงปามันทิ้งไป อ้าปากเตรียมจะกรีดร้อง แต่เจียงลี่มี่ยื่นมือมาอุดปากไว้แน่นหนา
“ชู่ว ห้ามเจ้าร้องออกมา เดี๋ยวพวกนั้นจับได้ว่าเรามาแอบดู”
เสี่ยวจูน้ำตาคลอ พยักหน้าเข้าใจ หันไปมองคุณหนูใหญ่ที่ตอนนี้นิ่งงัน ดวงตาจ้องไปข้างหน้า เมื่อมองตามก็พบสาเหตุ เจ้าหนอนอ้วนที่นางปาไปเมื่อครู่ มันหล่นใกล้จานขนมของอนุกัว แต่ด้วยความกล้าหาญไม่กลัวตาย มันจึงปีนขึ้นไปบนจานขนมและหยุดนิ่ง
เสี่ยวจูนั่งลุ้นระทึกเมื่อเห็นอนุกัวหยิบขนมชิ้นนั้นขึ้นมาโดยไม่มอง กัดหนึ่งคำ เคี้ยวกินอย่างอร่อย เจ้าหนอนอ้วนนั้นถึงกับขาดครึ่ง !
เสี่ยวจูอ้าปากค้าง เบิ่งตากว้าง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงอาการพะอืดพะอมของคนข้าง ๆ นางรีบยกมือลูบหลังให้ แต่สายตาจับจ้องที่ขนมในมือของอนุกัว จนมันถูกส่งเข้าปากจนหมด นางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้ง จูงมือคุณหนูใหญ่ออกมาไกล ๆ ก่อนพวกนางทั้งสองจะอาเจียนออกมาพร้อมกัน ทั้งสงสารหนอนอ้วนและคลื่นไส้กับภาพที่เห็น ต่างคนต่างผลัดกันลูบหลังกันจนดีขึ้น
“คงติดตาข้าไปอีกนาน” เจียงลี่มี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหมดเรี่ยวหมดแรง เสี่ยวจูพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
อนุกัวที่กินขนมชิ้นนั้นพร้อมหนอนอ้วนไปจนหมด เพิ่งรู้สึกแปลกๆ กับรสชาติของขนม จึงก้มมองขนมในจาน เหมยฮวาที่เหลือบตามองมารดาพอดีก็ถามขึ้นอย่างสงสัย
“มีอันใดหรือเจ้าคะท่านแม่”
“รสชาติขนมมันแปลกไป เหมือนมีรสชาติที่...เอ่อ...แม่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน” อนุกัวมีสีหน้าไม่สู้ดี รสชาติยังคงติดที่ปลายลิ้น จึงต้องดื่มน้ำชาล้างปากอีกหลายจอก
เหมยฮวาเอื้อมมือมาหยิบขนมไปชิม ก็พบว่ารสชาติปกติ
“ท่านแม่อาจระแวงไปเองเจ้าค่ะ ว่าแต่เรื่องสลับยาต้มของนาง ท่านแม่แน่ใจแล้วหรือ หากมีคนจับได้?” อนุกัวยิ้มร้าย นางวางแผนมาอย่างดี
“เจ้าไม่เห็นหรือว่าตอนนี้สภาพมันเป็นอย่างไร ผอมแห้งราวกับผีตายซาก อีกไม่นานมันก็ต้องตาย เรื่องชาที่ข้าให้เจ้าไปเป็นอย่างไรบ้าง”
เหมยฮวายิ้มหวาน เอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจ “ข้าจัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ นางไม่สงสัยข้าเลยสักนิด ข้าเห็นนางดื่มทุกครั้งที่ไปพบ”
อนุกัวมองบุตรสาวด้วยความภูมิใจ “ดี อีกไม่นานทุกอย่างจะต้องเป็นของเจ้า”
“คุณหนูใหญ่พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ อาเจียนออกไปขนาดนั้น หากใครพบเข้าคงตกใจ นึกว่าสุนัขที่ไหนป่วยจึงอาเจียนเรี่ยราดแบบนั้น” เสี่ยวจูเอ่ยเสียงอ่อน แต่เจียงลี่มี่ถึงกับต้องมองบน นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเปรียบเป็นสุนัขอย่างไรก็ไม่รู้
“คงเป็นสุนัขสองตัวที่อาเจียนทิ้งไว้”
เสี่ยวจูยิ้มขำ คุณหนูใหญ่ของนาง บางคราก็หัวไวยิ่งนัก
“พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะไปต้มยาให้คุณหนู”
เมื่อเสี่ยวจูออกไป เจียงลี่มี่ก็ทบทวนเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกครั้ง ตอนนี้นางน่าจะถูกวางยามาหลายปีแล้ว ร่างกายจึงย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้อื่นจะคิดว่าเป็นเพราะเธอป่วย จึงไม่มีใครสงสัย และเหมยฮวาก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเธอ และให้คนนำชาหรือของมาส่งให้เท่านั้น
เจียงลี่มี่ในยามนั้น เพราะความเหงาและคิดถึงน้องสาวผู้แสนดีจึงนำหมอนที่อีกฝ่ายส่งมาให้ มานอนกอดทุกคืนและยังดื่มชาทุกวัน จนสุดท้ายก็ตายไปอย่างโง่งม แต่ตอนนี้เธอรู้ทุกอย่างแล้ว เธอไม่ยอมตายแบบโง่งมเช่นนั้นแน่
เสี่ยวจูมองคุณหนูใหญ่ที่กำลังทำท่าทางแปลก ๆ ยกแขนยกขา บางครั้งทำท่าทางน่าอาย ส่ายเอวส่ายก้นไปมา ชุดที่ใส่ทั้งน้อยชิ้นและแนบเนื้อ รวบผมขึ้นเป็นมวยไว้บนศีรษะ
“เสี่ยวจูเจ้าได้ของที่ข้าต้องการมาหรือยัง” เจียงลี่มี่หยุดทุกอย่างที่กำลังทำ ก่อนจะหยิบผ้ามาซับเหงื่อ
“ได้มาแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่จะทำอาหารเช่นนั้นหรือเจ้าคะ”
เสี่ยวจูนำของไปวางบนโต๊ะตรงหน้าของคุณหนูใหญ่ ก่อนจะรีบไปหยิบผ้าผืนใหญ่มาห่อร่างผอมบาง ด้วยเกรงว่าจะมีผู้ใดมาพบเห็นแล้วจะนำไปนินทา
เจียงลี่มี่มองของตรงหน้า มีขมิ้นชัน มะขามเปียก เกลือ ไยบวบ อีกทั้งน้ำมันหอมกลิ่นต่าง ๆ กลีบดอกไม้แห้ง ดอกไม้สดจำนวนหนึ่ง
“ได้มาครบเลย ดีมาก”
เสี่ยวจูยิ้มรับ นางดีใจที่คุณหนูใหญ่ชมแบบนี้ เมื่อก่อนคุณหนูใหญ่เป็นคนนิ่งเงียบ เก็บตัว ต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิงที่ชอบออกไปแอบดูอนุกัวและบุตรสาว บางครั้งก็ชอบร่ายรำ ดูสดใสขึ้นมาก
“เจ้านำของพวกนี้ไปผสมกัน แล้วยกตามข้ามาที่อ่างอาบน้ำ”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?