“มี่เอ๋อร์เจ้าดูสิ น้องสาวของเจ้าแสนดีเพียงใด เป็นห่วงเป็นใยเจ้านัก ยามได้ข่าวว่าเจ้าอาการไม่สู้ดี ฮวาเอ๋อร์ก็ร้องไห้เสียใจ พร่ำบอกว่าหากสามารถแบ่งเบาอาการป่วยของเจ้าไปที่นางได้บ้าง ก็คงดี นางยินดีเจ็บป่วยแทนเจ้า ช่างเป็นน้องสาวที่รักพี่สาวเหลือเกิน ข้าที่เป็นแม่ได้ยินเช่นนั้นยังไม่อาจไม่หลั่งน้ำตาได้” อนุกัวบีบน้ำตา เอื้อมมือไปสะกิดบุตรสาวให้รีบเข้ามาใกล้ ๆ
“พี่ลี่มี่ ข้านำดอกไม้มามอบให้ด้วย หวังว่าท่านจะชอบ ดอกไม้ดอกนี้เป็นดอกไม้ที่ข้าปลูกด้วยตัวเอง ทั้งยังคอยดูแลเอาใจใส่ตลอดหลายเดือน เมื่อมันออกดอก ข้าจึงรีบเก็บแล้วนำมามอบให้ท่าน”
เหมยฮวายื่นดอกไม้ให้เจียงลี่มี่ ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มให้ เจียงลี่มี่ที่ตอนนี้นั่งนิ่ง ไม่เอ่ยคำใด นางค่อยๆ ยกแขนขึ้นอย่างยากลำบากและค่อย ๆ เอื้อมมือไปรับดอกไม้
“ขอบใจเจ้ามาก ข้าชอบมัน ดอกไม้ของเจ้าช่างงดงาม เหมือนเจ้าที่เป็นเจ้าของ” ในเมื่อพวกหล่อนชอบแสดงละคร ฉันก็จะเล่นด้วย
“ข้างดงามไม่เท่าพี่ลี่มี่หรอกเจ้าค่ะ” แม้ปากจะปฏิเสธ แต่เหมยฮวาก็บิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
“แน่นอน มี่เอ๋อร์ของข้าย่อมงดงามที่สุด” ฮูหยินเอกเอ่ยแทรกขึ้นด้วย ใบหน้ายิ้มแย้ม เหมยฮวาสะดุ้งตกใจ ไม่รู้ว่าฮูหยินเอกเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด
“เจ้าค่ะ ฮูหยินเอก พี่ลี่มี่งดงามยิ่งนัก เสียดายที่ร่างกายอ่อนแอ หากข้าเจ็บป่วยแทนหรือสามารถแบ่งเบาได้บ้างสักนิดก็คงดี หลายปีที่ผ่านมาข้าได้แต่กังวลและเป็นห่วง คอยสวดภาวนาขอให้พี่ลี่มี่กลับมาแข็งแรงเร็วๆ” เหมยฮวาน้ำตาไหล จับมือเรียวขาวซีดมาแนบแก้ม ท่าทางอ่อนโยน
“โถ..ฮวาเอ๋อร์ลูกแม่ เจ้าช่างจิตใจดียิ่งนัก” อนุกัวเอ่ยพลางยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา
“ขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงข้า” เจียงลี่มี่เอ่ยเพียงเท่านี้ เธอไม่อยากพูดคุยกับแม่ลูกคู่นี้
“พวกเราเป็นพี่น้องกัน ย่อมต้องรักและเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าไม่อาจหมางเมินต่อความเจ็บป่วยของพี่ลี่มี่ได้ ท่านแม่พร่ำบอกข้าเสมอให้รักและเคารพท่าน”
เจียงลี่มี่เพียงยิ้มบาง คำพูดของเหมยฮวาช่างชวนซาบซึ้งใจ แต่ภายหน้า ทุกคำพูดกลายเป็นหลอกลวง
“อนุกัวช่างประเสริฐนัก สอนบุตรได้ดียิ่ง สอนให้พี่น้องรักกัน ภายหน้าข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างถึงที่สุด สิ่งใดที่ข้าเคยได้รับ ข้าจะตอบแทนคืนกลับให้ร้อยเท่าพันเท่า ข้าเจียงลี่มี่ขอสัญญา” เธอกล่าว หากนัยสำคัญของคำพูดนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้าใจ
“โถ..คุณหนูใหญ่อย่าได้กังวล ข้ากับลูกไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน หวังเพียงให้เจ้าหายป่วยเท่านั้น” อนุกัวยังคงไม่หยุดเช็ดน้ำตา แม้ว่ามันจะหยุดไหลไปนานแล้ว เจียงลี่มี่เหลือบมองอย่างเอือมๆ แต่ก็ให้อนุกัวแสดงต่อไป
“อนุกัว เจ้ากำลังซับสิ่งใด น้ำตาเจ้าหยุดไหลไปนานแล้ว หรือว่าซับความเหี่ยวย่นบนหน้า จงหยุดเสียเถิดก่อนที่ใบหน้าของเจ้าจะหลุดลอก เปิดเผยความชราของเจ้า” ฮูหยินเอกกระทบกระเทียบตรงๆ
“ฮูหยินเอก...” อนุกัวหยุดซับน้ำตาทันที สีหน้ากระอักกระอ่วน
“พวกเจ้าสองคนกลับไปได้แล้ว มี่เอ๋อร์ของข้าจะพักผ่อน” ฮูหยินเอกออกปากไล่ หากอนุกัวกับเหมยฮวายังคงอยู่ แม้จะถูกฮูหยินเอกออกปากไล่อีกหลายหน แต่พวกนางยังคงดื้อแพ่ง
“พี่ลี่มี่ หากท่านหายดี พวกเราไปศาลเจ้าด้วยกันดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าไปศาลเจ้าทุกวันเพื่อขอพรให้ท่านหายโดยเร็ว”
เจียงลี่มี่มองเด็กสาวตรงหน้า ใบหน้างดงามแม้อายุยังน้อย อนาคตจะต้องงดงามไม่แพ้ใคร รูปร่างบอบบางน่าถนอม กิริยาวาจาล้วนนุ่มนวลอ่อนโยน สมแล้วกับบทนางเอก
โลกที่เธอจากมาเป็นยุคปัจจุบันและที่นี่เป็นโลกในนิยายเรื่ิอง ‘ผลอิงเถาของเหมยฮวา’ ทุกคนในนี้ต่างเป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้นมา เจียงลี่มี่เคยจินตนาการเกี่ยวกับหน้าตาของตัวละครเหล่านี้ ยามนี้ทุกคนอยู่ตรงหน้า แต่ละตัวละครดูดีกว่าในจินตนาการของเธอมาก
“ดีเหมือนกัน ข้าเองก็ไม่ได้ไปนานแล้ว แต่สุขภาพของข้าไม่ดีนัก เดินเพียงสามก้าวก็เหนื่อยเสียแล้ว” เจียงลี่มี่ยิ้มบางๆ หากใบหน้าซีดเซียวแก้มตอบอย่างคนเจ็บป่วยผอมแห้ง ทำให้เมื่อแย้มยิ้มดูน่ากลัวพิลึก เหมยฮวาแม้จะกวาดกลัวแต่ก็ฝืนใจยิ้มตอบ
“ท่านหมอหลวงมาพอดี” ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยทักขึ้นเมื่อเห็นหมอหลวงเข้ามา
เขายื่นมือตรวจชีพจรของเจียงลี่มี่อยู่ชั่วครู่ก็ดึงมือออก
“ท่านหมอหลวงเจ้าคะ พี่สาวของข้าจะหายดีเมื่อใดเจ้าคะ ข้าอยากพานางไปศาลเจ้าด้วยกัน” เหมยฮวาเอ่ยถาม
“ข้าไม่อาจให้คำตอบได้ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับคุณหนูใหญ่”
อนุกัวลอบยิ้มในใจ จะหายได้อย่างไร ในเมื่อเจียงลี่มี่อ่อนแอมาเนิ่นนาน ร่างกายทรุดโทรม รอเพียงความตายเท่านั้น
“พี่ลี่มี่ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ ข้าคอยท่านเสมอ”
เจียงลี่มี่มองดรุณีน้อยตรงหน้า ช่างแสนดีเหลือเกิน คำพูดทุกคำล้วนปรารถนาดีกับนาง หากไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน ต้องคิดว่าเหมยฮวาช่างแสนดี แต่เพราะเธออ่านมาแล้วนี่สิ เธอจึงมองไม่เห็นนางเอกแสนดีอีกต่อไป แต่เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าชอบแสดงละครให้ผู้คนชมดู ข้าก็จะแสดงด้วย อยากรู้นักว่าใครจะแสดงดีกว่า แนบเนียนกว่ากัน
“ไม่เป็นไร ชีวิตนี้ข้าคงไม่อาจไปศาลเจ้ากับเจ้าได้ ร่างกายข้าย่ำแย่ลงทุกวัน เช่นตอนนี้ แค่ลุกขึ้นจากตั่งนี้ ข้ายังต้องให้เสี่ยวจูช่วยพยุง”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?