เจียงลี่มี่ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความฝัน และเดินหน้าต่อด้วยการเป็นดารา แม้อาอี้จะคอยบอกให้เธอเปิดร้าน แต่สุดท้ายเธอก็ถูกแม่บงการชีวิตอยู่ดี
ทั้งชีวิตเธอทำเพื่อคนอื่นมาตลอด แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเจ็บปวด แม้แต่ตอนที่ใกล้จะตาย คนที่ทำร้ายเธอก็คือคนที่เธอรัก ภาพทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เป็นความทรงจำที่เธอไม่เคยลืม
“อาหลงรักเจเจ้ที่สุดเลย” เสียงเด็กชายตัวน้อยเอ่ยด้วยความดีใจ มองของเล่นในมือตาเป็นประกาย
“เจเจ้ก็รักอาหลงที่สุดเหมือนกัน” เธอกอดน้องชายด้วยความรักและเอ็นดู เธอตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อของเล่นที่น้องชายอยากได้ มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด
“อาหลงรักเจเจ้ที่สุด โตขึ้นอาหลงจะดูแลเจเจ้เอง จะหาเงินซื้อของเล่นให้เจเจ้บ้าง” เด็กสาวยิ้มกว้าง หอมแก้มน้องชายซ้ายขวา
“ไม่เป็นไร เจเจ้ไม่อยากได้ แค่อาหลงมีความสุข เจเจ้ก็มีความสุขมากแล้ว” เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า
“อาหลงจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับเจเจ้ จะไม่ทำให้เจเจ้เสียใจ”
เจียงลี่มี่น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงเรื่องในตอนนั้น ความทรงจำที่มีความสุข เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปี อาหลงก็ไม่สนใจเธออีกเลย มองเธอด้วยสายตาเย็นชา ไม่เคยพูดดีกับเธอ เอาแต่พูดจาเหยียดหยาม ถากถาง แม้แต่วันที่เธอจากไป แม่และน้องก็ไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ
เธอทุกข์ทรมานเพียงคนเดียวมาตลอด มีเพียงอาอี้ที่ดีกับเธอ และเป็นที่พึ่งให้เธอตลอดมา เหมือนเสี่ยวจูที่ไม่เคยทิ้งให้เธอต้องสู้เพียงลำพัง
“ลี่มี่ จำไว้นะ เธอเป็นน้องสาวของฉัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้น เธอยังมีฉัน ฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ฉันรักเธอมากนะ” อาอี้บอกกับเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ในตอนนั้นอ้อมกอดของอาอี้อบอุ่นมาก อบอุ่นไปถึงหัวใจเธอ
“คุณหนูใหญ่ ไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ ข้าอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน หากคุณหนูเป็นอะไรไป ข้าจะตามไปทุกแห่ง จะตามหาจนเจอและอยู่เคียงข้าง ข้ามีเพียงคุณหนูใหญ่ ท่านเป็นทั้งชีวิตของข้า”
นี่คือเสียงของเสี่ยวจูที่กำลังร้องไห้ข้างๆ เธอในตอนที่เธอใกล้สิ้นใจ แม้ไม่อาจลืมตา แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของมือเสี่ยวจูและน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าบนมือของเธออย่างชัดเจน หากมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะทำเพื่อทั้งสองคน ตอบแทนความรักและความดีนี้
เสียดายที่ชีวิตนี้หมดโอกาสแล้ว เสียดายที่ได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำตามที่ต้องการ
เจียงลี่มี่ทบทวนอดีตที่ผ่านมา หัวใจสั่นสะท้าน ชีวิตนี้ได้กลับมาอีกครั้ง เธอจะไม่ยอมให้อดีตซ้ำรอยอีกต่อไป ตอนนี้เธออายุสิบห้าปีเท่ากับตอนนั้นที่เธอได้รู้ความจริงในเรื่องเหมยฮวา ไม่ใช่สิบปีเหมือนตอนที่เธอหลุดเข้ามาครั้งแรกในนิยาย ตอนนี้แผนของสองแม่ลูกคู่นี้คงดำเนินมาได้หลายปีแล้ว หากเธอผิดพลาด จุดจบของชีวิตย่อมไม่ต่างจากเดิม
“พี่ลี่มี่ ท่านเจ็บปวดที่ใดเจ้าคะ ข้าเห็นท่านนิ่งเงียบมาสักพักแล้ว”
เสียงของเหมยฮวาดังขึ้นฉุดให้เจียงลี่มี่หลุดจากภวังค์ความคิด เธอมองเด็กสาวตรงหน้า เหมยฮวากำลังมีสีหน้ากังวล ใบหน้าอ่อนหวานแสดงออกถึงความเป็นห่วง
อายุเท่านี้ก็แสดงละครได้แนบเนียน ถ้าอยู่ในโลกปัจจุบัน เธอมั่นใจเลยว่าเหมยฮวาดังแต่เด็กแน่ อนุกัวสอนได้ดีจริง ๆ
“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแค่คิดว่าที่ผ่านมาเจ้าดีกับข้ามาตลอด ดีจนแม้ข้าตายก็ไม่ลืม”
เหมยฮวาอมยิ้มน้อย ๆ สองมือคว้าจับมือของเจียงลี่มี่มากุมไว้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “ข้าไม่ได้ดีอะไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าเพียงรักและห่วงท่านเท่านั้น”
ยิ่งได้ยินคำนี้ ถ้อยคำในอดีตก็ยิ่งซ้อนทับ เจียงลี่มี่อดชื่นชมไม่ได้ หากเธอไม่รู้ความจริง จะไม่มีวันดูออกว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไร
“ขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงข้า หากเจ้ายังบีบมือข้าแรงเช่นนี้ ข้อมือข้าคงหัก เจ้าช่างรักข้าได้รุนแรงนัก”
เหมยฮวาตกใจ นางไม่คิดว่าตนเองจะเผลอบีบแรงเช่นนั้น แม้ในใจจะเกลียดชังคนตรงหน้าเพียงใด แต่ท่านแม่ให้นางซ่อนไว้ในใจ ห้ามแสดงออกมาเด็ดขาด นางจึงไม่คิดว่าตนเองจะเผลอปลดปล่อยความเกลียดชังออกมา จึงรีบปล่อยมือทันที
เจียงลี่มี่ดึงมือกลับ ก่อนจะยกขึ้นมาเป่าราวกับเจ็บยิ่งนัก ทั้งที่จริงๆ เธอไม่ได้เจ็บอะไรเลย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายอยากแสดงละคร เธอก็จะร่วมแสดงด้วย
กลับมาครั้งนี้ บทนางเอกแสนดี ฉันขอแล้วกันนะ เหมยฮวา ส่วนบทนางร้าย แม้หล่อนไม่อยากรับ หล่อนก็ต้องรับ ! !
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?