“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเผลอบีบแรงไป เจ็บมากมั้ยเจ้าคะ ขอข้าดูสักหน่อย” เหมยฮวายื่นมือมาอีกครั้ง แต่เจียงลี่มี่เอามือไปแอบด้านหลัง น้ำตาคลอ สีหน้าเจ็บปวด
“ไม่เป็นไร ข้าเกรงว่าร่างกายที่อ่อนแอของข้าจะทนไม่ไหว แค่แตะเบาๆ ข้าก็เจ็บมากแล้ว” เหมยฮวาชะงักไป มองเจียงลี่มี่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้า
“เช่นนั้นข้าจะระวัง ไม่แตะโดนตัวท่านเจ้าค่ะ ท่านจะได้ไม่เจ็บ” เจียงลี่มี่ลอบยิ้ม
เหมยฮวายื่นมือไปจับมืออีกฝ่าย แต่ทันทีที่สัมผัส เจียงลี่มี่ก็ชักมือกลับพร้อมกับร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย..เจ็บ ! มือของเจ้า ยิ่งเย็นข้ายิ่งรู้สึกเจ็บ”
เหมยฮวาต้องตกใจ นางไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่คิดว่าเพียงมือของนางที่เย็นเพราะอากาศ จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดได้เช่นนี้
“ข้า...ข้า...ข้าจะทำเช่นไรดี ข้าไม่รู้แล้วเจ้าค่ะ”
เจียงลี่มี่มองท่าทางของเหมยฮวาด้วยสายตาอ่อนโยน หากในใจต้องยิ้มเยาะ เธอกำลังวางแผนบางอย่าง
“เจ้าอย่าเพิ่งโดนตัวข้าเลย ข้าเกรงว่าจะรู้สึกเจ็บ...โอ๊ย...” เสียงร้องโอดครวญของเจียงลี่มี่พลันดังขึ้น
เหมยฮวาสะดุ้งตกใจ นางยังไม่ได้โดนตัวของอีกฝ่ายเลย เหตุใดจึงเจ็บได้ เกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไป อาจเกิดปัญหากับตัวนางได้ ทางที่ดีควรไปจากที่นี่ก่อน
“เอ่อ...เช่นนั้น ข้าไม่อยู่รบกวนท่านดีกว่า ข้า...เอ่อ...ขอตัว...”
“ข้าไม่อยากอยู่ลำพัง อยากให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อน ไม่ได้หรือ” เจียงลี่มี่ดักทาง ส่งสายตาอ้อนวอนให้เหมยฮวา ใบหน้าเศร้าหมอง สองมือกอดตัวเองไว้แน่น
เหมยฮวารู้สึกหนักใจ หากอยู่แล้ว เจียงลี่มี่ร้องโอดครวญตลอดเวลา คนภายนอกได้ยินก็อาจคิดว่าถูกนางกลั่นแกล้ง หากจากไป เจียงลี่มี่ก็จะมองนางไม่ดี ไม่ยอมสนิทสนมอีกต่อไป แผนการของนางกับมารดาอาจพังได้
“แต่ถ้าข้าอยู่ ก็เกรงว่าไอเย็นจากตัวของข้าจะทำให้พี่ลี่มี่เจ็บปวด” เหมยฮวาก้มหน้าพูดแต่หลบสายตา
“ข้าหายเจ็บแล้ว เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้าเถิดนะ แค่เห็นหน้าเจ้า ข้าก็อบอุ่นแล้ว มาดื่มชาด้วยกัน ลดความเย็นลงเถอะ”
เจียงลี่มี่ส่งยิ้มอ่อนโยน พยายามยันตัวลุกขึ้นยืน แต่ทว่าขาของนางนั้นอ่อนแรง จึงทำให้ทุกการก้าวเดิน โอนเอนไปมา เหมยฮวารู้สึกขัดตายิ่งนัก ครั้นจะช่วยพยุงก็ไม่อาจทำได้ เพียงแค่ยื่นมือออกไป อีกฝ่ายก็มีสีหน้าเจ็บปวดจนต้องนำมือกลับมากุมกันไว้
“พี่ลี่มี่นั่งเถอะเจ้าค่ะ ให้ข้ารินชาให้ท่านดื่มดีกว่า”
เหมยฮวาทนไม่ไหวกับท่าทางของเจียงลี่มี่ แต่ละก้าวช่างยากเย็น โอนเอนไปมาราวกับจะล้มเสียให้ได้ การก้าวเดินก็เชื่องช้านัก นางไม่เข้าใจ เหตุใดเจียงลี่มี่จึงต้องพยายามทำเรื่องยาก แค่อยากดื่มชา นางรินให้ก็ได้
“ข้าเป็นเจ้าของห้อง ส่วนเจ้าเป็นแขก ข้าจึงอยากต้อนรับเจ้าให้ดีที่สุด” เจียงลี่มี่ส่งยิ้มซีดเซียวให้เหมยฮวา พยายามก้าวเดินจนไปถึงโต๊ะที่วางกาน้ำชา มือสั่นเทาจับหูกาน้ำชาไว้อย่างมั่นคง พยายามรินน้ำชาลงจอก แต่เหมือนเรี่ยวแรงของนางจะถูกใช้จนหมด กาน้ำชาจึงหลุดมือ
“กรี๊ด....ร้อน ๆ ๆ”
เหมยฮวาร้องและสะบัดตัวไปมา นางยืนมองเจียงลี่มี่ที่กำลังตั้งใจรินชา แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดกาน้ำชาจึงร่วงหล่นใส่ศีรษะนางเสียได้ เจียงลี่มี่ที่ได้ยินเสียงร้องก็ค่อย ๆ หันกลับไปมองต้นเสียงอย่างช้า ๆ สองมือสั่นเทาพยายามเอื้อมไปข้างหน้า หวังปลอบประโลมอีกฝ่าย
“ข้าขอโทษ เรี่ยวแรงของข้าน้อยนิด จึงทำกาน้ำชาหลุดมือ”
เหมยฮวาจ้องมองด้วยสายตาขุ่นเคือง หลุดมือ? หากหลุดมือมันต้องตกลงพื้น แต่นี่มันถูกโยนมาใส่ศีรษะนาง
“หลุดมืออย่างไร จึงโดนศีรษะข้าได้ ท่านยืนอยู่ด้านหน้า ข้ายืนอยู่ด้านหลัง หากหลุดมือ ย่อมต้องตกลงที่พื้นสิ”
เหมยฮวาจ้องหน้าอีกฝ่าย สายตาคาดคั้น เจียงลี่มี่ตัวสั่น น้ำตาคลอ ส่ายหน้าไปมา
“ข้า...ข้าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าก็เห็น ข้าแค่เดินยังไร้เรี่ยวแรง แล้วจะเอาเรี่ยวแรงจากที่ใดมาโยนกาน้ำชาใส่ศีรษะเจ้าได้ คงเพราะกาน้ำชามันหนักมาก ข้าจึงตั้งใจจะยกมันให้สูงขึ้น แต่คงออกแรงมากไป จึงยกขึ้นสูงและทำหลุดมือ ข้าเป็นพี่สาวเจ้า จะรังแกเจ้าได้อย่างไร”
เหมยฮวาพิจารณาอีกครั้ง ร่างกายเจียงลี่มี่อ่อนแอ ทั้งยังหัวอ่อน ไม่มีทางทำร้ายนางได้ ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นย่อมเป็นเหตุบังเอิญ
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ข้าแสบร้อนไปทั้งตัวแล้ว”
เหมยฮวาเก็บความรู้สึกโกรธเกรี้ยวไว้ในใจ แย้มยิ้มให้เล็กน้อยก็รีบจากไปพร้อมอนุกัว
ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยและหมอหลวงที่อยู่ในห้องนี้ด้วย จับจ้องเจียงลี่มี่อย่างแปลกใจ พวกเขาเห็นชัดเจนว่าเจียงลี่มี่เหวี่ยงกาน้ำชาลงบนศีรษะของเหมยฮวาอย่างแม่นยำ
“ท่านหมอมองผ่านไปเถิด บางเรื่องก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กๆ” ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยเอ่ยขึ้น นางจับความผิดปกติของเหตุการณ์นี้ได้ เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่นางจะซักถามบุตรสาว
หมอหลวงพยักหน้า เขาเองก็พอเข้าใจ บุตรีของฮูหยินเอกกับบุตรีของอนุ ไม่ว่าบ้านใดหรือจวนใดล้วนยากปรองดอง
“คุณหนูใหญ่อาการดีขึ้นแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน มีอะไร ก็ให้คนไปตามข้าได้ตลอดเวลา” หมอหลวงขอตัวกลับ เรื่องภายในบ้านผู้อื่น เขาไม่ยุ่งเกี่ยว
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?