“พี่ลี่มี่ ท่านเป็นคู่หมั้นของเหวินอ๋อง ท่านช่างโชคดีนัก ข้าอิจฉาท่านจริงๆ ตัวข้าไร้วาสนา หามีผู้ใดสนใจ เกิดมาต่ำต้อย คงไม่อาจหาคู่ครองที่ดีได้” เหมยฮวายิ้มบาง แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่สีหน้ายังคงสดใส ราวกับกล่าวโดยไม่คิดอะไร
หากเจียงลี่มี่ทราบดี ที่เหมยฮวากล่าวว่าอิจฉานั้นเป็นเรื่องจริง อิจฉาจนวางแผนแย่งชิงทุกสิ่งไป ทั้งยังฆ่าเธออย่างเลือดเย็น
“ข้าก็คิดเช่นนั้น วาสนาข้าช่างดีนัก ทั้งชีวิตไม่คิดว่าจะได้ครอบครองตำแหน่งหวังเฟย อีกไม่นาน ข้าจะได้พบเหวินอ๋องและแต่งงานกัน”
เหมยฮวายิ้มเย็น สองมือจับมือเรียวมากุมไว้ก่อนจะกล่าว “หากอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง พี่ลี่มี่จะทำเช่นไร ความฝันแม้สวยงาม แต่หากแตกสลายข้าเกรงว่าท่านอาจทนไม่ไหว ข้าเป็นห่วงท่านเจ้าค่ะ”
เจียงลี่มี่จับกุมมือของน้องสาวแน่น สบตาของอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มจนตาหยี “ข้าจะไม่ยอมเสียเขาไปให้ใคร ของที่เป็นของข้าก็คือของข้า หากใครจะชิงเขาไป ก็ข้ามศพข้าไปก่อน แต่ข้านั้นอ่อนแอ เฉียดใกล้ความตายมาหลายครั้ง ไม่นานก็คงมีสตรีข้ามศพข้าไปอยู่ดี วาสนาข้าช่างสั้นนัก”
เหมยฮวากอดเจียงลี่มี่ ราวกับต้องการปลอบใจ มือลูบหลังบอบบางอย่างอ่อนโยน “หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะปกป้องตำแหน่งหวังเฟยแทนท่านเอง จะไม่ยอมให้สตรีใดได้ครอบครองเหวินอ๋อง ข้าจะสานต่อแทนท่าน เป็นหวังเฟย”
เจียงลี่มี่ที่ได้ยินแบบนั้น ก็กอดอีกฝ่ายแน่น แล้วหัวเราะเสียงใส “แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ตาย เจ้าลืมแล้วกระมัง”
เหมยฮวาค่อย ๆ ปล่อยอ้อมแขน ก่อนจะทำท่าขวยเขิน “ข้าพูดจาไม่คิดเจ้าค่ะ ต้องขออภัย ตอนนี้ข้ามารบกวนท่านนานแล้ว ข้ากลับก่อนดีกว่า แล้วข้าจะมาหาท่านอีก ข้าลาเจ้าค่ะ”
เหมยฮวาไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดอีก จึงคิดหลีกหนีด้วยการกลับไปตั้งหลัก เพราะนางเผลอพูดอะไรที่ผิดพลาดไป หากท่านแม่รู้ นางต้องถูกตำหนิ
“ขอบใจเจ้ามากที่มาอยู่เป็นเพื่อนข้า” เจียงลี่มี่พยักหน้าให้เสี่ยวจูมาพยุงเธอเดินมาส่งเหมยฮวาที่หน้าประตูห้อง
ทันทีที่เหมยฮวาลับสายตา เสี่ยวจูก็จีบปากจีบคอพูดทันที “ข้าจะสานต่อแทนท่านเป็นหวังเฟย หึ!! ช่างกล้า คุณหนูใหญ่ของข้ายังไม่ทันหมดลมหายใจก็ประกาศเช่นนี้แล้ว คุณหนูใหญ่ต้องระวังคุณหนูรองให้ดีนะเจ้าคะ คำพูดเคลือบยาพิษเช่นนี้ ไว้ใจไม่ได้”
เจียงลี่มี่มองดูเสี่ยวจู แล้วอดหัวเราะไม่ได้ “นางเป็นน้องสาวข้า ไฉนจะคิดร้ายกับข้าที่เป็นพี่สาว และข้ายังอ่อนแอจนไม่รู้ว่าจะตายเมื่อใด”
หากเจียงลี่มี่ทราบดีว่าอนาคตเป็นเช่นไร ก้าวพลาดเพียงเล็กน้อยก็ต้องเสียชีวิต สิ่งที่เหมยฮวาต้องการ เธอจะขัดขวาง แม้ในนิยายจะเขียนให้สุดท้ายแล้วตำแหน่งคู่หมั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นเหมยฮวา แต่ช่างหัวนักเขียนสิ เธอจะเขียนเรื่องราวใหม่เอง
“แต่อนุกัวร้ายกาจมาก ข้าเกรงว่าคุณหนูรองคงไม่ต่างจากอนุกัว”
“ข้ามีเจ้า ข้าก็ไม่กลัวอะไรแล้ว” กลับมาครั้งนี้ เธอมีแผนรองรับไว้แล้ว ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว ต่อให้สิบเหมยฮวา ร้อยอนุกัว เธอก็ไม่หวั่น
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูใหญ่ เหตุใดท่านจึงนั่งตาลอยเช่นนี้ หรืออาการจะกำเริบ” เสียงเสี่ยวจูดังขึ้นพร้อมกับเขย่าร่างของเจียงลี่มี่ ทำให้เธอหลุดจากภวังค์
“เขย่าแรงขนาดนี้ กลัวศีรษะข้าจะไม่ร่วงลงพื้น?” เธอบอกพร้อมค่อย ๆ หมุนคอไปมา แรงเขย่าของเสี่ยวจูทำให้เธอรู้สึกเหมือนคอจะหลุดออกจากบ่า
“อ๊ะ ข้าเผลอทำแรงไป ดูสิตาของคุณหนูใหญ่ปูดโปน เกือบหลุดเสียแล้ว” เจียงลี่มี่ยกมือขึ้นคลำบริเวณดวงหน้า หรือนางมาอยู่ในร่างนี้ตอนเสื่อมสภาพแล้ว เหตุใดอวัยวะจึงหลุดง่ายดายเช่นนี้
“ข้าเหมือนซากศพ?”
เสี่ยวจูจ้องมองคุณหนูใหญ่ของนางก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเจ้าค่ะ ท่านผอมจนหนังหุ้มกระดูก ผิวขาวซีด รอยยิ้มจืดจาง รูปร่างแคระแกร็น ผมยาว หากพบเจอยามค่ำคืน ผู้ใดพบเห็นก็ต้องบอกว่าผีเจ้าค่ะ”
เสี่ยวจู...ถึงมันจะเป็นความจริง แต่เจ้าไม่ต้องพูดตรงขนาดนี้ก็ได้นะ เจียงลี่มี่นึกค่อนขอดในใจ
ผี? ขอเวลาข้าเตรียมตัวอีกสักนิด ข้าจะไม่ยอมตายเป็นครั้งที่สามแน่
“คุณหนูใหญ่ เหตุใดตื่นแล้วจึงไม่ลุกมาล้างหน้าเจ้าคะ ข้าเห็นท่านนั่งมองปิ่นปักผมอันนี้ตั้งนานแล้ว มีสิ่งใดผิดปกติหรือเจ้าคะ” เสี่ยวจูถามขึ้นเมื่อนางเข้ามาในห้องของเจียงลี่มี่ตอนเช้าของวันนี้
“ปิ่นนี้มีผีสิง” เจียงลี่มี่เอ่ยเสียงเรียบ แต่ประโยคนั้นทำให้เสี่ยวจูตกใจ รีบขยับตัวออกห่างทันที
ผี? หรือว่าที่คุณหนูป่วย ก็เพราะผีที่สิงในปิ่นนี้
“คุณหนูใหญ่ท่านอย่าเอ่ยเช่นนี้สิเจ้าคะ ในปิ่นจะมีผีได้อย่างไร”
เจียงลี่มี่เลื่อนสายตาไปมองเสี่ยวจู ใบหน้านิ่งเฉย ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อคืนข้ากำลังใกล้จะหลับ แต่รู้สึกได้ถึงไอเย็นประหลาด เมื่อลืมตาดูก็เห็นควันสีขาว ลอยออกมาเป็นรูปร่างคน มันออกมาจากปิ่นอันนั้น”
เสี่ยวจูขนลุกซู่ คุณหนูใหญ่ไม่เคยเอ่ยเรื่องผีมาก่อน และท่าทางของนางก็ไม่เหมือนคนที่กำลังโกหก แสดงว่าในปิ่นต้องมีผีจริง ๆ !
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?